ซีอีโอ GM เผย กฎประหยัดเชื้อเพลิงยุคไบเดนเคยทำบริษัทเสี่ยงต้องปิดโรงงาน หากยอดขายรถสันดาปไม่ลดตามข้อบังคับ
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 7 ธ.ค. 68 12:32
- 1,044 อ่าน
Mary Barra ซีอีโอของ General Motors เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับงานสัมมนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของ The New York Times ว่า กฎประหยัดเชื้อเพลิงที่ออกในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีความเข้มงวดถึงขั้นทำให้ GM อาจต้องลดกำลังการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในลงอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาลกลาง

Barra ระบุว่ากฎที่กำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องทำค่าเฉลี่ยอัตราประหยัดเชื้อเพลิงของรถทั้งไลน์อัปให้ถึง 50 ไมล์ต่อแกลลอนภายในปี 2031 นั้นสูงเกินกว่าความเป็นจริง Bloomberg วิเคราะห์ว่าตัวเลขนี้หมายถึงยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องคิดเป็นมากกว่าครึ่งของยอดขายทั้งหมดภายในช่วงเวลาดังกล่าว หาก GM ไม่สามารถทำได้ บริษัทอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลดจำนวนรถสันดาปที่ขายในตลาด
ซีอีโอ GM กล่าวเพิ่มเติมว่าภายใต้การคาดการณ์ภายใน หากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไม่เติบโตเร็วพอ บริษัท “อาจต้องเริ่มปิดโรงงานบางแห่ง” เพื่อให้ค่าเฉลี่ยการปล่อยมลพิษเป็นไปตามกฎที่กำหนดไว้ โดยทั้งหมดนี้สะท้อนแรงกดดันของค่ายรถรายใหญ่จากกฎควบคุมยุคไบเดนอย่างชัดเจน

ด้านบริบททางการเมือง คำให้สัมภาษณ์ของ Barra เกิดขึ้นไม่นานหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันการลดความเข้มงวดของมาตรฐาน CAFE ทำให้ความกดดันในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลดลง และช่วยให้ผู้ผลิตมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นในการผลิตและจำหน่ายรถสันดาป
ระหว่างการสนทนา ผู้สัมภาษณ์ Andrew Ross Sorkin ยังถามถึงเหตุผลที่ GM เปลี่ยนจุดยืนเรื่องนโยบายรถยนต์หลายครั้ง ระหว่างการบริหารของทรัมป์ในสมัยแรก ช่วงที่ไบเดนเข้ามา และเมื่อทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Barra ชี้แจงว่านี่ไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นการปรับตัวเชิงธุรกิจ โดย GM ต้องทำงานภายใต้กฎของผู้บริหารในแต่ละยุค พร้อมเน้นว่าบริษัทต้องการผลิตรถที่ลูกค้าต้องการ ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อให้ผ่านกฎระเบียบเท่านั้น
ผลกระทบของการเปลี่ยนมาตรฐานประหยัดเชื้อเพลิงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐยังคงต้องจับตามอง แต่ภายใต้กฎที่ผ่อนคลายในปัจจุบัน แนวโน้มที่รถยนต์ไฟฟ้าจะครองสัดส่วนตลาดจำนวนมากในเวลาอันใกล้อาจเป็นเรื่องที่ยังห่างไกล
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




