ค่ายรถผวายุโรปเอาจริง วัดไอเสียดีเซลจากปลายท่อขณะขับจริง ..ไม่ใช่ผลจากห้องทดลอง

ค่ายรถยนต์ชั้นนำซีด ยุโรปเตรียมออกกฎเหล็กรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลต้องผ่านการทดสอบบนสภาพการใช้งานจริง หลังหวั่น Co2 ต่ำ แต่ไนโตรเจนออกไซด์สารก่อมะเร็งเพียบ

 

 

กล่าวถึงนวัตกรรมยานยนต์ในทุกวันนี้แล้ว ต้องยอมรับว่า เครื่องยนต์ดีเซล เป็นเครื่องยนต์ที่หลายค่ายรถยนต์ต่างนำมันมาใช้ใหม่อีกครั้ง และเป็นต้นกำลังที่สามารถสร้างพละกำลังการขับขี่ได้มากเกินคาด จนเป็นที่นิยม แต่ที่หลายฝ่ายยังกังวลก็เป็นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมลพิษจากเครื่องยนต์ดีเซลเหลือร้ายไม่แพ้ความแรงของมัน

การทำให้เครื่องยนต์ดีเซลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นสิ่งที่ค่ายรถยนต์หลายรายตระหนัก และปัจจุบันเครื่องยนต์ดีเซลปล่อยเสียต่ำก็มีมากมายเต็มตลาด ทว่าล่าสุดค่ายรถยนต์ชั้นนำกำลังเจอศึกใหญ่ในยุโรป และมันจะกลายเป็นสงครามชั้นนำของตลาดนี้

[IMAGE1]

มีรายงานว่า ปัจจุบันมีเสียงต่อต้านจากการเติบโตของการวัดผลปริมาณไอเสียจากแล็ปมากขึ้น ยิ่งเมืองใหญ่ในยุโรป เช่นลอนดอน มีแผนการลดจำนวนรถยนต์เครื่องดีเซลที่จะเข้าสู่เมืองหลง และ ปารีส  มีแผนในการห้ามรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเข้าเมืองภายในปี   2020

แนวทาง ใหม่นี้จะเป็นการวัดปริมาณจากการใช้งานจริง หรือ all-new Real Driving Emissions (RDE) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนวิธีการพัฒนารถยนต์และทดสอบรถยนต์ของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมดในปัจจุบัน

โดย  The European Automobile Manufacturers Association (ACEA)  เปิดเผยว่าแนวทางใหม่นี้จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2017  ซึ่งการประกาศแนวทางจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม ปี 2017 

[IMAGE2]

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เรียกว่าเป็นอีกครั้งของการเปลี่ยนในเรื่องการเข้มงวดมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญในประเทศยุโรป  โดยปัจจุบันรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลมียอดขายกว่าครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่ในภูมิภาค ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะเครื่องยนต์ดีเซลมีการปล่อย   Co2  ต่ำ  และมีอัตราประหยัดทีดีเยี่ยม

แต่ในขณะที่มันปล่อย  Co2  ต่ำ เจ้าเครื่องยนต์ดีเซลก็ปล่อย ไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสารแบบนี้เป็นสารที่เป็นต้นเหตุของโรคปอดต่างๆ โรคหอบหืด ไปจนถึงโรคมะเร็ง

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com