วิชา - ดูรถแข่ง F1 ให้สนุก 101 ตอนที่ 3 : นักแข่ง F1 ได้รับยางกี่ชุดต่อสนาม? และได้ยางประเภทไหนบ้าง (ปี 2025)

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 10 มิ.ย. 68 15:43
  • 1,027 อ่าน

หลายคนที่เริ่มดู F1 อาจสงสัยว่าในแต่ละสัปดาห์การแข่งขัน นักแข่ง F1 ได้รับ “ยาง” มาทดลองหรือใช้จริงกันกี่ชุด? ได้แบบไหนบ้าง? มีสิทธิ์เลือกเองหรือไม่? คำตอบคือ ทั้งหมดถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าโดย Pirelli และ FIA ครับ ซึ่งการจัดสรรยางให้แต่ละทีมมีผลอย่างมากต่อ “กลยุทธ์การแข่งขัน” และความได้เปรียบเสียเปรียบในแต่ละสนาม

อ่านตอนที่ 1 : รูปแบบการแข่งขันเบื้องต้น ได้ที่นี่

อ่านตอนที่ 2: เข้าใจโครงสร้างและระบบที่ทำให้รถเร็วสุดขั้วได้ที่นี่

F1

ในทุกสุดสัปดาห์การแข่งขัน F1 ปี 2025 (ไม่รวม Sprint Weekend) นักแข่งแต่ละคนจะได้รับยางจาก Pirelli จำนวนรวม 13 ชุด ซึ่งแบ่งเป็น Slick Tyres (แห้ง) และ Wet Tyres (เปียก) ดังนี้:

F1

1. Slick Tyres (ยางแห้ง) — 6 Compound

ปี 2025 Pirelli มี Compound ยางแห้งทั้งหมด 6 ระดับ ได้แก่ C1 (แข็งมากสุด) ถึง C6 (อ่อนสุด)

จาก Compound ทั้ง 6 นี้ Pirelli จะเลือกมาใช้ในแต่ละสนาม 3 Compound ต่อสัปดาห์ของการแข่งขัน โดยจำนวนชุดที่นักแข่งได้รับคือ:

  • Hard (ขาว): 2 ชุด
  • Medium (เหลือง): 3 ชุด
  • Soft (แดง): 8 ชุด

1.1 การเลือก Compound สำหรับแต่ละสนาม

ยาง Pirelli จะมีทั้งหมด 6 Compund หลักๆ (C1-C6) โดย C1 คือยางที่แข็งที่สุด และ C6 คือยางที่นุ่มที่สุด (Pirelli ได้เพิ่ม C6 เข้ามาสำหรับฤดูกาล 2025)

ในแต่ละสนามแข่งขัน Pirelli จะเป็นผู้เลือกยาง Dry Weather จำนวน 3 Compund จาก 6 Compund เหล่านี้มาให้ใช้ โดยจะกำหนดเป็น:

  •  Hard (ยางแข็ง): ยางคอมปาวด์ที่แข็งที่สุดใน 3 ชนิดที่นำมา
  •  Medium (ยางปานกลาง): ยางคอมปาวด์ที่อยู่ตรงกลาง
  •  Soft (ยางนุ่ม): ยางคอมปาวด์ที่นุ่มที่สุดใน 3 ชนิดที่นำมา

ตัวอย่าง: สนามหนึ่ง Pirelli อาจจะเลือกยาง C2, C3, C4 มาให้ใช้ โดย C2 จะถูกกำหนดให้เป็น Hard, C3 เป็น Medium และ C4 เป็น Soft ในขณะที่อีกสนามหนึ่ง Pirelli อาจจะเลือก C3, C4, C5 มา ซึ่งในกรณีนี้ C3 จะกลายเป็น Hard, C4 เป็น Medium และ C5 เป็น Soft เป็นต้น โดยทาง Pirelli ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน จะเลือก Compound สามระดับที่เหมาะสมกับสนามนั้น ๆ เช่น C4–C6 สำหรับสนามในเมือง (street circuits) เช่น Monaco หรือ C1–C3 สำหรับสนามที่มีแรงเสียดทานสูง เช่น Barcelona หรือ Suzuka

F1

2. Wet Tyres (ยางเปียก) — กรณีใช้งานในสนามเปียก

นอกจาก Slick Tyres แต่ละสนามยังมีโควต้ายางเปียกเพิ่มเติม ดังนี้:

  • Intermediate (เขียว): 4 ชุด
  • Full Wet (ฟ้า): 3 ชุด

โดยจำนวนนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานสำหรับ Weekend แม้ไม่มีฝนตก ทีมจะมีไว้สำรองเผื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

หมายเหตุ: หากมีการฝึกซ้อมภายใต้สภาพฝนตก FIA อาจจัดยางเปียกเพิ่มเติมให้ฟรี โดยไม่คิดในโควต้า 13 ชุด

3. กฎการใช้ยางในวันแข่งขัน

- ในสนามแห้งนักแข่งต้องใช้ Slick Tyres อย่างน้อย 2 Compound ต่างกัน (ส่งผลให้ต้องมี Pit Stop อย่างน้อย 1 ครั้ง)

- ในสนามเปียกกฎนี้จะไม่ถูกบังคับ นักแข่งสามารถใช้ยางเปียกชุดเดียวต่อการแข่งขันได้

- Qualifying: นักขับที่ผ่านเข้ารอบ Q3 จะได้รับยาง Soft เพิ่มอีก 1 ชุด

- การคืนยาง: ทีมจะต้องคืนยางบางส่วนให้กับ Pirelli หลังจากการซ้อมแต่ละครั้ง (Free Practice) เพื่อให้จำนวนยางที่ใช้ในช่วง Qualifying และ Race เหลือตามที่กำหนดไว้

4. Sprint Weekend และการจัดยาง

ในสัปดาห์ที่มี Sprint Format (แข่งแบบ Mini Race 100 กม. เพิ่มเติม)
    •    FIA และ Pirelli อาจลดจำนวนยางที่ได้รับ (โดยเฉพาะ Soft)
    •    และมีการบังคับใช้ Compound ที่ต่างกันในรอบ Qualifying Sprint และ Race Sprint

F1

5. ทีมเลือกยางเองได้ไหม?

ในอดีต (ก่อนปี 2022) ทีมสามารถเลือกจำนวนแต่ละ Compound ได้เองในบางระดับ แต่ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา (รวมถึง 2025) เพื่อความเสมอภาคและง่ายต่อการจัดการแข่งขัน
➡️ Pirelli จะกำหนดจำนวนยางแต่ละ Compound เท่ากันทุกทีม ตามโควต้าข้างต้น

6. การจัดการยางเป็น “เกมกลยุทธ์”

ในระหว่างการฝึกซ้อม (FP1-FP3), การจัดอันดับ (Qualifying) และการแข่งขันจริง (Race) ทีมจะต้องบริหาร 13 ชุดนี้ให้คุ้มค่าที่สุด
    •    ถ้าใช้ยาง Soft ไปมากในการ Qualify → อาจเหลือ Soft ใหม่ๆ ไม่พอใช้ในวันแข่ง
    •    ถ้าใช้ Hard น้อยไป อาจไม่มีข้อมูลพอว่ายางแข็งจะเวิร์คในระยะยาวไหม

นี่คือจุดที่การวางกลยุทธ์ยางกลายเป็น “เกมซ่อนกล” ระหว่างทีมต่างๆ ที่ส่งผลถึงผลการแข่งขันโดยตรง

การเข้าใจว่า “ใครใช้ยางอะไร” และ “แต่ละคนเหลือยางอะไรบ้างในวันแข่ง” จะช่วยให้คุณดู F1 ได้ลุ้นขึ้นอีกระดับแน่นอน!
และที่สำคัญคือ ยาง Soft ไม่ได้ชนะเสมอไป! กลยุทธ์การใช้ยางต่างหากที่เป็นหัวใจของชัยชนะใน F1

อ่านตอนที่ 1 : รูปแบบการแข่งขันเบื้องต้น ได้ที่นี่

อ่านตอนที่ 2: เข้าใจโครงสร้างและระบบที่ทำให้รถเร็วสุดขั้วได้ที่นี่

 

ภาพจาก F1

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ