Nissan Sentra 2026 ปรับโฉมหรูหราเกินราคา เปิดตัวด้วยดีไซน์พรีเมียมแต่ยังคงราคาคุ้มค่า

Nissan เปิดตัว Sentra 2026 เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมการออกแบบภายนอกและภายในสไตล์พรีเมียมมากขึ้น แต่ยังคงจุดขายด้าน “ความคุ้มค่า” ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 22,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 830,000 บาท) ไม่รวมค่าขนส่ง 1,245 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งโดยตรงอย่าง Honda Civic หลายพันดอลลาร์

แม้จะเป็นรถซีดานขนาดคอมแพ็กต์ แต่ Sentra รุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับโฉมให้ดูทันสมัยและหรูหรากว่าที่เคย เริ่มตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน Sentra S ที่มาพร้อมไฟหน้า LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน กระจังหน้าสีดำเงา และล้อเหล็กขนาด 16 นิ้วแบบฝาครอบ ภายในติดตั้งหน้าจอมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์จอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมพอร์ตชาร์จ USB-C ถึง 3 จุด ระบบกุญแจอัจฉริยะ Push Start และระบบช่วยขับขี่ครบครัน เช่น

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Intelligent Cruise Control)

• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน (AEB)

• ระบบเตือนจุดอับสายตา เตือนและป้องกันการออกนอกเลน รวมถึงระบบตรวจจับรถขณะถอยหลัง

นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจเสริม Cold Weather Package ราคา 500 ดอลลาร์ เพิ่มฟังก์ชันเบาะนั่งและกระจกมองข้างแบบอุ่น

 

รุ่น Sentra SV ราคาเริ่ม 23,170 ดอลลาร์ ถือเป็นรุ่นยอดนิยม เพิ่มความหรูหราด้วยล้ออัลลอย 16 นิ้ว วัสดุตกแต่งภายในระดับพรีเมียม หน้าปัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และระบบสตาร์ตรถจากระยะไกล พร้อมระบบกันขโมย สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น สามารถเลือก SV Convenience Package ราคา 990 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มอุปกรณ์อย่างกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบชาร์จไร้สาย แสงไฟภายในห้องโดยสารแบบ Ambient Light และพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมระบบอุ่น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มซันรูฟได้ในราคา 650 ดอลลาร์

รุ่น Sentra SR ราคา 25,000 ดอลลาร์ มาในสไตล์สปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีโครเมียมเข้ม สเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์ท้าย และล้ออัลลอย 18 นิ้ว ภายในตกแต่งด้วยเบาะผ้าสปอร์ตตัดเย็บด้ายสีตัด พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์ ระบบชาร์จไร้สาย และระบบเชื่อมต่อ NissanConnect พร้อม Wi-Fi Hotspot

รุ่นท็อปสุด Sentra SL ราคา 27,990 ดอลลาร์ ยกระดับความหรูหราด้วยซันรูฟไฟฟ้า เบาะหุ้มวัสดุ TailorFit ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิสองโซน พวงมาลัยและเบาะนั่งพร้อมระบบอุ่น กระจกแต่งหน้ามีไฟส่องสว่าง และชุดเครื่องเสียง Bose Premium 8 ลำโพง มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขั้นสูง เช่น Lane Keep Assist, Rear Automatic Braking และ Around View Monitor พร้อมระบบ ProPILOT Assist ที่รวมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและช่วยประคองรถในเลน

ด้านขุมพลัง Nissan Sentra 2026 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 149 แรงม้า แรงบิด 198 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า

แม้จะไม่มีระบบไฮบริดหรือไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ Nissan Sentra 2026 ยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่พรีเมียมขึ้น ห้องโดยสารเทคโนโลยีล้ำกว่าเดิม และราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าคู่แข่ง ถือเป็นตัวเลือกที่สมดุลระหว่างความคุ้มค่า ความหรูหรา และความปลอดภัยในตลาดซีดานระดับคอมแพ็กต์ปี 2026

ที่มา Carscoops