สัญญาณไฟสีที่สี่ เทคโนโลยีใหม่อาจปฏิวัติการจราจรให้ไร้ไฟแดง

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 10 พ.ย. 68 19:21
  • 1,045 อ่าน

สัญญาณไฟจราจรคือหนึ่งในสิ่งที่แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอดศตวรรษที่ผ่านมา แดงให้หยุด เหลืองให้ชะลอ และเขียวให้ไป ระบบที่ช่วยให้เมืองทั่วโลกดำเนินไปได้อย่างเป็นระเบียบ แม้บางครั้งจะสร้างความหงุดหงิดให้ผู้ขับขี่บ้างก็ตาม

แต่ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา สเตต (North Carolina State University) ในสหรัฐอเมริกา เสนอแนวคิดที่จะเปลี่ยนวิธีการควบคุมการจราจรครั้งใหญ่ โดยเพิ่ม “สัญญาณไฟสีที่สี่” ซึ่งคือ “ไฟสีขาว”

แนวคิดนี้ถูกเผยแพร่ในงานวิจัยของ IEEE โดยอธิบายถึงอนาคตที่รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicles: AVs) และรถที่มีผู้ขับขี่ร่วมใช้ถนนเดียวกัน เมื่อมีรถอัตโนมัติเพียงพออยู่ในบริเวณสี่แยก สัญญาณไฟสีขาวจะถูกเปิดขึ้น

เมื่อไฟสีขาวทำงาน รถยนต์อัตโนมัติจะสื่อสารกันและทำหน้าที่เหมือน “ผู้ควบคุมการจราจรเคลื่อนที่” (Mobile Traffic Controllers) เพื่อจัดการการเคลื่อนที่ของรถทุกคันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผู้ขับขี่ทั่วไปจะได้รับสัญญาณให้ “ขับตามรถคันหน้า” โดยไม่ต้องตัดสินใจเองว่าควรหยุดหรือไป

ทีมวิจัยเรียกแนวทางนี้ว่า “Distributed Coordination Strategy” หรือ “การประสานงานแบบกระจายตัว” ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างระบบสมองกลางให้การจราจร รถแต่ละคันจะสื่อสารและคำนวณเส้นทางร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการชนและลดเวลาที่รถต้องจอดรอโดยไม่จำเป็น

หากบริเวณใดยังมีรถอัตโนมัติไม่มาก ระบบสัญญาณไฟแบบเดิม — แดง เหลือง เขียว — ก็จะทำงานตามปกติ

อาจารย์อาลี ฮัจบาบาอี (Ali Hajbabaie) ผู้เขียนงานวิจัยกล่าวว่า “แนวคิดไฟสีขาวนี้ใช้พลังการประมวลผลของรถยนต์อัตโนมัติให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมการจราจร แดงยังคงหมายถึงหยุด เขียวยังหมายถึงไป ส่วนไฟสีขาวจะบอกให้ผู้ขับขี่เพียงแค่ขับตามรถคันหน้าเท่านั้น”

ผลการศึกษาพบว่า การเพิ่มไฟสีขาวสามารถลดระยะเวลารอไฟแดงได้ตั้งแต่ 3.2% ถึง 94% ขึ้นอยู่กับจำนวนรถอัตโนมัติในสี่แยก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรโดยรวมได้สูงสุดถึง 98.9% เมื่อเทียบกับระบบไฟจราจรแบบเดิม

แม้เทคโนโลยีนี้จะยังอยู่ในขั้นทฤษฎีและต้องใช้เวลาอีกมากในการพัฒนา ทั้งในด้านรถยนต์ไร้คนขับและโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องอัปเกรดกว่า 75% ของระบบเดิม แต่งานวิจัยนี้ได้เผยให้เห็นภาพของอนาคตการจราจรที่รถยนต์สามารถสื่อสารกันได้ และมนุษย์อาจไม่ต้องทนรอไฟแดงอีกต่อไป

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ