JLR เริ่มฟื้นหลังโดนโจมตีไซเบอร์ แต่ผลกระทบยังลุกลามทั่วเครือข่ายการผลิต

หลังจากเผชิญการโจมตีทางไซเบอร์ยาวนานกว่า 5 สัปดาห์ ในที่สุด Jaguar Land Rover (JLR) ก็เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง โดยมีรายงานว่าบริษัทจะเริ่มเดินสายการผลิตบางส่วนภายในสัปดาห์นี้ แม้ยังต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่ากระบวนการทั้งหมดจะกลับมาสู่ระดับปกติก็ตาม

JLR ระบุว่าจะเริ่มเปิดสายการผลิตที่โรงงานเครื่องยนต์ในเมืองวูล์ฟแฮมป์ตัน (Wolverhampton) เป็นแห่งแรก ขณะที่อีกสองโรงงานในสหราชอาณาจักรจะทยอยกลับมาเดินเครื่องภายหลัง แต่ยังไม่มีการระบุวันอย่างชัดเจน โดย BBC รายงานว่าโรงงานเหล่านี้จะกลับมา “อย่างค่อยเป็นค่อยไป” และอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าการผลิตจะกลับมาเต็มกำลัง

เหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ส่งผลกระทบไม่เฉพาะโรงงานในสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฐานการผลิตของ JLR ในจีน อินเดีย และสโลวาเกียด้วย โดยมีการประเมินว่าความเสียหายจากการหยุดผลิตอาจสูงถึง 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,300 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์
ผลกระทบยังขยายไปถึงซัพพลายเชนกว่า 200,000 คนที่ทำงานในบริษัทคู่ค้าของ JLR ซึ่งหลายแห่งพึ่งพาการผลิตให้กับแบรนด์อังกฤษรายนี้โดยตรง หนึ่งในซัพพลายเออร์หลักคือ Evtec Group ซึ่งมีพนักงานกว่า 1,200 คน ต้องหยุดการผลิตและให้พนักงานหยุดงานชั่วคราวโดยได้รับค่าจ้างเพียง 80%

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เข้ามาให้การสนับสนุนด้วยการรับประกันเงินกู้มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ (1.5 พันล้านปอนด์) เพื่อช่วยเหลือบริษัทคู่ค้าของ JLR ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงวิกฤตนี้

JLR ยืนยันว่าจะดำเนินการ “รีสตาร์ทแบบเป็นขั้นตอน” เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดซ้ำ หลังจากที่ผ่านมาเคยมีความพยายามเริ่มระบบใหม่หลายครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยก่อนเกิดเหตุโจมตี บริษัทมีกำลังการผลิตราว 1,000 คันต่อวัน

ขณะนี้กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า “Scattered Lapsus$ Hunters” ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตี พร้อมยังส่งข้อความ挑衅 (ยั่วยุ) ถึงหน่วยข่าวกรอง MI6 ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติ และสำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักรอีกด้วย

ที่มา Carscoops