Renault Nissan Mitsubishi Alliance เปิดตัวโลโก้ใหม่พร้อมประกาศแผนดำเนินการถึงปี 2022
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 18 ก.ย. 60 00:00
- 10,965 อ่าน
หลังการเข้าซื้อกิจการ Nissan ด้วยฝีมือของ Renault แล้วก็เข้าไปซื้อกิจการของ Mitsubishi เข้ามาเพิ่มเติม ล่าสุดทั้ง 3 แบรนด์ได้ทำการเผยโลโก้ใหม่ภายใต้แบรนด์ Renault Nissan Mitsubishi Alliance พร้อมประกาศแผนดำเนินการของค่ายถึงปี 2022 แล้ว
Carlos Ghosn CEO ของ Renault Nissan Mitsubishi Alliance ได้เปิดเผยว่า 6 ปีต่อจากนี้ไป จะต้องทำการเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น และลดต้นทุนลงมาให้ได้มากที่สุด โดยยังคงจะยึด Platform หลักของแต่ละยี่ห้อไว้ก่อน แล้วเพิ่มยอดขายในส่วนนี้ให้ได้ โดยเมื่อปี 2016 Renault และ Nissan สามารถผลิตได้ 2 ล้านคันจาก 2 แพลตฟอร์มหลัก แต่ภายในปี 2022 ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะผลิตให้ได้ 9 ล้านคันจาก 4 แพลตฟอร์ม โดย 2 แบบใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามา จะเป็นรถยนต์ครอบครัวอย่างเช่น Nissan Qashqai หรือ Renault Kwid ส่วนอีกแบบจะเป็นรถยนต์ขนาดกลาง อย่างเช่น Nissan Teana ที่ออกแบบให้รองรับกับการใช้งานเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วย ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ มีแผนว่าจะเริ่มผลิตเพื่อจำหน่ายจริงได้ภายในปี 2020 ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ยุคใหม่
ตามแผนแล้ว ภายในปี 2022 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเปิดตัวใหม่ภายใต้ Renault Nissan Mitsubishi Alliance รวม 12 รุ่น เพราะคาดการณ์ว่าแบตเตอรี่จะมีต้นทุนที่ถูกลงกว่าเดิมอีกราว 30% ดังนั้นการผลิตรถยนต์ให้วิ่งได้ 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานของ NEDC ก็เป็นไปได้ รวมทั้งยังสามารถชาร์จไฟแบบด่วน 15 นาทีแล้ววิ่งได้ 220 กิโลเมตรอีกด้วย
แต่ในส่วนของ Mitsubishi นั้น จะยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิมของตัวเองไปก่อนจนถึงปี 2020 หลังจากนั้นค่อยเข้ามาร่วมใช้ Platform ร่วมกัน แล้วนำระบบ plug-in hybrid เข้ามาร่วมพัฒนาเพื่อเอามาใช้ในรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า Mitsubishi Outlander
Renault Nissan Mitsubishi Alliance คาดว่ายอดขายในปีนี้จากทั้ง 3 ยี่ห้อ จะสามารถทำยอดจำหน่ายได้กว่า 10 ล้านคัน และจะเพิ่มเป็น 14 ล้านคันภายในปี 2022 มีรายได้โตจาก 180,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 7.1 ล้านล้านบาท ให้กลายเป็น 240,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 9.48 ล้านล้านบาท รวมทั้งยังสามารถลดต้นทุนในส่วนของการวิจัยและพัฒนาของ Mitsubishi ที่เพิ่งเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทได้ จึงจะเป็นการเพิ่มกำไรให้มากขึ้นได้อีกทาง
ข้อมูลจาก Car Advice
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com