เจาะรถเด่น!! 2021 Nissan Leaf e+ เก๋งไฟฟ้ารุ่นเด่นเวอร์ชั่นแบตใหญ่ ที่ลุ้นอยากให้เข้าไทย

  • โดย : Autodeft
  • 23 มิ.ย. 64
  • 5,224 อ่าน

ถึงแม้ต่างประเทศได้จำหน่าย Nissan Leaf e+ เก๋ง 5 ประตูพลังไฟฟ้า 100 % จากค่ายเพื่อนที่แสนดี ที่ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเพื่อเอาใจสาวกคนรักษ์โลก ด้วยการเพิ่มขุมพลังใหม่ที่แรงกว่าและเร็วกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นๆ

Nissan Leaf e+

รูปโฉม Nissan Leaf e+ เหมือน Nissan Leaf รุ่นปกติไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้ารูปตัววี V-Motion แบบ สีฟ้าใส ลงตัวด้วยไฟหน้า Projector แบบ LED คู่ทรงบูมเมอแรงแต่เรียวขึ้นพร้อมไฟ DRL ไฟท้าย เอกลักษณ์เด่นที่ใช้ในรถ Nissan ทุกรุ่น ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 และความสูงของรถที่เพิ่มขึ้นอีก 5 มม.

Nissan Leaf e+

ภายในเพิ่มเติมคือหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว NissanConnect infotainment รองรับทุกรูปแบบทั้ง Apple CarPlay ,Android Auto กับระบบนำทางสมบูรณ์แบบ พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE 7 จุดพร้อมออพชั่นเดิมๆทั้ง มาตรวัดวามเร็วรถแบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว เพื่อส่งเสริมให้ฟีเจอร์หลัก ๆ เช่น เทคโนโลยี Safety Shield มาตรวัดพลังงาน ฟังก์ชั่นเสียง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงท้ายตัด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ สบายด้วยเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง โดยด้านท้ายมีพื้นที่สัมภาระมากถึง 435 ลิตร เอาใจคนชอบขนของโดยเฉพาะ

Nissan Leaf

Nissan Leaf e+

แรงด้วยพลังไฟฟ้าที่อัพเกรดเพิ่มขนาดของแบตเตอรี่ ให้กลายเป็นขนาด 62 กิโลวัตต์ชั่วโมง (เดิม 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง) และเพิ่มกำลังของมอเตอร์ให้มากขึ้น กลายเป็นขนาด 217 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร (เดิม 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร) สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 385 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (เดิม 320 กิโลเมตร) และเพิ่มกำลังในการชาร์จได้จากเดิมที่ 50 กิโลวัตต์ ให้เป็นรองรับได้มากถึง 100 กิโลวัตต์ ทำให้ถึงแม้แบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ถ้าชาร์จแบบเร็ว ก็จะใช้เวลาในการชาร์จที่น้อยกว่าเดิม

พร้อมระบบช่วยขับอัตโนมัติ ProPILOT ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมการทำงานของตัวรถ, เบรก และอัตราเร่ง ไปในทิศทางเดียวกัน และช่วยลดความจุกจิกกวนใจในเรื่องการขับขี่บนทางหลวงที่ต้องมีการหยุดและชะลอตัวตลอดเวลา พร้อมระบบ ProPILOT Park ควบคุมพวงมาลัย การควบคุมการเร่ง เบรก การเปลี่ยนเกียร์ และเบรกมือเพื่อให้ตัวรถเข้าสู่ช่องจอดได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจอดรถ รวมถึงการจอดขนาน ได้อย่างปลอดภัย ระบบการขับขี่ e-Pedal ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนวิธีการขับขี่ไปอย่างสิ้นเชิง โดยรวมเอาทั้งการเร่งความเร็วรถ และเบรกรถไว้ที่แป้นเดียว หลักการทำงานคือเมื่อเราต้องการเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าไปข้างหน้า ก็กดที่แป้นลงไป รถก็จะเคลื่อนตัวไป แต่เมื่อเราเริ่มถอนคันเร่งเมื่อไหร่ รถจะเริ่มทำการเบรกให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อรถหยุดสนิท

Nissan Leaf e+

Nissan Leaf e+

Nissan Leaf e+ รถไฟฟ้าเวอร์ชั่นแบตใหญ่จากค่ายเพื่อนที่แสนดี เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่อเมริกา เมื่อต้นปี 2019 และได้จำหน่ายที่ ญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย และอาจมีแนวโน้มที่จะเข้ามามาขายในไทย แต่จะเป็นช่วงเวลาไหนนั้นต้องติดตาม

 

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ