กฎหมายสหรัฐฯ กดดัน Hertz ชี้แจงระบบ AI ตรวจจับความเสียหายรถเช่า หลังลูกค้าร้องเรียนถูกเรียกเก็บไม่เป็นธรรม

Hertz บริษัทให้เช่ารถรายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังถูกคณะกรรมาธิการกำกับดูแลสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (House Oversight Committee) ตรวจสอบอย่างจริงจัง หลังนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยตรวจสอบความเสียหายของรถเช่า แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าไม่ยุติธรรมและไร้ความรับผิดชอบ

Hertz ใช้เทคโนโลยีจากบริษัท UVeye ของอิสราเอล โดยติดตั้งสแกนเนอร์ที่สามารถถ่ายภาพรอบคันแบบ 360 องศา ตอนที่รถออกและคืน เพื่อระบุร่องรอยความเสียหาย โดยบริษัทอ้างว่าระบบช่วยป้องกันการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าผิดคน แต่ผู้เช่าจำนวนมากกลับร้องเรียนว่าระบบตรวจจับเข้มเกินไป หรือบางครั้งพบความเสียหายที่ “ไม่มีอยู่จริง”

ประเด็นที่สร้างความกังวลที่สุดคือ เมื่อระบบ AI ตรวจพบความเสียหาย จะไม่มีพนักงานเข้ามาตรวจสอบซ้ำก่อนเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ซึ่งแตกต่างจากบริษัทเช่ารถรายอื่นที่ยังคงมีการตรวจสอบโดยคนก่อนตัดสินใจเรียกเก็บเงิน

แนนซี เมซ (Nancy Mace) ประธานอนุกรรมาธิการจากพรรครีพับลิกัน ได้ส่งจดหมายถึงซีอีโอของ Hertz คือ กิล เวสต์ (Gil West) เรียกร้องให้บริษัทชี้แจงรายละเอียดการทำงานของระบบ เช่น วิธีที่ UVeye ประเมินความเสียหาย อัตราการยกเลิกหรือคงไว้เมื่อมีการโต้แย้ง และเหตุผลที่ลูกค้าหลายคนบ่นว่าไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพูดคุยปัญหาได้สะดวก

Hertz ถูกกำหนดเส้นตายให้ตอบคำถามต่อคณะกรรมาธิการภายในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เนื่องจากปัญหานี้มีผลกระทบทั้งต่อผู้บริโภคทั่วไปและการใช้เทคโนโลยีในภาคเอกชน-ภาครัฐ คณะกรรมาธิการระบุว่ามีศักยภาพที่ระบบ AI จะช่วยให้การตรวจสอบความเสียหายเป็นธรรมมากขึ้น แต่จำเป็นต้องมั่นใจว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับประโยชน์ ไม่ใช่ถูกเอาเปรียบจากเทคโนโลยี

ด้วยแรงกดดันจากทั้งลูกค้าและฝ่ายกฎหมาย Hertz จึงถูกจับตามองว่าจะออกมาชี้แจงการทำงานจริงของระบบนี้อย่างไร และจะปรับปรุงให้โปร่งใสขึ้นหรือไม่

ที่มา Carscoops