Nissan Sylphy/Sentra รุ่นปรับโฉมเผยค่าตัวแล้วที่อเมริกา

Nissan อเมริกา เปิดตัว Nissan Sylphy/ Sentra รุ่นปรับโฉม ให้สปอร์ตและลงตัวมากกว่าเดิม

 

 

หลังจากที่ Nissan ได้เปิดตัว Nissan Sylphy (Sentra) รุ่นปรับโฉม กลางงาน LA Auto Show 2015 ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ชาวมะกันจนเกิดคำถามว่าจะเริ่มขายจริงในช่วงเวลาใด

ล่าสุด มีข่าวดีจากทางต้นสังกัดว่า Nissan เผยค่าตัวพร้อมขายจริงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Nissan Sylphy (Sentra) รุ่นปรับโฉมที่เป็นการยกงานดีไซน์มาจาก Nissan Teana ( Altima) ซีดานรุ่นพี่ ที่เปิดตัวไปเมื่อสองเดือนก่อน ให้มีความสปอร์ตลงตัวมากกว่าเก่า  ตั้งแต่ กระจังหน้ารูปตัว V ดีไซน์ใหม่  V-Motion รับกับไฟหน้าสไตล์บูมเมอรแรง พร้อม ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL กันชนหน้า-หลัง ออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยด์ลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว

ภายในปรังปรุงใหม่เช่นกัน เริ่มจาก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ดีไซน์เดียวกับ Nissan Juke มาประจำการ มาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอแสดงข้อมูลสีความละเอียดสูง แบบ TFT 5 นิ้วตรงกลางมาตรวัด พร้อมระบบ Nissan Connect รองรับหลากรูปแบบตั้งแต่ วิทยุดาวเทียม SiriusXM และรองรับโลกโซเชี่ยล ไม่ว่าจะเป็น Facebook กับ Google Online พร้อมลำโพงคุณภาพ 8 ตัว จากแบรนด์ Bose เย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศ Dual Zone แยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า

Nissan Sylphy (Sentra) มาพร้อมเครื่องเบนซิน 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 130 แรงม้า แรงบิด 178 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งเกียร์ออโต้ XTronic มีระบบ D-Step Logic Control เวอร์ชั่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มอัตราเร่งและขับสนุกมากกว่าเก่า กับ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด นอกจากนี้ยังปรับปรุงระบบช่วงล่างใหม่ ทั้งปรับค่าสปริงและแดมเปอร์อีก 10 % เพื่อการเกาะถนนที่ดีขึ้น

Nissan Sylphy (Sentra) รุ่นปรับโฉม มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบครบสูตร เช่น ระบบ เตือนวัตถุเคลื่อนไหวด้านหลังรถ Rear Cross Traffic Alert, ระบบ Intelligent Cruise Control, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Emergency Braking และระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Warning

Nissan Sylphy (Sentra) รุ่นปรับโฉม พร้อมจำหน่ายแล้วด้วยรุ่นย่อยให้เลือกตามความต้องการตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น SV, SR, จนถึงรุ่นท็อป SL ในราคา $16,780 - $22,170 หรือราว 605,000 – 800,000 บาท  บาท ส่วนในเมืองไทยต้องติดตามกันต่อไป

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com