Deft Go : Mercedes Benz Charity Start Drive ขับตัวหรูไปทำบุญกับน้อง ....

  • โดย : Autodeft
  • 18 ต.ค. 59
  • 8,537 อ่าน

เคยคิดไหมครับว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งคุณเกิดมีกำลังทรัพย์ส่วนตัว ไม่ว่าจะด้วยจากความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรือจากการเสี่ยงโชค ตลอดจนไม่ว่าอะไรก็ตามที่เสกคุรให้กลายเป็นเศรษฐี คุณจะทำอะไร ...

 

สำหรับหลายคนคงเริ่มต้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก่อนอื่นใด ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนะพูดกล่าวในลักษณะดังกล่าว หากว่า  นอกจากการพัฒนาตนเองแล้ว ถ้ากำลังทรัพย์ของคุณสามารถช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาให้เติบใหญ่เป็นคนดีของสังคมและเป็นกำลังสำคัญของชาติ คุณว่าคุณจะทำไหม...

Mercedes Benz  Charity Drive

ทีแรกผมเองกะว่าจะเขียนการขับตัวหรูตลอด   3 วัน ออกมาเป็นบททดสอบ แต่นั่งตระหนักไปมา ..บทความรีวิวนึกจะเขียนเมื่อไร ก็เขียนได้ ยืมรถกลับมาทำรีวิวเมื่อไร ก็เป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่กับความประทับใจที่มีโอกาสได้ร่วมคาราวานเดินทางไปทำบุญกับบริษัทรถยนต์ชั้นนำ   Mercedes Benz 

ตั้งแต่ได้รับหมายงาน ผมเองไม่ตอบปฏิเสธที่จะไปร่วมทริปในครั้งนี้แม้ต้องจากลาบ้านไปหลายวัน รวมถึงคนรักที่เฝ้าเบรกผมไม่อยากให้ไปงานนานๆ .. เดี่ยว “คิดถึง” ... แต่สำหรับผม นี่ถือเป็นทริปห้ามพลาด ด้วยนอกจากจะมีโอกาส สัมผัสรถยนต์   Mercedes Benz   กลุ่มอเนกประสงค์ อย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ยังถือโอกาสไปสร้างบุญกุศล ก็ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสแบบนี้มากน้อยเพียงใด

ผมอาจจะไม่ใช่คนธรรมะธรรมโม ตกวันอาทิตย์นุ่งขาวห่มขาวเข้าวัด หากว่าผมก็ยึดมั่นในการการทำความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น รักษาศีล 5  มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

การเดินทางกับเมอร์เซเดส เริ่มต้นวันแรกการเดินทาง พี่วิฑิตจาก  Auto-Thailand.com  จับได้  รถยนต์   Mercedes Benz  GLC   ผมยังไม่เคยลองขับมันเหมือนกัน แม้นว่าจะเปิดตัวมาได้ปีกว่า แล้วก็ตาม

Mercedes Benz  Charity Drive

อเนกประสงค์ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กพกความหรูไว้อย่างครบครัน แต่งองค์ทรงเครื่องมาหลายออพชั่น ทำให้คนที่อยากหรูแต่งงบจำกัดสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้   Mercedes Benz   GLC ยังคงความเป็น   Mercedes Benz   ไว้อย่างเหนียวแน่นด้วยความหรูหรา หน้าตาดูค่อนข้างทันสมัย จนคนอย่างผมวัยสามสิบต้นก็สะดุดตาอยากจะจับจองเป็นชิเจ้าของบ้างถ้ามีโอกาส

พี่วิฑิตขับไม้แรกจากกรุงเทพ ผมนั่งข้างๆไปเพื่อนร่วมทาง คุยไปบ้างพลางแก้ง่วงระหว่างทาง ตัวรถค่อนข้างตอบสนองได้ดี เจ้า   GLC  250d   มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล   2.2 ลิตร   ตอบโจทย์ด้วยกำลังสูงสุด   204   แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด   500   นิวตันเมตร  สนองความนิยมนวลในการขับขี่ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ  9  สปีด ทำให้ เครื่องยนต์เล็กจิ๋วก็ทรงพลังได้ไม่ต่างจากรุ่นใหญ่ในค่าย

ช่วงแรกที่พี่วิฑิตขับผมรู้สึกว่า เจ้า   GLC   เป็นรถอเนกประสงค์ที่ใช้ได้มันขับได้ดี แต่จะว่าไปช่วงล่างของมันค่อนข้างจะออกไปทางสปอร์ตตอบโจทย์วัยรุ่นแข้งกระด้างเป้นใหญ่มากกว่าในเรื่องของความนุ่มนวลสบายในการเดินทาง ใครที่ชอบขับรถเร็วแข่งบี้เวลาคงจะชอบเจ้า   GLC   เป็นแน่แท้ โดยเฉพาะเมื่อคุณเจอสถานการณ์สำคัญ อย่างการหลบหลีกหน้าสิ่วหน้าขวาน เช่นเพื่อร่วมทางตกใจขบวนของเร พาลเอาเบรกกระทันหันตรงหน้าทื่อๆ จนผมเองต้องโยกหนีอย่างกระทันหันด้วยความเร็วพอประมาณ

Mercedes Benz  GLC  แม้จะเกิดมาเป็นตัวหรูก็ได้หวั่นใจไม่ รถตอบสอนงการขับขี่ได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบท้ายรถไม่ค่อยมีอาการเหวี่ยงและทรงที่ออกเป็นรถท้ายสั้นทำให้   Mercedes Benz  GLC สามารถควบคุมได้ง่ายพอสมควร จนถ้ามานั่งกับผมในนาทีนี้แล้วลืมความเป็นอเนกประสงค์มันไป มันค่อนข้างได้อารมณ์ความเป็นรถสปอร์ตอยู่บ้างพอสมควร

ครึ่งวันกับ   GLC   ผ่านไป ในที่สุดก็มีโอกาสได้ลองกับ   Mercedes Benz  GLE 500e  บ้าง เจ้าหรูอเนกประสงค์เสียบปลั้กคันนี้ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย  ที่ต้องการบุกตลาดเมืองไทย ด้วยรถยนต์ประเภทไฮบริดเสียบปลั้ก  มันคือ   Mercedes Benz  ML   เดิม หากรุ่นใหท่เปลี่ยนชื่อ แล้วเพิ่มเวอร์ชั่นไฮบริดเข้ามา ก่อนโยนเวอร์ชั่นเครื่องดีเซลทิ้งไป

Mercedes Benz  Charity Drive

หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยศรัทธาในเครื่องยนต์ไฮบริด แต่วัยชนคนรุ่นใหม่แบบผมหาได้เกรงกลัวไม่ มันเป็นโอกาสดีที่จะได้ลองอะไรใหม่ โดยเฉพาะหลายคน ที่ไม่ค่อนจะเข้าใจตัวรถสักเท่าไรนัก

ใต้เรือนร่างสูงใหญ่อเนกประสงค์  Mercedes Benz  GLE 500e  ไม่ธรรมดา ด้วยเครื่องยนต์ V6   ขนาด   3. 0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด   333  แรม้า และทำแรงบิดได้สูงสุดถึง   480   นิวตันเมตร มาเนียนๆ ตั้งแต่แรกเริ่มออกตัว ช่วงต้น  1,800 – 4,000 รอบต่อนาที ตลอดจนกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าก็หนักแน่นไม่แพ้กัน  116   แรงม้า และทำแรงบิด 340   นิวตันเมตร

ภาพที่ดูเหมือนช้างน้ำตัวใหญ่ๆ คุณอย่าได้ประมาทมันไป เห็นแบบนี้   Mercedes Benz  GLE 500e  วิ่งประดุจบินได้ เสียงคำรามของเครื่องยนต์  V6   ไม่ต่างจากเสียงซิมโฟนี่จากวงโอเปร่าชั้นเลิศ มันให้ความไพเร่าะเสนาะหูทุกครั้งที่กดรอบเร่งเครื่องยนต์ลงไป หากทีเด็ดที่แจ๋วกว่าที่เรากล่าวมาคงไม่พ้นเพื่อนเกลอมอเตอร์ไฟฟ้าที่พาคุณกระชากหลังจมเบาะหน่อยๆ ให้ฟีลรถสปอร์ต แต่ไม่ดุดันมากมายนัก

ถ้าคุณจะถามผมว่า มันแรงแค่ไหนบอกเลยว่า   Mercedes Benz  GLE500e   ไม่ธรรมดา จากรายละเอียดทางเทคนิคของเมอร์เซเดสเบนซ์ พวกเขาเคลมอัตราเร่ง   0-100   ก.ม./ช.ม.   ในเวลา  5.3   วินาที นี่เรากำลังพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางนะไม่ใช่ ...รถสปอร์ตชั้นนำ  อย่าแปลกใจถ้าคุณเห็นอเนกประสงค์ร่างยักษ์คันนี้ปลิวหายไปบนถนน ไปต่อหน้าต่อตา

Mercedes Benz  Charity Drive

วันต่อมา ผมยังขับเจ้า   Mercedes Benz  GLE 500e   เหมือนเดิม การได้เจ้ารถอเนกประสงค์คันนี้ ถือเป็นความโชคดีมากๆ ในแดนใต้ใครก็รู้ว่าที่นี่ฝนตกชุก เรียกว่า ทั้งปีมีเพียง  2  ฤดู คือไม่ฝนก็ร้อน ... ไปเลย

หน้าฝนแบบนี้จะขับรถยนต์ให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้ว่าคุณอาจจะฝึกขับทักษะดี แต่รถเองก็มีความสำคัญอย่างมาก และระบบหนึ่งที่ช่วยได้ในการขับขี่คือระบบ   4 Matic   ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ที่ทำให้ทางลื่นน่าหวั่นใจสามารถวางใจได้ทุกเส้นทาง และวางใจได้มากขึ้นด้วยระบบ   4 ETS  ระบบควบคุมช่วยในการยึดเกาะถนน

ตลอดเวลาที่ผ่านเส้นทางที่เปี่ยมไปด้วยความชุ่มฉ่ำ หนักบ้างเบาบ้างตามสภาวะอาการจะปราณี เจ้า   Mercedes Benz  GLE 500e  พาเราผ่านไปได้ด้วยความมั่นใจตลอดเส้นทาง ตัวรถที่ใหญ่ดูภูมิฐานสามารถขับได้อย่างมาดมั่น คุณจะรู้สึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษองค์อาจทุกครั้งที่เหยียบคันเร่งเติมลงไป มันก็ยังแซงว่องไวไม่เปลี่ยนแปลง

ยิ่งกับถนนสองเล่นเจ้ายักษ์ใหญ่คันนี้อาจจะดูเชื่อช้าในสายตาของใครหลายคน แต่เมื่อต้องจัดการอะไรก็ตาม มันสามารถทำได้อย่างรวดเร็วไม่น่าเชื่อ นี่คือวิถีผู้บริหารโดยแท้มันพร้อมรับมือทุกสถานการณ์อย่างไม่น่าหวาดหวั่น ยิ่งนวันสุดท้ายเส้นทางมุ่งสู่จังหวัดพังงา ไปยังโรงเรียนเยาววิทย์  Mercedes Benz  GLE 500e   เจ้าไฮบริดเสียบปลั้กขับด้วยความองอาจ มั่นใจ ฝนที่เทลงมาอย่างต่อเนื่องเปรียบดั่งอุปสรรค ไม่เคยทำให้เราย่อท่อ ถนนน้ำท่วมขังเป็นระยะใช่อุปสสรค เช่นเดียวกับเส้นทางที่คดเขี้ยวลดเลี้ยวไปตามป่าพณาไพรแดนใต้ จนยังมีเวลาให้เราชื่นชมว่า ป่าแดนใต้นี่ก้เขียวชะอุ่มไม่แพ้ภาคเหนือของประเทศไทยที่ผ่านมา

Mercedes Benz  Charity Drive

ตลอด  3  วันที่ผ่านมาจากการขับรถมาจากกรุงเทพ สำหรับหลายคนอาจจะคิดว่าจะเหนื่อยทำไมให้เสียเวลาและแรงงาน แต่คุณจะรู้ได้ถึงการเดินทางด้วยความตั้งใจของทีมงาน   Mercedes Benz  ตลอดจนกองทัพสื่อมวลชนทุกคน ที่เดินทางมาด้วยกัน

โรงเรียนเยาววิทย์ เป็นอนุสรณ์อย่างหนึ่งจากเหตุการณ์  สึนามิในประเทศไทย ในครั้งนั้นเด็กๆ หลายคนต้องสูญเสียครอบครัวและกลายเป็นเด็กกำพร้า ตัวโรงเรียนก่อสร้างขึ้นในระยะเวลา   2-3   สัปดาห์จากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดของประเทศไทย บนเนื้อที่  137.5   ไร่ อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านกะปง โดยทางโรงเรียนได้รับการสนับสนุนจาก  มูลนิธิ Stiftung Children's World Academy ในประเทศเยอรมันนี และ Children's World Academy Foundation  ตัวโรงเรียนจดทะเบียนเป็นโรงเรียนประชาสงเคราะห์ สามารถรองรับเด็กนักเรียนประจำได้   150   คน ตลอดจนยังรับเด็กๆ ที่เดินทางไปกลับ โดยโรงเรียนเปิดทำการเมื่อวันที่  24   เมษายน   พ.ศ   2549   โดยพระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นปรานในพิธีเปิดโรงเรียนแห่งนี้

Mercedes Benz  Charity Drive

Mercedes Benz  Charity Drive

Mercedes Benz  Charity Drive

และนับเป็นเวลากว่า   10 ปี ที่โรงเรียนนี้ก่อตั้งขึ้นภายใต้ความตั้งใจจริงของผู้ที่เล็งเห็นการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งของประเทศไทย   Mercedes Benz   ประเทศไทยเอง เป็นหนึ่งในบรรษัทที่ร่วมสนับสนุนการก่อตั้งโรงเรียนนี้และตลอดทุกปีจะเดินทางมาสนับสนุนโรงเรียนจนเป็นดั่งประเพณีหนึ่ง เพื่อลำรึกถึงเหตุการณ์สำคัญของบริษัทรถยนต์ชั้นนำรายนี้

ปัจจุบัน นักเรียนของโรงเรียนเยาววิทย์ ดั้งเดิมบางส่วนก้าวเข้าสู่ระดับมัธยมศึกษาแล้ว โดยปัจจุบันโรงเรียนเยาววิทย์ยังคงให้การเรียนการสอนแก่เด็กผู้ด้อยโอกาส  ด้วยระบบการศึกษาแบบ  2  ภาษา ตลอดจนยังพัฒนาทักษะทางด้านต่างๆที่จำเป็น เพื่อให้หลุดพ้นจากวงจรของความยากจน อาทิ การฝึกทักษะ เกษตรกรรม , การท่องเที่ยว และการพยาบาล ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต

วันนี้ทีมงาน   Mercedes Benz   ,สื่อมวลชน ตลอดจนทีมงานทางด้านประชาสัมพันธ์จาก  Verve   ร่วมกันปลูกต้นไทยดำให้น้องๆ โรงเรียนเยาววิทย์ อีกทั้งทาง   Mercedes Benz   ยัง มอบทุนสนับสนุนการดำเนินกิจการให้กับผู้อำนวยการดรงเรียนเพื่อใช้ในการทำนุบำรุงการศึกษาต่อไป

หนทางไกลแต่อิ่มใจได้บุญ จากกรุงเทพมายังปลายทางโรงเรียนเยาววิทย์ ผมได้ตระหนึกถึงการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครั้งสำคัญว่า มันไม่สำคัญว่าเรามีมากเท่าไรในชีวิตนี้ แต่มันสำคัญมากกว่าว่าในชีวิตนี้เราให้อะไรกับใครบ้างหรือยัง ... และแม้การเดินทางมาทำความดีครั้งนี้อาจเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ สำหรับในสายตาใครหลายคน แต่มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้อนาคตของชาติในวันนี้ สามารถก้าวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ