Smart #6 ซีดานรุ่นแรกของแบรนด์ เปิดตัวมาพร้อมตัวถังใหญ่กว่าที่คาด และใช้ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 9 ธ.ค. 68 21:14
  • 1,051 อ่าน

Smart เตรียมขยายไลน์รถยนต์ไปไกลกว่าที่หลายคนเคยรู้จัก โดยหลังจากขยับจากรถจิ๋วเมืองสู่ตลาดครอสโอเวอร์ไฟฟ้า แบรนด์ก็พร้อมก้าวเข้าสู่เซกเมนต์ใหม่ด้วยรถซีดานฟาสต์แบ็กคันแรกในชื่อ Smart #6 ซึ่งสร้างความประหลาดใจตั้งแต่แนวทางการออกแบบ ไปจนถึงมิติของตัวรถที่ใหญ่กว่าที่หลายคนคาดคิด และเลือกเปิดตัวด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดแทนการเป็นรถไฟฟ้าล้วน

Smart

จากภาพชุดแรกที่ปรากฏผ่านข้อมูลยืนยันจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) จะเห็นได้ว่า Smart #6 มาพร้อมเส้นสายที่ทันสมัยคล้ายกับรถจีนรุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึงมีความละม้ายกับ Xiaomi SU7 ทั้งไฟหน้าแบบยาวเชื่อมต่อด้วยเส้นไฟ Light Bar เต็มความกว้างกันชนหน้า ฝากระโปรงทรงโค้ง และช่องรับอากาศด้านล่างสีดำ พร้อมหลังคากระจกแบบพาโนรามาในทุกรุ่นย่อยที่เผยออกมา

ด้านหลังเป็นทรงฟาสต์แบ็กพร้อมประตูท้ายแบบแฮทช์แบ็ก ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ และยังติดตั้งสปอยเลอร์หลังแบบ Deployable ที่ซ่อนได้ ทำให้ภาพรวมดูสปอร์ตยิ่งขึ้น

แม้ภาพแรกอาจทำให้หลายคนคิดว่าเป็นซีดานขนาดกลางทั่วไป แต่ Smart #6 มีมิติที่ใกล้เคียงกับ Mercedes-Benz E-Class รุ่น W214 เลยทีเดียว โดย E-Class มีความยาว 4,949 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,468 มม. และฐานล้อ 2,961 มม. ขณะที่ Smart #6 มีความยาว 4,906 มม. กว้างถึง 1,922 มม. สูง 1,508 มม. และฐานล้อ 2,926 มม. เรียกได้ว่าเป็นซีดานขนาดใหญ่ในกลุ่ม D-Segment อย่างเต็มตัว

Smart

ในด้านขุมพลัง Smart ยืนยันว่า #6 EHD จะใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริดร่วมกับ Smart #5 EHD ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 161 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งด้านหน้า 268 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร คาดว่าจะมีตัวเลือกแบตเตอรี่เหมือนใน #5 ได้แก่ 20 kWh และ 41.46 kWh ซึ่งให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนในรุ่น SUV ตั้งแต่ 120 ถึง 252 กิโลเมตร และระยะทางรวมสูงสุดมากกว่า 900–1,600 กิโลเมตร ซึ่ง Smart #6 น่าจะทำได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากตัวถังที่ลู่ลมกว่า

แม้ตอนนี้ยังไม่มีภาพภายในห้องโดยสาร แต่หากยึดแนวทางจาก Smart #5 ก็คาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอดิจิทัลแบบกว้าง Head-up Display และชุดจอคู่บนแดชบอร์ด ทั้งจอกลางและจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ