Tesla อาจถูกเพิกถอนสิทธิ์การขายรถยนต์ในแคลิฟอร์เนีย หลังถูกสอบสวนการโฆษณาเกินจริงระบบ Autopilot

เทสลา (Tesla) กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางกฎหมายครั้งสำคัญในรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากกรมยานยนต์รัฐแคลิฟอร์เนีย (California DMV) กล่าวหาว่าบริษัทโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับความสามารถของระบบช่วยขับขี่ Autopilot และ Full Self-Driving โดยการพิจารณาคดีจะใช้เวลาห้าวัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิกถอนหรือระงับใบอนุญาตตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของเทสลาในรัฐนี้

ข้อกล่าวหาเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2022 เมื่อ California DMV ชี้ว่าเทสลาให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับระบบช่วยขับขี่ โดยเอกสารการตลาดของบริษัทสร้างความเข้าใจผิดว่ารถยนต์เทสลาสามารถเดินทางระยะสั้นและระยะไกลได้โดยไม่ต้องให้ผู้ขับมีส่วนร่วม

ในเดือนมิถุนายน 2025 ผู้พิพากษาในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ปฏิเสธคำร้องขอยกฟ้องของเทสลา และสั่งให้บริษัทเข้ารับการไต่สวนต่อหน้าผู้พิพากษากฎหมายปกครองที่เมืองโอ๊คแลนด์ โดย DMV ต้องการให้ศาลพิจารณาระงับหรือเพิกถอนใบอนุญาตขายรถของเทสลาในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจของบริษัทในรัฐที่ถือเป็นตลาดหลัก

ด้านทีมกฎหมายของเทสลาชี้ว่า คำโฆษณาที่เป็นประเด็นถูกนำเสนอในลักษณะที่ไม่ครบถ้วน และคำกล่าวอ้างดังกล่าวควรได้รับความคุ้มครองตามหลักเสรีภาพในการพูด โดยบริษัทมีการระบุคำเตือนไว้อย่างชัดเจนว่าระบบ Autopilot ต้องการ “การควบคุมดูแลอย่างต่อเนื่องจากผู้ขับขี่”

ขณะเดียวกัน เทสลาก็กำลังขออนุมัติจากหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อขยายโครงการรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ในเมืองซานฟรานซิสโก หากได้รับอนุญาต รถยนต์ Tesla Model Y จะให้บริการขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้การดูแลของมนุษย์ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้เทสลาแข่งขันโดยตรงกับ Waymo ที่ให้บริการลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว

นอกจากคดีในแคลิฟอร์เนีย เทสลายังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุนที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุเมื่อปี 2019 ที่รถ Tesla Model S พุ่งชนและคร่าชีวิตคนเดินถนน โดยคดีนี้จะพิจารณาว่าระบบ Autopilot มีส่วนรับผิดชอบร่วมกับผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภาวะเสียสมาธิหรือไม่

ในการไต่สวนที่ไมอามี ฝ่ายโจทก์ได้เชิญศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมและอดีตนักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ Mary “Missy” Cummings มาเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ โดยเธอวิจารณ์การใช้คำว่า "Autopilot" ของเทสลาอย่างหนัก โดยระบุว่าเป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภคเชื่อว่าระบบขับขี่มีความปลอดภัยและแม่นยำเช่นเดียวกับระบบในอากาศยาน ทั้งที่เทคโนโลยีในรถยนต์ยังไม่สามารถเทียบเคียงได้

เทสลายังคงยืนยันว่าสิ่งที่บริษัทกล่าวถึงเกี่ยวกับการขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ เป็นเพียงเป้าหมายในอนาคต และไม่ได้อ้างว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันทำได้จริง โดยระบบ Autopilot ที่เทสลาใช้ยังคงจัดอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีช่วยขับขี่ระดับ 2 (Level 2 ADAS) ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้ขับควบคุมอยู่ตลอดเวลา แม้ซีอีโอ อีลอน มัสก์ จะเคยทำนายว่าเทสลาจะสามารถพัฒนาไปถึงระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Level 5) แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณว่าความสามารถนั้นจะเกิดขึ้นจริงในเร็ววัน
ผลการไต่สวนที่กำลังจะมีขึ้นไม่เพียงแต่จะชี้ชะตาใบอนุญาตขายรถของเทสลาในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นกรณีตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนถึงความเข้มงวดของการควบคุมการตลาดด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติในสหรัฐฯ ทั้งระบบ

ที่มา Carscoops