JLR ใช้ AI สแกนหาความเสียหายบนรถใหม่ ก่อนถึงโชว์รูม

ผู้บริโภคอาจจะคุ้นกับระบบสแกนรถอัจฉริยะของ Hertz ที่มักสร้างปัญหาเวลาเช่ารถในสหรัฐฯ แต่สำหรับลูกค้า Jaguar Land Rover (JLR) เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นเกราะป้องกันที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้มากกว่า

JLR ได้จับมือกับ UVeye บริษัทเทคโนโลยีเบื้องหลังเครื่องสแกนที่ Hertz ใช้ เพื่อนำระบบตรวจสอบด้วย AI มาติดตั้งในท่าเรือหลักของสหรัฐฯ ได้แก่ Brunswick (จอร์เจีย), Baltimore (แมริแลนด์) และ Port Hueneme (แคลิฟอร์เนีย) ทำให้ JLR กลายเป็นแบรนด์แรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในระดับใหญ่

ขั้นตอนทำได้ง่าย ๆ เพียงขับรถผ่านสถานีสแกนด้วยความเร็วต่ำ ระบบจะตรวจจับความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยบุบหรือรอยขีดข่วนขนาดเพียง 20 มม. (0.7 นิ้ว) รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผลิตหรือการขนส่ง จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งตรงไปยังแท็บเล็ตของเจ้าหน้าที่แบบเรียลไทม์ ช่วยลดความผิดพลาดจากการตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ และทำให้กระบวนการเคลื่อนย้ายรถเร็วขึ้น

Amir Hever ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง UVeye กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความเร็ว แต่ยังสร้าง “มาตรฐานใหม่ด้านความโปร่งใส การตรวจสอบย้อนกลับ และความไว้วางใจในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์”

สถานีตรวจสอบของ UVeye ประกอบด้วย เครื่องสแกนใต้ท้องรถ, ตัววิเคราะห์สภาพยาง และระบบตรวจจับสภาพภายนอกรอบคันแบบ 360 องศา ปัจจุบันถูกใช้งานโดยหลายบริษัทใหญ่ เช่น General Motors, Amazon และผู้ให้บริการรถเช่าหลายราย แสดงให้เห็นว่า AI ในการตรวจสอบคุณภาพยานยนต์กำลังแพร่หลายไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม

กล่าวได้ว่า แม้ผู้ใช้บริการเช่ารถอาจไม่ปลื้มกับ AI Scanner เท่าไร แต่สำหรับผู้ซื้อรถใหม่ เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่รับประกันว่ารถที่ถึงมือลูกค้าจะไร้ตำหนิและได้คุณภาพสูงสุด

ที่มา Carscoops