Nissan ครองตลาด EV ราคาประหยัดในจีน

Nissan กำลังครองตลาดรถไฟฟ้าราคาประหยัดในจีน ขณะที่ Honda ยังต้องเร่งทำยอดขายให้เติบโต Legacy carmakers เริ่มเข้าใจว่าการชนะใจผู้ซื้อในจีนไม่ได้หมายถึงการนำรถโมเดลโลกเข้ามาขายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องออกแบบรถไฟฟ้าให้ตรงกับรสนิยมและความคาดหวังของผู้บริโภคท้องถิ่น Nissan ทำได้สำเร็จด้วย N7 ซีดานไฟฟ้าที่ผลิตโดย Dongfeng ขณะที่ Honda พยายามใช้แนวทางเดียวกันกับซีรีส์ Ye แต่ผลลัพธ์กลับน่าผิดหวัง

ยอดขายของ Honda ในจีนลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสสอง เหลือเพียง 2,900 คัน แม้ว่าจะมี S7 และ P7 ใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด การตั้งราคาของ Honda เป็นหนึ่งในปัญหาหลัก S7 เปิดตัวที่ราคา 259,900 หยวน (ประมาณ 36,300 ดอลลาร์) ซึ่งถือว่าไม่แพงในหลายตลาด แต่ในจีนกลับเป็นราคาที่สูงเกินไปจนต้องลดราคาลง 60,000 หยวนเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังเปิดตัว

นอกจากนี้ รายงานจาก Nikkei Asia ระบุว่าประสิทธิภาพและฟีเจอร์ของรถยังไม่ตรงตามความคาดหวังของผู้บริโภค รถทั้ง S7 และ P7 มาพร้อมระบบช่วยขับ Honda Sensing 360+ แต่ไม่มีฟีเจอร์ขับแบบ hands-free ซึ่งกำลังเป็นมาตรฐานใหม่ในตลาดรถไฟฟ้าจีน

แม้ Honda จะยังไม่ยอมแพ้ แต่ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่น Momenta เพื่อนำเทคโนโลยีช่วยขับที่ล้ำสมัยมากขึ้นมาใช้ รถ EV เฉพาะตลาดจีนของ Honda ยังจะได้รับฟีเจอร์ AI จาก DeepSeek เพื่อให้ผู้ขับสามารถสนทนากับระบบภายในรถได้อย่างลึกซึ้ง รวมถึงจะเริ่มใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอรอนฟอสเฟต (LFP) ซึ่งช่วยลดต้นทุนโดยไม่กระทบสมรรถนะการขับขี่

ขณะเดียวกัน Nissan กลับทำได้ดีกว่า ด้วย N7 EV ที่เปิดตัวในราคาถูกเพียง 119,900 หยวน (ประมาณ 16,800 ดอลลาร์) ทำให้มียอดจองในเดือนแรกถึง 17,000 คัน และในเดือนสิงหาคม Nissan สามารถส่งมอบ 10,148 คัน ขณะที่รถ EV ของ Honda ไม่เคยขายได้เกิน 10,000 คันต่อเดือน นี่ชี้ให้เห็นว่า Nissan สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคจีนได้ตรงจุดมากกว่า ขณะที่ Honda ยังคงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อต่อสู้ในตลาด EV ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศนี้

ที่มา Carscoops