Waymo สามคันติดแหง็กกลางถนน มนุษย์ต้องมาช่วย

รถยนต์ไร้คนขับถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหารถติด ลดความผิดพลาดของมนุษย์ และตัดสถานการณ์อึดอัดตามสี่แยกออกไปจากชีวิตประจำวัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดเจนว่า แม้จะเป็นปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง ก็ยังมีช่วงเวลาที่ “ไปไม่เป็น” ได้เหมือนกัน

เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนที่เป็นเนินและค่อนข้างแคบในย่าน North Beach เมื่อวิดีโอจาก TikTok เผยภาพรถแท็กซี่ไร้คนขับ Waymo จำนวน 3 คัน ซึ่งทั้งหมดเป็น Jaguar I-Pace เข้าไปติดอยู่ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนการดวลกันแบบช้า ๆ ของหุ่นยนต์ สองคันแรกจอดอยู่ในตำแหน่งที่หัวรถชนกับด้านข้างของอีกคัน บริเวณทางแยกที่กลายเป็นทางตันโดยไม่ตั้งใจ

ไม่นานหลังจากนั้น Waymo คันที่สามก็ขับเข้ามา ตรวจพบสิ่งกีดขวาง และตัดสินใจหยุดนิ่งอยู่กับที่ ส่งผลให้ถนนเส้นนั้นถูกปิดตายโดยสมบูรณ์ ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ยืนดูจากทางเท้า ขณะที่รถทั้งสามคันจอดนิ่ง ราวกับกำลังประมวลผลไม่รู้จบว่าใครควรเป็นฝ่ายขยับก่อน

หนึ่งในผู้อยู่อาศัยที่พยายามจะขับรถออกจากพื้นที่ถึงกับตั้งคำถามว่า รถพวกนี้จะ “จอดอยู่แบบนี้ไปตลอดกาลหรือเปล่า” และในช่วงเวลาหลายนาทีนั้น คำถามนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องตลกเลย

รายงานจาก ABC7News ระบุว่า รถ Waymo สองคันแรกอาจมีการเฉี่ยวชนกันเล็กน้อย ขณะหนึ่งในนั้นพยายามเลี้ยวบนถนนแคบ ส่วนคันที่สามทำตามโปรแกรมอย่างเคร่งครัด เมื่อพบสิ่งกีดขวางก็เลือกที่จะหยุดรออย่างสุภาพ ปัญหาคือเมื่อทุกคันเป็นหุ่นยนต์ และไม่มีใครยอมถอย สถานการณ์จึงไม่ขยับไปไหน

ท้ายที่สุด พนักงานของ Waymo ต้องเดินทางมาที่เกิดเหตุ และเข้าควบคุมรถด้วยตัวเองเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ เหตุการณ์นี้จึงจบลงด้วยการยืนยันอีกครั้งว่า ระบบความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ที่สุดของรถไร้คนขับในตอนนี้ ยังคงเป็นมนุษย์ที่สามารถเข้าเกียร์ถอยหลังและหันไปมองด้วยตาเปล่าได้

แม้เหตุการณ์นี้จะดูน่าขบขัน แต่ก็ต้องยอมรับว่า Waymo ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำด้านรถแท็กซี่ไร้คนขับอย่างแท้จริง รถของบริษัทวิ่งให้บริการไปแล้วหลายล้านไมล์ในซานฟรานซิสโก ลอสแอนเจลิส และฟีนิกซ์ โดยมีปัญหาน้อยมาก และเริ่มขยายการใช้งานไปยังทางด่วน รวมถึงเปิดบริการในไมอามีเป็นที่เรียบร้อย

Waymo ยังมีแผนขยายไปยังเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง เช่น ดัลลัส ฮิวสตัน ซานอันโตนิโอ และออร์แลนโด ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคต เมืองเหล่านี้ก็คงได้พบกับเหตุขัดข้องลักษณะนี้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวคือเครื่องเตือนใจว่า รถยนต์ไร้คนขับอาจเก่งกาจในการทำตามกฎ แต่ยังคงลำบากเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เฉพาะหน้า ที่มนุษย์สามารถแก้ไขได้ด้วยสัญชาตญาณ

ที่มา Carscoops