Kia Tasman เจอศึกหนักในตลาดออสเตรเลีย ยอดขายร่วงหลังเปิดตัวเพียง 3 เดือน

แม้จะเปิดตัวไปเพียงไม่นาน แต่ Kia Tasman รถกระบะรุ่นใหม่ของค่ายเกาหลีใต้ กลับต้องเผชิญแรงเสียดทานในตลาดออสเตรเลียอย่างหนัก ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด ส่งผลให้ Kia ต้องเร่งกระตุ้นตลาดด้วยการปรับลดราคาและเพิ่มอุปกรณ์เสริมเพื่อดึงดูดลูกค้า
ก่อนเปิดตัว Tasman ได้รับความสนใจจากสื่อและผู้บริโภคไม่น้อย ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ก็สร้างเสียงแตกในหมู่แฟนรถกระบะ อย่างไรก็ตาม หลังจากวางจำหน่ายเพียงสามเดือน ยอดขายกลับไม่เติบโตตามเป้าหมาย ทำให้ Kia ต้องออกมาตรการลดราคาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของรุ่นนี้

รุ่น Tasman X-Line ปัจจุบันวางจำหน่ายในราคา 67,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 44,400 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถูกลงจากราคาเดิม 70,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 46,300 ดอลลาร์สหรัฐ) ถึง 3,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าด้วยการแถม Sports Pack ฟรี ซึ่งปกติจะต้องจ่ายเพิ่มถึง 3,971 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2,600 ดอลลาร์สหรัฐ) ภายในชุดประกอบด้วยฝาปิดกระบะผ้าใบ บันไดข้างแบบท่อ สีเมทัลลิก และโรลบาร์สปอร์ต

เมื่อรวมส่วนลดและของแถมทั้งหมด รุ่น Tasman X-Pro จึงมีมูลค่าความคุ้มค่ามากกว่าเดิมถึงเกือบ 7,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยข้อเสนอพิเศษนี้มีผลถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากเว็บไซต์ Drive.com.au ระบุว่า ยอดขายของ Tasman ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนมีเพียง 2,262 คัน เท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน ตัวเลขถือว่าน้อยมาก โดยในช่วงเวลาเดียวกัน Toyota Hilux มียอดขายกว่า 14,546 คัน, Ford Ranger 13,739 คัน, Isuzu D-Max 6,654 คัน และ Mitsubishi Triton 4,797 คัน

Kia ตั้งเป้าจะขาย Tasman ให้ได้ถึง 20,000 คันในปีหน้า เพื่อครองอันดับ 4 ในตลาดรถกระบะออสเตรเลีย รองจาก Hilux, Ranger และ D-Max แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน การไปถึงเป้าหมายดังกล่าวอาจต้องใช้กลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น

Kia เริ่มทยอยเปิดตัวรุ่นย่อยของ Tasman ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ส่งมอบรุ่น กระบะตอนเดียว (Single Cab Chassis) ซึ่งอาจเป็นรุ่นที่ช่วยดันยอดขายได้มาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าฟลีทรถบริษัทที่เน้นความคุ้มค่าและการใช้งานจริงจัง
ขณะเดียวกัน สื่อออสเตรเลียเตรียมทดสอบขับรุ่น Tasman X-Pro ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งผลรีวิวที่จะออกมาน่าจะมีผลไม่น้อยต่อทิศทางของรถกระบะรุ่นนี้ในตลาดที่แข่งขันดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ที่มา Carscoops