ลือ! Toyota สนใจเข้าซื้อกิจการ Neta Auto หวังขยายกลยุทธ์ EV ในจีน ท่ามกลางวิกฤตหนักของ Neta

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Kuai Technology ของจีน รายงานว่า Toyota กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าซื้อกิจการ Neta Auto บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่กำลังเผชิญวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก แม้ข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่หากเป็นจริง ดีลนี้อาจเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์รถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ในประเทศจีน ขณะเดียวกันก็ช่วยต่อลมหายใจให้กับ Neta

Neta Auto หรือชื่อเต็มว่า Hozon New Energy Auto ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 แต่เริ่มเผชิญปัญหาอย่างรุนแรงตั้งแต่กลางปี 2024 โดยหยุดการผลิต ปลดพนักงานจำนวนมาก และเร่งหาเงินทุนจากภายนอก

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 บริษัทเปิดเผยว่าแผนระดมทุนรอบ E มูลค่า 4–4.5 พันล้านหยวน (ราว 20,700–23,300 ล้านบาท) ล้มเหลว แม้นักลงทุนรายใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนประเทศในกลุ่ม BRICS จะให้คำมั่นลงทุน 3,000 ล้านหยวน (ประมาณ 20,700 ล้านบาท) แต่มีเงื่อนไขว่าต้องกลับมาผลิตและหาทุนสมทบให้ได้ ซึ่ง Neta ไม่สามารถทำได้ ส่งผลให้ดีลดังกล่าวล่มลงในที่สุด

แม้โรงงานของ Neta ในเมืองถงเซียงจะกลับมาเปิดบางส่วนช่วงต้นปี 2025 แต่ก็ไม่สามารถเดินสายการผลิตได้จริง เนื่องจากขาดชิ้นส่วนอย่างหนัก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและซัพพลายเออร์ถดถอยอย่างต่อเนื่อง

มูลค่าบริษัทของ Neta ลดลงกว่า 80% ภายใน 2 ปี จากเดิมที่เคยได้รับการประเมินมูลค่ากว่า 42.3 พันล้านหยวน (ราว 2.45 แสนล้านบาท) ในปี 2023 เหลือเพียง 6,000 ล้านหยวน (ประมาณ 34,800 ล้านบาท) ในปี 2025 จากข้อเสนอขายหุ้น 50% ที่มูลค่าเพียง 3,000 ล้านหยวน สร้างความไม่พอใจให้กับนักลงทุนกลุ่มแรกและนักลงทุนภาครัฐ เช่น 360 Security Technology ที่ผู้ก่อตั้งอย่าง โจว หงอี้ (Zhou Hongyi) ถึงกับถอนการลงทุนต่อเนื่องมูลค่า ประมาณ 4,800 ล้านบาท

ด้านการเงิน Neta ขาดทุนสะสมตลอด 3 ปีรวม 18.3 พันล้านหยวน (ราว 1.06 แสนล้านบาท) และยังมีหนี้ค้างจ่ายกับซัพพลายเออร์อีกกว่า 6 พันล้านหยวน (ราว 34,800 ล้านบาท) บริษัทเสนอให้เปลี่ยน 70% ของหนี้เป็นหุ้น และชำระส่วนที่เหลือแบบผ่อนจ่าย พร้อมเตือนว่าอาจไม่สามารถจ่ายค่าจ้างและประกันสังคมได้หากไม่มีทุนใหม่เข้ามา

นอกจากนี้ Neta ยังอาจต้องเผชิญปัญหาในประเทศไทย ซึ่งเคยได้รับ เงินสนับสนุนจากรัฐสูงสุดถึง 150,000 บาทต่อคัน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องตั้งสายการผลิตในประเทศภายในปี 2025 หากไม่สามารถทำได้ อาจต้องคืนเงินอุดหนุน พร้อมดอกเบี้ยและภาษีที่ได้รับการยกเว้น

แม้จะเผชิญวิกฤตรอบด้าน แต่ Neta ยังมีคุณค่าในเชิงเทคโนโลยีและฐานตลาด โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา Neta สามารถตกลงเปลี่ยนหนี้เป็นทุนมูลค่า 2,000 ล้านหยวน (ราว 11,600 ล้านบาท) กับซัพพลายเออร์หลัก 134 ราย พร้อมได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันในไทยและบริษัท Solotech ในฮ่องกง

หาก Toyota เข้าซื้อกิจการจริง อาจใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่นของ Neta เป็นทางลัดในการเร่งแผนรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน แต่ล่าสุด Xu Yiming ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารแบรนด์ของ Toyota ประเทศจีน ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้โดยระบุว่า “เราไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”

ยอดขายของ Neta ในปี 2024 ลดลงเหลือ 64,500 คัน และในเดือนมกราคม 2025 ยอดขายดิ่งลงกว่า 98% เหลือเพียง 110 คัน พร้อมเสียงวิจารณ์เรื่องเทคโนโลยีล้าสมัยและสเปกที่เกินจริง ทั้งยังมีคลิปไวรัลที่ผู้ก่อตั้ง ฟาง ยุนโจว (Fang Yunzhou) ออกมาขอโทษซัพพลายเออร์และดีลเลอร์ด้วยการโค้งคำนับ สะท้อนถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดขีดของบริษัท

ข้อมูลจาก CarNewsChina