มาสด้าเผยภาพ Mazda CX-60 Plug-in Hybrid SUV ที่จะกลายเป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ตัวเองเคยมี

  • โดย : PR Autodeft
  • 9 มี.ค. 65
  • 12,174 อ่าน

มาสด้า ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ได้ทำการเผยภาพรถใหม่ 2022 ที่เตรียมพร้อมเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการกับ Mazda CX-60 Plug-in Hybrid SUV ที่จะกลายเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ทรงพลังมากที่สุด เท่าที่มาสด้าเองเคยผลิตออกมา

Mazda CX-60

Mazda CX-60 จะเป็นรถ Plug-in Hybrid รุ่นแรกของแบรนด์ที่เป็นรถในรูปแบบ PHEV และได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ชนกับ SUV ระดับพรีเมียมเดียวกันกับ Audi และ BMW อย่างเต็มรูปแบบ บริษัทฯกำลังก้าวเข้าสู่ตลาดระดับบนเพื่อเผชิญหน้ากับแบรนด์เยอรมันระดับพรีเมียม และสิ่งที่ CX-60 จะมอบให้ คือ ห้องโดยสารที่หรูหรา พลังงานไฮบริด และการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว เพื่อเข้าร่วมสนามการแข่งขันกับ BMW X3  รถ SUV รุ่นเรือธงนี้ ได้ออกขายในตลาดแล้ว ด้วยสนนราคาเริ่มต้นที่ 43,950 ปอนด์ หรือประมาณ 1.91 ล้านบาท

รถใหม่ 2022 Mazda CX-60 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น CX-5 crossover และมีลักษณะเฉพาะที่เป็นวิวัฒนาการแห่งภาษาการออกแบบ “Kodo Design” ของแบรนด์มาสด้า ที่เน้นความเรียบง่ายและพื้นผิวสะท้อนแสงอย่างฉกาจ ส่วนหน้าที่มีรูปลักษณ์ที่ดูตัดทู่ จะประกอบไปด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีปีกที่จะกลมกลืนไปกับไฟหน้า พร้อมแถบไฟ LED ที่เพรียวบาง (ซึ่งจะส่องสว่างเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า) เพื่อให้สอดคล้องไปกับรูปลักษณ์ปัจจุบันของรถตระกูล Mazda

ช่องเว้าที่ดูแหลมจะช่วยดึงซุ้มล้อและฐานประตูด้านข้างออก อย่างไรก็ตามการออกแบบส่วนใหญ่อื่น ๆ ก็ไม่ได้ดูเกะกะแต่อย่างใด ส่วนตัวถังรถจะมีการบิดตัวเล็กน้อยล้อไปตามสีข้างด้วยไฟท้ายคู่แบบยาว ปลายท่อไอเสียเป็นแบบสี่เหลี่ยม และสปอยเลอร์ที่ปลายหลังคาด้านหลัง ซึ่งเหมาะสมกับรถ Mazda ในซีรีส์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา

Mazda CX-60 นี้ จะมีระบบส่งกำลังแบบใหม่ล่าสุดในทุกพิสัย จากที่ได้เปิดตัวไปนั้น สิ่งนี้จะมีให้ในรุ่น Plug-in Hybrid เพียงเท่านั้น โดยจะมีการจับคู่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมเป็น 323 แรงม้า โดยระบบจะส่งกำลังไปทั้งสี่ล้อผ่านกระปุกเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้ CX-60 สามารถเร่งความเร็ว 0-100 ด้วยเวลาเพียง 5.8 วินาทีเท่านั้น

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 17.8 kWh. ซึ่งสามารถชาร์จได้ภายใน 4 ชั่วโมงจากวอลล์บ็อกซ์ที่บ้าน Mazda อ้างว่า CX-60 สามารถขับได้ไกลถึง 60 กิโลเมตรด้วยโหมดการใช้ไฟฟ้าล้วน ที่ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่แบรนด์ได้อ้างอิงประสิทธิภาพการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 188 mpg และ 33g/km

ปลายปีนี้ Mazda จะเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ in-line ขนาด 3.3 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี mild-hybrid 48 โวลต์ ส่วนรุ่นเบนซินแบบ 6 สูบ 3.0 ลิตร จะตามมาในปี 2023 อีกครั้งกับระบบ mild-hybrid และเทคโนโลยีการจุดระเบิด spark-compression-ignition ของ Mazda Skyactiv X เครื่องยนต์เหล่านี้สามารถทำงานได้กับทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

รถยนต์ใหม่ 2022 Mazda CX-60 นี้จะใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบ Skyactiv Scalable Architecture ของ Mazda และใช้ระบบ Kinematic Posture Control จากรถสปอร์ต MX-5 ซึ่งจะประยุกต์ใช้กับเบรกที่ล้อหลังด้านในเพื่อจำกัดการหมุนของตัวรถ และแบตเตอรี่สำหรับระบบไฮบริดจะถูกติดตั้งระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังของรถเพื่อให้การควบคุมที่นิ่งขึ้น ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมด Normal, Sport, Off-Road, Towing และ EV ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และระบบ Hill Decent Control จะช่วยให้รถวิ่งลงในทางลาดชันและลื่นได้ดี

ห้องโดยสารของ CX-60 จะดำเนินตามธีมแบบพรีเมียม โดยรถรุ่นตัวท็อป จะถูกตกแต่งด้วยเนื้อผ้า ไม้ และหนังคุณภาพสูง การออกแบบแผงหน้าปัดแบบหลายชั้นจะเน้นการใช้โลหะประกอบด้วย ทั้งหมดจะมาพร้อมด้วยชุดควบคุมสภาพอากาศ หน้าจอ infotainment แบบจอกว้าง จะทำงานผ่านระบบปุ่มหมุนที่ถูกเชื่อมเข้ากับแผงหน้าปัดแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ

ตัวรถสามารถกำหนดสเปคได้เป็น 3 ระดับ คือ รุ่น Exclusive-Line, รุ่น Homura และรุ่น Takumi ซึ่งมีสเปคสูงที่สุด รถรุ่น Exclusive-Line มีราคาเริ่มต้นที่ 43,950 ปอนด์ 1.91 ล้านบาท และรถรุ่น Homura และ Takumi มีราคาอยู่ที่ 46,700 ปอนด์ หรือประมาณ 2.03 ล้านบาท และ 48,050 ปอนด์ หรือประมาณ 2.09 ล้านบาทตามลำดับ

รถรุ่นพื้นฐานจะใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว และมีกาบข้างตัวถังสีดำ โดยรถรุ่นสเปค Homura จะเพิ่มขนาดล้อเป็น 20 นิ้วสีดำ มีซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ กระจกมองข้างสีดำ และกระจังหน้าแบบสีเข้ม ภายในรถรุ่น tier สอง จะได้รับชุดอุปกรณ์เพิ่มเติม ได้แก่ เบาะหลังแบบทำความร้อนได้ ไฟส่องสว่างโดยรอบ และระบบปรับเบาะที่นั่งแบบอัตโนมัติ

สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ระบุความสูงต่ำของระบบ infotainment ของตัวเองได้ โดยกล้องภายในจะตรวจจับตำแหน่งของดวงตาและปรับเบาะที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกให้เหมาะสมได้เอง จากนั้นรถจะใช้การจดจำใบหน้าเพื่อใช้การตั้งค่าเหล่านี้กับผู้ขับขี่คนอื่นๆ ควบคู่ไปกับการตั้งค่าสภาพอากาศและสื่อที่ชื่นชอบ

รถตัวท็อป Takumi จะมีกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมกระจังหน้าสีดำเงา และขอบโครเมียมสำหรับกระจังหน้าและขอบหน้าต่างด้านข้าง

รถใหม่ Mazda CX-60 ตัวที่ถูกที่สุดอย่าง Exclusive-Line เป็นเพียงรุ่นเดียวที่จะมี Comfort Pack ราคา 1,400 ปอนด์ หรือประมาณ 60,000 บาท ซึ่งสิ่งที่จะได้ คือ เบาะหน้าไฟฟ้า alloys ขนาด 20 นิ้ว ที่สามารถระบายอากาศ และเบาะหลังแบบทำความร้อนได้ รวมถึงฟังก์ชันตำแหน่งการขับขี่แบบอัตโนมัติ

หลังคา sunroof แบบ panoramic สามารถกำหนดให้มีได้ในรถรุ่น Homura และ Takumi พร้อมกับชุดตัวเลือกอีก 2 ชุด และยังมี Convenience Pack มูลค่า 1,000 ปอนด์ ที่มาพร้อมกระจกสี ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และกล้องสำหรับจอดรถที่มองได้ 360 องศา แบบ “see-through view” ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถดูตำแหน่งด้านนอกของรถจากด้านในได้บนหน้าจอ infotainment สุดท้ายคือ Driver Assistance Pack ที่จะเพิ่มการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบ active ในราคา 1,100 ปอนด์

Mazda CX-60 พร้อมให้สั่งซื้อแล้ว ในรูปแบบของรถ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) โดยจะเริ่มส่งมอบในฤดูใบไม้ร่วงนี้ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนประเทศไทยคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน
ที่มา autoexpress

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ