Hyundai อาจหวนคืนรัสเซีย หลังจีนเริ่มถอย – แผนรุกใหม่กลางวิกฤตเดิม

แม้สงครามในยูเครนจะยืดเยื้อมานานกว่าสามปี และหลายบริษัทยานยนต์ตะวันตกถอนตัวจากตลาดรัสเซียไปแล้ว แต่ล่าสุดมีรายงานว่า Hyundai Motor Group อาจกำลังวางแผน คัมแบ็กแบบเซอร์ไพรส์ กลับเข้าสู่หนึ่งในตลาดที่เคยสร้างยอดขายสูงสุดของพวกเขา

ขายโรงงานทิ้งแค่ร้อยเดียว แต่มีสิทธิซื้อคืน
Hyundai ได้ถอนตัวอย่างเป็นทางการจากรัสเซียในเดือนธันวาคม 2023 โดยขายโรงงานผลิตรถยนต์ที่เมือง St. Petersburg ในราคาสัญลักษณ์เพียง 140,000 วอน หรือประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น

แต่จุดสำคัญคือ... ดีลนี้มีเงื่อนไขให้ซื้อโรงงานกลับได้ภายใน 2 ปี นั่นหมายความว่า Hyundai อาจไม่ได้ “ไปแบบไม่หวนกลับ” อย่างที่ใครคิด

จีนเริ่มถอย – โอกาสของ Hyundai อาจมาถึง
หลังรัสเซียเริ่ม ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ทำให้รถยนต์จากจีน ซึ่งเคยครองส่วนแบ่งมากกว่า 80% ของการนำเข้าทั้งหมดในช่วงต้นปี 2024 เริ่มถดถอยอย่างชัดเจน โดยยอดนำเข้าช่วงต้นปี 2025 ลดลงเกือบครึ่ง

รัฐบาลรัสเซียพยายามกดดันให้ผู้ผลิตจีนมาตั้งโรงงานในประเทศ แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับที่ชัดเจน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ จุดนี้เองที่ Hyundai ซึ่งมีโรงงานอยู่แล้ว (แม้จะขายออกไปชั่วคราว) อาจถือไพ่เหนือกว่า

ยอดขายเก่าแรง – ความนิยมยังอยู่
ก่อนสงคราม ในปี 2021 แบรนด์ Hyundai และ Kia ทำยอดขายรวมในรัสเซียถึง 354,000 คัน และเคยครอง ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 23.3% ถือเป็นกลุ่มรถต่างชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุด

รายงานยังเผยว่า Hyundai และ Kia ได้ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าใหม่กว่า 20 รายการ สำหรับรถยนต์ อะไหล่ และอุปกรณ์เสริมในรัสเซีย ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้วทั้งหมดโดยหน่วยงานรัฐด้านทรัพย์สินทางปัญญาของรัสเซีย

เสริมแนวรบหนีความเสี่ยงฝั่งสหรัฐฯ
ศาสตราจารย์ Kim Pil-su จากมหาวิทยาลัย Daelim ของเกาหลีใต้ วิเคราะห์ว่า Hyundai ต้องการ กระจายความเสี่ยง จากตลาดสหรัฐฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หาก “Trump รีเทิร์น” ในการเลือกตั้งปลายปีนี้

“Hyundai มีประสบการณ์ในตลาดรัสเซีย และผู้บริโภคยังคงชื่นชอบแบรนด์นี้อยู่ แม้อาจต้องจ่ายเงินซื้อโรงงานคืน แต่บริษัทก็พร้อมเดินหน้าตามแผน เพื่อฟื้นธุรกิจในรัสเซีย” – Kim Pil-su

ข้อสังเกต:
* การกลับเข้าสู่ตลาดรัสเซียของ Hyundai ยังไม่เป็นทางการ
* หาก Hyundai ดำเนินแผนซื้อโรงงานคืนภายในปี 2025 ก็อาจเป็นการเปิดศึกใหม่ในตลาดที่จีนกำลังถอย
* ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึง เกมกลยุทธ์เชิงธุรกิจของผู้ผลิตรถยนต์ ที่ต้องปรับตัวในโลกที่ความแน่นอนกลายเป็นของหายาก

ที่มา Carscoops