โศกนาฏกรรมจากอีไบค์ในนิวยอร์ก จุดเดือดใหม่ของความวุ่นวายบนท้องถนนเมืองใหญ่

นิวยอร์กกำลังเผชิญวิกฤตการจราจรครั้งใหม่ เมื่อจักรยานไฟฟ้าความเร็วสูงที่ไม่ได้จดทะเบียนกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ท้องถนนอย่างควบคุมไม่ได้ โดยบางรุ่นสามารถทำความเร็วได้ถึง 40 ไมล์ต่อชั่วโมง ล่าสุดเกิดเหตุสลดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อหญิงชาวควีนส์ถูกชนเสียชีวิตจากอีไบค์รุ่น Movcan V30 ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 32 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งตามกฎหมายของรัฐนิวยอร์กถือว่าอยู่ในประเภท “สกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์” มากกว่าจักรยานไฟฟ้า

แม้อีไบค์จะกลายเป็นพาหนะยอดนิยมในเมืองใหญ่ทั่วโลก เพราะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารและไรเดอร์ส่งอาหารเดินทางได้รวดเร็ว ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ความสะดวกนี้ก็กำลังกลายเป็นดาบสองคม เมื่อหลายรุ่นถูกดัดแปลงให้มีความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

กฎหมายของนิวยอร์กระบุว่า จักรยานไฟฟ้าจะต้องมีความเร็วสูงสุดไม่เกิน 25 ไมล์ต่อชั่วโมง และมีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าไม่เกิน 750 วัตต์ หากเกินกว่านี้จะถูกจัดเป็นยานยนต์ที่ต้องจดทะเบียนและมีใบอนุญาตขับขี่ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้บริโภคยังสามารถซื้ออีไบค์ที่ละเมิดข้อกำหนดเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายผ่านร้านค้าออนไลน์ หรือแม้แต่อีไบค์ที่อยู่ในเกณฑ์ก็สามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้มีความเร็วเกินได้เช่นกัน

รายงานจากเว็บไซต์ NYC.StreetsBlog ชี้ให้เห็นว่าทั้งแบรนด์ใหญ่และผู้ผลิตรายย่อยจำนวนมากต่างมีส่วนในตลาดสีเทานี้ ตัวอย่างเช่นแบรนด์ Onyx ที่จำหน่ายจักรยานไฟฟ้าน้ำหนัก 155 ปอนด์ซึ่งสามารถวิ่งได้ถึง 40 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยยูทูบเบอร์ชื่อดัง Casey Neistat เคยนำมาทดสอบบนสะพานบรู๊กลิน ขณะที่แบรนด์ SUPER73 เคยมีโหมดขับขี่เร็วถึง 30 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนจะถูกจำกัดภายใต้กฎหมายใหม่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ผู้ใช้ก็ยังหาทางปลดล็อกผ่านแอปพลิเคชันภายนอกได้อยู่ดี

ประเด็นนี้สะท้อนความคลุมเครือระหว่าง “จักรยาน” และ “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ที่กำลังเบลอมากขึ้นเรื่อย ๆ นักปั่นจักรยานชื่อดัง Seth Alvo จากช่อง Berm Peak แสดงความคิดเห็นว่า “ความแตกต่างระหว่างจักรยานกับมอเตอร์ไซค์ไม่ควรจะยากต่อการแยกแยะ แต่ในทางกฎหมาย มันกลับไม่ชัดเจนเลย” ขณะที่ Ryan Kluftinger จากช่อง FortNine มองในอีกมุมหนึ่งว่า แม้อีไบค์จะมอบอิสระในการเดินทาง แต่ในที่สุดมันก็กำลังกลายเป็น “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” เต็มรูปแบบ

ด้วยสถานการณ์ที่ทวีความซับซ้อน เมืองนิวยอร์กเริ่มพิจารณามาตรการเข้มงวด โดยอาจหันไปควบคุมผู้จำหน่ายอีไบค์แทนที่จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ต้องไล่จับผู้ขับขี่บนท้องถนน แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ปัญหานี้ยังคงเป็นระเบิดเวลาสำหรับมหานครที่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะตราบใดที่มีถนนแคบ ผู้คนหนาแน่น และวินัยจราจรที่หละหลวม อุบัติเหตุจากอีไบค์ก็อาจยังเกิดขึ้นได้อีกในทุกเมื่อ

ที่มา Carscoops