ฮานอยจ่อแบนมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์เบนซิน เริ่มกลางปี 2026 สู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 24 ก.ค. 68 21:21
  • 1,053 อ่าน

เวียดนามกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการเดินทาง หลังรัฐบาลประกาศแผนเริ่มแบนมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปในกรุงฮานอยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2026 เป็นต้นไป โดยจะเริ่มจากย่านใจกลางเมือง ก่อนขยายวงกว้างในปี 2028 และครอบคลุมทั่วทั้งกรุงภายในปี 2030

สำหรับประเทศที่วัฒนธรรมการใช้รถมอเตอร์ไซค์ฝังลึกในวิถีชีวิตประจำวัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเฉพาะในกรุงฮานอยซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งอยู่บนถนนราว 7 ล้านคัน จากตัวเลขทั่วประเทศที่สูงถึงประมาณ 72 ล้านคัน และส่วนใหญ่ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน การประกาศแบนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดมลพิษทางอากาศและระดับการปล่อยไอเสียที่เป็นพิษในเมือง

จากรายงานของ VNExpress ระบุว่า ขณะนี้มีรถมอเตอร์ไซค์ในฮานอยประมาณ 5.6 ล้านคันที่ใช้น้ำมัน และราว 1.3 ล้านคันที่เป็นรถไฟฟ้า ส่วนรถยนต์มีอยู่ประมาณ 1 ล้านคัน แม้จะมีผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหลายรายในเวียดนาม เช่น Selex Motors และ VinFast แต่ปัญหาหลักยังอยู่ที่ “โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟที่ยังไม่เพียงพอ” ทำให้การเปลี่ยนผ่านยังเป็นไปได้ยาก

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่วางขายในตลาดเวียดนามส่วนใหญ่ใช้ระบบแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้ (swappable battery) ซึ่งคล้ายกับที่ใช้กันแพร่หลายในไต้หวัน จุดนี้ช่วยให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรอชาร์จนาน แต่ถึงอย่างนั้น รัฐบาลเวียดนามยังไม่มีนโยบายส่งเสริมหรือให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการยกเว้นค่าจดทะเบียน
อีกหนึ่งความท้าทายคือเรื่องของต้นทุนและราคาซื้อขาย เมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของประชากรในฮานอยซึ่งอยู่ที่ราว 6,250 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 230,000 บาท) การซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันใหม่ที่มีราคาประมาณ 1,150–1,900 ดอลลาร์ (ราว 42,000–70,000 บาท) ถือว่ายังเป็นภาระที่เกินเอื้อมสำหรับคนจำนวนมาก

อดีตประธานสมาคมการขนส่งยานยนต์เวียดนามได้เสนอว่า รัฐควรเข้ามาสนับสนุนด้วยมาตรการทางการเงิน เช่น เงินอุดหนุน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือโครงการสนับสนุนอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง และไม่ทิ้งกลุ่มรายได้ต่ำไว้ข้างหลัง

แม้ยังมีอุปสรรคหลายด้าน แต่แผนของกรุงฮานอยอาจกลายเป็นต้นแบบให้กับเมืองอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการรับมือกับปัญหามลพิษทางอากาศ และเปลี่ยนผ่านสู่ระบบขนส่งที่สะอาดขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ