BMW Thailand เปิดตัว ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่ 2 รุ่น 740Le xDrive Pure Excellence และ M760Li xDrive Model V12 Excellence พร้อมบุกงาน Bangkok Motor Show 2017

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 21 มี.ค. 60
  • 11,035 อ่าน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวรถใหม่ พี่ใหญ่สุดหรูนำโดย BMW 740Le xDrive Pure Excellence ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า และ BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence พร้อมอีก 2 รุ่นซีรี่ส์ 3 กับ BMW 320d M Performance และ BMW 320d GT Sport และ BMW 320d GT Luxury รุ่นปรับโฉมใหม่ สัมผัสตัวจริงได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38

มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ใหม่นี้ ถือเป็นอีกขั้นของนวัตกรรมด้านยนตรกรรมจากบีเอ็มดับเบิลยู ที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับสมรรถนะและความปราดเปรียวในการขับขี่ ด้วยการนำเทคโนโลยีจากบีเอ็มดับเบิลยู ตระกูล i มาสู่รุ่นแฟลกชิปของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสาน BMW eDrive เข้ากับขุมพลัง BMW TwinPower Turbo หรือโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาแบบ Carbon Core เพื่อคงความเป็นรถซีดานที่หรูหราและทรงประสิทธิภาพที่สุด นับเป็นมาตรฐานใหม่ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในเซ็กเมนต์นี้”

BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

“นอกจากนี้ เรายังนำสุดยอดแห่งนวัตกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 12 สูบอันทรงพลังด้วยเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ในห้องเครื่อง ที่พร้อมจะทะยานไปด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.7 วินาทีเท่านั้น”

“และเพื่อเป็นการมอบประสบการณ์ในการขับขี่คล่องแคล่วสไตล์สปอร์ต พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค เรายังได้แนะนำบีเอ็มดับเบิลยู 320d M Performance รุ่นพิเศษพร้อมชุดแต่ง M ในราคาที่คุ้มค่า พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport และ 320d GT Luxury โฉมใหม่ ที่ได้รับการออกแบบโฉบเฉี่ยว โดดเด่นยิ่งขึ้น ครบเครื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยและความหรูหรา”

BMW 740Le xDrive Pure Excellence

BMW 740Le xDrive Pure Excellence พร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด โดดเด่นด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี BMW eDrive ในบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล i นำมาสู่บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence พร้อมโครงสร้าง Carbon Core และแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง ผสานด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ BMW TwinPower Turbo ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า ให้สุนทรียะแห่งการขับขี่เหนือระดับ และความหรูหราสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล นอกจากนี้ ยังสามารถนำเทคโนโลยี Efficient Dynamics มารวมเข้ากับยนตรกรรมได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดารถยนต์ภายใต้แบรนด์บี เอ็มดับเบิลยูด้วยกัน

มอบพละกำลังสูงสุดที่ 258 แรงม้า ด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower ขุมพลัง 4 สูบอันทรงพลัง ระบบการขับขี่ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 113 แรงม้า พร้อมตอบสนองในเสี้ยววินาที โดยเมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้จะมอบกำลังสูงถึง 326 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร

เครื่องยนต์ BMW 740Le xDrive Pure Excellence

ยิ่งไปกว่านั้น มอเตอร์ไฟฟ้ายังรับหน้าที่ส่งพลังด้วยการสำรองพลังงานขณะแตะเบรก หรือด้วยการเพิ่มค่าภาระเครื่องยนต์ตามระบบไฮบริดที่เลือกใช้ จากนั้นจึงดึงพลังเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง และเมื่อขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence จะสามารถสร้างระยะทางสูงสุดได้ถึง 41 กิโลเมตร (ระยะทางสูงสุดอาจแตกต่างไปตามประเภทยางรถยนต์) มอเตอร์ไฟฟ้าถูกนำมารวมเข้ากับระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic อย่างสมบูรณ์ เพื่อตอกย้ำประสิทธิภาพขั้นสูงสุดของการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าที่สร้างความ ปราดเปรียวขณะขับขี่ และการนำพลังงานส่วนเกินกลับมาใช้จากระบบเบรก

และ บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence ได้เดินตามรอย BMW X5 xDrive40e ในฐานะรถยนต์รุ่นที่สองที่จ่ายพลังงานด้วยการขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ หรือเมื่อขับขี่ทั้งสองระบบในเวลาเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะยังช่วยให้ยึดเกาะถนนได้อย่างดียิ่ง และให้เสถียรภาพอันเหนือชั้น รวมไปถึงความปราดเปรียวที่พร้อมรับมือทุกสภาวะอากาศและทุกสภาพถนน

ด้วย การจ่ายพลังงานระหว่างล้อหน้าและล้อหลังที่สมบูรณ์แบบ บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence สามารถเร่งเครื่องได้อย่างทรงพลัง ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรภายใน 5.3 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 45.5 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อย CO2 ที่ 49 กรัมต่อกิโลเมตร ในขณะที่อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของบีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence อยู่ที่ระหว่าง 13.9 ถึง 13.2 กิโลวัตต์ ต่อ 100 กิโลเมตร (ตัวเลขคำนวนจาก EU test cycle สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด อาจแตกต่างไปตามประเภทยางรถยนต์)

ภายใน BMW 740Le xDrive Pure Excellence

BMW

และควบคุมได้ตามต้องการ กับปุ่ม eDrive และสวิทช์ปรับโหมดขับขี่ ให้ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่ม eDrive บริเวณกลางคอนโซลเพื่อเปลี่ยนไปสู่การขับขี่ปลั๊กอินไฮบริดได้อย่างง่ายดาย และในการใช้งาน AUTO eDRIVE hybrid ซึ่งเป็นระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานด้วยกันได้อย่างสูง สุดเต็มกำลัง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นเลิศที่สุด

ผู้ขับขี่ยังสามารถ ปรับไปใช้โหมดไฟฟ้าล้วน MAX eDRIVE ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว โดยโหมดนี้จะเปลี่ยนไป ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงขุมพลังจากเครื่องยนต์มาใช้ได้ตลอดเวลาหากเหยียบคันเร่งจน สุด ด้วยโหมด MAX eDRIVE บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence สามารถให้ความเร็วสูงสุดจากพลังงานไฟฟ้าที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้านหลัง BMW 740Le xDrive Pure Excellence

บี เอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence ยังมาพร้อมกับสวิทช์ปรับโหมดขับขี่ที่ออกแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งติดตั้งอยู่บนคอนโซล ผู้ขับขี่สามารถเปิดสวิทช์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่อันปราดเปรียว และสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้น สวิทช์ปรับโหมดขับขี่ยังเสนออีกหนึ่งทางเลือกด้วย ADAPTIVE mode ซึ่งสามารถตอบสนองต่อสไตล์การขับขี่และข้อมูลเส้นทางของผู้ขับขี่อย่างเห็น ได้ชัด

และด้วยมาตรฐานอันเหนือชั้นของ บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence ที่มาพร้อมกับไฟหน้า Adaptive LED กุญแจ BMW Display Key ระบบนำทางแบบ Professional และระบบปฏิบัติการ iDrive ที่รวมถึงฟังก์ชันทัชสกรีนบนหน้าจอ และ BMW Gesture Control การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ บริเวณห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลังมาพร้อมกับเบาะนั่งที่สะดวกสบาย ด้วยระบบระบายอากาศในเบาะและฟังก์ชันนวดเพื่อสุขภาพ และฟังก์ชั่นในการปรับเบาะให้อุ่นได้ บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence ยังเติมเต็มที่สุดแห่งความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วยเบาะที่นั่ง Executive Lounge Seating และหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama

ด้านหน้า BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

อีกที่สุดกับสมรรถนะในการขับขี่ที่แตกต่างกับ BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence ถือ ได้ว่าเป็น BMW รุ่นแฟลกชิปอีกหนึ่งรุ่นของตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 ด้วยความประณีตหรูหราเหนือระดับ พร้อมขุมพลังในทุกช่วงเวลาการขับขี่จากเครื่องยนต์ 12 สูบ ผสานพลังเทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo จึงยกระดับสถานะของบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น

ขุมพลังใหม่ล่าสุด M Performance TwinPower Turbo พร้อมเครื่องยนต์ 12 สูบ เครื่องยนต์ V12 ภายใต้ตราประทับ “M Performance” มีปริมาตรกระบอกสูบขนาด 6.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า ที่ 5,500 ถึง 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตรที่ 1,550 ถึง 5,000 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ 8.2 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 รวมที่ 291 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์ BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

ด้วย เทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo อันเหนือชั้น บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence สามารถให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 3.7 วินาที พร้อมให้ความเร็วสูงสุดจากพลังงานไฟฟ้าที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ่ายโอนพลังงานผ่านระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic Sport ซึ่งถูกปรับแต่งตามคุณลักษณะของเครื่องยนต์ V12 โดยเฉพาะ

ระบบกันสะเทือนนวัตกรรม Executive Drive Pro คือบัตรผ่านของความปราดเปรียวอันเฉียบคมและความสะดวก สบายในการขับขี่ที่เหนือกว่า ระบบการรักษาเสถียรภาพรถแบบ Active roll ช่วยลดการสะเทือนของตัวรถให้น้อยที่สุด ผสมผสานกับสมรรถนะจากยางรถยนต์ด้วยล้ออัลลอยพิเศษน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว เพื่อสร้างความคล่องแคล่วในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในคลาสรถยนต์เดียว กันให้กับบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการขับขี่แม้แต่น้อย

BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

ระบบ ขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ที่ถูกออกแบบเพื่อเน้นการขับขี่ที่ล้อหลัง ช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ขณะเข้าโค้งได้อย่างสมดุล ความคล่องแคล่วในการขับขี่และระบบความปลอดภัยยังเป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมจาก ระบบเลี้ยวทั้งสี่ล้อของบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence ช่วยเสริมการเข้าโค้งของเพลาล้อรถด้านหน้าได้อย่างแม่นยำ ด้วยการปรับมุมการเข้าโค้งของล้อหลังได้ตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ ชุดเบรก M Sport ใหม่ ที่มากับคาลิปเปอร์สีน้ำเงินเมทัลลิคติดตราอักษร M ภายใต้ล้ออัลลอย W-Spoke ขนาด 20 นิ้ว เป็นการตีประทับให้กับคลังอาวุธอันปราดเปรียวของบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence ซึ่งพร้อมที่จะผ่อนกำลังหรือหยุดรถในทุกเวลาได้อย่างเหนือชั้น

BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence มาพร้อมแถบโครเมียมพาดยาวตลอดช่วงหน้ากว้างของช่องดักอากาศ ในขณะที่กระจังหน้าไตสีเงินก็มาพร้อมกับแถบโครเมียมด้านหน้า และล้อมกรอบด้วยโครเมียมสว่าง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับรายละเอียดตามจุดต่างๆ ของตัวรถที่ตกแต่งด้วยโครเมียมสว่างเช่นกัน พร้อมติดตรา “V12” ที่ขอบฝากระโปรงท้ายอีกด้วย

ภายใน BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างหรูหราด้วยไม้ บริเวณพวงมาลัย และตัวอักษร V12 ที่จะปรากฎขึ้นบนหน้าปัดรถเมื่อผู้ขับขี่สตาร์ทเครื่องยนต์ ขอบประตูรถตกแต่งด้วยโลโก้ V12 เรืองแสง สร้างความตื่นตาตื่นใจพร้อมความรื่นรมย์ในการขับขี่ที่จะเกิดขึ้น โดยโลโก้ V12 ยังอวดโฉมอยู่บนคอนโซลและหน้าจอ Touch Command Panel บริเวณที่วางแขนของห้องผู้โดยสารด้านหลัง

เบาะด้านหน้าอันสะดวกสบาย สามารถปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้าและฟังก์ชันจดจำตำแหน่งของผู้นั่ง เมื่อจับคู่เข้ากับพรมหนานุ่มพิเศษของห้องผู้โดยสารด้านหลัง จึงช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราอันเหนือชั้น ขณะที่ตัวเบาะ บริเวณข้างที่นั่ง พนักพิงศีรษะ ประตูด้านในรถ และที่วางแขนตรงกลางและด้านข้าง หุ้มด้วย หนังแกะคุณภาพเยี่ยม เติมเต็มบรรยากาศแห่งความหรูหราได้อย่างมีรสนิยม

BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

และเช่น เดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่รุ่นอื่นๆ จอมอนิเตอร์ระบบ iDrive ของบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence แสดงผลบนหน้าจอและควบคุมด้วยการสัมผัส รวมถึงระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวในระบบ iDrive เป็นครั้งแรกของตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 รวมไปถึงตัวยึดโทรศัพท์มือถือบริเวณคอนโซลซึ่งสามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ แบบไร้สาย ผ่านการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้เป็นครั้งแรกในรถยนต์ พร้อมให้สัมผัสในงาน Bangkok Motor Show 2017 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

BMW
BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence

ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

BMW 740Le xDrive Pure Excellence
ราคาจำหน่าย 6,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence
ราคาจำหน่าย 12,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ