15 สุดยอดเทคโนโลยีรถยนต์ที่เปิดตัวในปี 2016

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 17 ต.ค. 59
  • 12,070 อ่าน

แน่นอนว่า เทคโนโลยีต่างๆบนรถยนต์ แต่ละค่ายต่างก็พัฒนากันอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นผู้นำในตลาด หลายอย่างที่กลับกลายเป็นเทคโนโลยีประจำรถได้จริง แต่บางอย่างก็หายไป วันนี้เรามาดู 15 สุดยอดเทคโนโลยีที่เปิดตัวให้เราเห็นในปี 2016 กันครับ

15. BMW Vision Next 100 concept

ถือเป็นอีกค่ายของที่ถือว่าเป็นผู้นำอันดับต้นๆของเทคโนโลยีอย่าง BMW ที่ได้เปิดเผย Concept Car อย่าง  BMW Vision Next 100 ออกมาอวดโฉม เทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นคือ รถจะมีตัวถังที่ครอบตัวล้อทั้ง 4 ล้อไปด้วย และเมื่อมีการเลี้ยว ตัวซุ้มล้อก็จะทำการยืดออกเพื่อรองรับการเอียงของล้อได้ในทันที

Toyota

14. Okuriari รถยนต์ตัวถังไม้จาก Toyota

จริงๆแล้วทาง Toyota ไม่ได้ผลิต Okuriari ออกมาเพื่อเป็นรถยนต์แห่งอนาคต แต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ระลึกถึงอดีตมากกว่า โดยรถคันนี้ผลิตจากชิ้นส่วน 86 ชิ้นที่ทำด้วยมือล้วนๆ และที่สำคัญคือมันสามารถขับได้จริง

Lexus

13. Lexus UX รถคันนี้ไม่มีกระจกมองข้าง

Concept แห่งอนาคตของ Lexus UX ที่จะไม่มีทั้งกระจกมองข้างและมองหลัง แต่จะใช้การติดกล้องเข้าไปแทน แล้วส่งสัญญาณภาพเข้ามาในรถ ถือเป็นอีก 1 นวัตกรรมที่น่าจะเป็นจริงได้เร็วๆนี้

Lexus

12. เบาะสไตล์ใหม่แบบ Kinetic

ใครว่าเบาะนั่งในรถจะต้องเป็นแบบหนังหรือผ้าหุ้มฟองน้ำเพียงอย่างเดียว เมื่อทาง Lexus ได้ออกแบบเบาะแบบใหม่สไตล์ Kinetic เมื่อนำเอาแถบผ้ามาถักเข้ากับโครงเบาะจนเป็นไยคอยรองรับตัวเราไว้ขณะที่เรานั่งลงไป โดยทาง Lexus บอกว่า การออกแบบนี้จะช่วยให้เบาะสามารถโอบอุ้มตัวเราได้กระชับกว่าและนั่งได้สบายกว่าเบาะแบบธรรมดา

Rolls Royce

11. Rolls-Royce Vision 100 นั่งรถแต่เหมือนอยู่บ้าน

เทคโนโลยีไร้คนขับกำลังถูกพัฒนากันอย่างเต็มที่ ทาง Rolls-Royce ก็เลยจัดการออกแบบภายในรถยนต์แห่งอนาคตอย่าง Rolls-Royce Vision 100 มาซะเลย ซึ่ง Concept Car คันนี้ ภายในจะเหมือนเป็นโซฟาที่อยู่หน้าทีวี ในเมื่อรถยนต์สามารถขับเคลื่นได้เอง ดังนั้นอุปกรณ์ในการขับรถก็เลยไม่จำเป็น ที่เหลืออยู่ก็จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายระหว่างการนั่งรถไปสู่จุดหมายเท่านั้นเอง

Mercedes Maybach

10. ห้องโดยสารสุดล้ำใน Mercedes Maybach

รถ Concept Car มักจะออกแบบให้ล้ำสมัยเกินปัจจุบันไปมากเสมอ แต่กับการออกแบบของ Mercedes Maybach นั้น ดูเหมือนว่าจะล้ำหน้าออกไปไกลกว่านั้นอีก เพราะทุกส่วนในรถจะแสดงข้อมูลต่างๆได้มากมาย รวมทั้งบนกระจกหน้าด้วย ดูแล้วเหมือนอยู่ในยาน USS Enterprise ของกัปตันเคิร์กเลย

9. Mini กล่าวสวัสดีเราก่อนต้อนรับขึ้นรถ

การออกแบบระบบนี้ของทาง Mini ได้มองก้าวข้ามไปถึงอนาคตที่มีระบบการใช้รถยนต์แบบ Sharing ซึ่งอาจทำให้ความรู้สึกเมื่อเราเข้าไปใช้รถ จะไม่รู้สึกว่าได้เป็นเจ้าของมัน ทาง Mini จึงได้ทำระบบที่รถยนต์สามารถจดจำบุคคลได้ โดยจะทำการกล่าวต้อนรับเราเมื่อเราเข้าใกล้ และเปิดประตูให้เราเข้าสู่ตัวรถได้เลย

Lo Res Car

8.  รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำ

ถ้าดูรูปนี้แล้วจะบอกว่ามันคือรถยนต์ไฟฟ้า จะเชื่อกันไหมครับ เพราะรูปลักษณ์มันเหมือนเป็นยานอวกาศมากกว่าจะเป็นรถ ซึ่งผู้ที่ออกแบบกลับเป็นดีไซเนอร์มาจากบริษัทรองเท้า ที่ใช้เวลาถึง 5 ปีกว่าจะออกมาเป็นรูปลักษณ์แบบนี้ได้ โดยเป็นรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ประตูเปิดขึ้นด้านบนแบบทั้งคัน แต่สามารถวิ่งได้ไกลเพียง 50 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้งเท่านั้น

7. Renault Trezor รถยนต์หายใจได้

รถไฟฟ้า Renault Trezor คันนี้จัดการอวดโฉมตัวจริงไปแล้วที่งาน Paris Motor Show ด้วยความทันสมัยทั้งคัน แต่จุดที่เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจที่สุดจะเป็นระบบรับลมที่ฝากระโปรง ที่จะสามารถเปิดปิดได้อัตโนมัติเมื่อต้องการระบายความร้อนภายในห้องเครื่อง ดูไปแล้วก็เหมือนรถกำลังหายใจได้เลย

Pininfarina

6. Pininfarina เริ่มผลิตรถยนต์ระบบ Hydrogen แล้ว

รถยนต์แห่งอนาคตที่จะมาต่อจากรถยนต์ไฟฟ้าอีกที ก็คงจะเป็นรถยนต์ระบบ Hydrogen ที่มีความได้เปรียบกว่ารถยนต์ระบบไฟฟ้าตรงที่ว่า สามารถวิ่งได้ไกลกว่าในการเติม 1 ครั้ง และเติมเชื้อเพลิงได้เร็วกว่ามาก ซึ่งหลังจาก Pininfarina เปิดตัว Concept Car อย่าง H2 มาแล้วเมื่อเดือนมีนาคม ที่สามารถทำความเร็ว 0-100 ได้ใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 298 กม./ชม.ล่าสุดได้มีข่าวว่า Pininfarina ได้ขึ้นไลน์การผลิตของ H2 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งล็อตแรกอาจจะผลิตมาในจำนวนจำกัด แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ

Mercedez

5. Mercedes Vision Van รถส่งของได้ตรงเวลาด้วย Drone

ด้วยเงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนากว่า 562  ล้านดอลลาร์สหรัฐฯของ Mercedes จนในที่สุดก็ได้ปล่อยภาพของ Mercedes Vision Van รถยนต์ส่งของแบบไฟฟ้า แต่ที่ไม่ธรรมดาก็ตรงที่ว่า ที่หลังคาของ Mercedes Vision Van คันนี้จะมี Drone อยู่อีก 2 ตัว เอาไว้รองรับในกรณีที่รถไม่สามารถฝ่าการจราจรเพื่อส่งของให้ทันได้ ก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Drone ที่จะขนของแล้วบินไปส่งให้ถึงปลายทางได้ทันเวลา

Uber

4. คนเมือง Pittsburgh เลือกได้ว่าจะนั่ง Uber แบบไร้คนขับหรือไม่

แน่นอนว่าระบบไร้คนขับยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ทาง Uber กลับเลือกที่จะลองนำช่วงทดสอบนี้ มาเป็นตัวเลือกให้ชาวเมือง Pittsburgh มาร่วมทดสอบด้วยกันได้ แต่ถึงแม้รถจะเป็นระบบขับได้เองอัตโนมัติ แต่การทดสอบนี้ก็จะมีคนขับและวิศวกรมานั่งอยู่ด้านหน้า เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วยครับ

Chevy Bolt

3. Chevy Bolt รถไฟฟ้าวิ่งไกลในราคาที่เอื้อมถึงง่าย

ในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน Chevy Bolt ถือได้ว่าเป็นรถ EV ที่วิ่งได้ไกลเป็นอันดับต้นๆไปแล้ว ด้วยการชาร์จ 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ไกลมากถึง 380 กม. แถมราคาก็ยังถูกกว่า วางจำหน่ายในสหรัฐฯเพียง 37,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.34 ล้านบาท เท่านั้นเอง

Tesla

2. แบตเตอรี่รุ่นใหม่ของ Tesla ทำให้วิ่งได้ไกลกว่าเดิม

แน่นอนว่าความท้าทายของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน จะเป็นเรื่องของระยะทางที่รถวิ่งได้ไกลที่สุดเท่าไหร่ เพราะเราคงไม่อยากเสียเวลาชาร์จที 6-8 ชั่วโมงแต่วิ่งไปไม่ได้ไกล ดังนั้นทาง Tesla จึงได้ออกแบตเตอรี่โมเดลใหม่ ที่จะเก็บไฟได้ปริมาณมากขึ้นในขนาดเท่าเดิม โดย Tesla Model S ใน Ludicrous mode กับแบตเตอรี่ตัวล่าสุด ทำให้รถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 500 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่สามารถวิ่งไปไกลกว่า 480 กิโลเมตรในการชาร์จครั้งเดียว

2016 Corvette Z06

1. ควบคุมพวงมาลัยได้ด้วยสายตา

สุดยอดเทคโนโลยีในรถยนต์ของปี 2016 ตกเป็นของ 2016 Corvette Z06 ที่ติดตั้งระบบการควบคุมพวงมาลัยด้วยสายตา โดยการทดสอบวิ่งจริงครั้งนี้จะได้อดีตนักขับรถแข่ง Indy car อย่าง Sam Schmidt มาทำการทดสอบ โดยการควบคุมพวงมาลัยนั้น จะใช้การใส่แว่นตาไปที่ผู้ขับ เมื่อหันหัวเอียงไปทางไหน รถก็จะเลี้ยวตามไปทางนั้น และเมื่อจะเร่งหรือลดความเร็ว ก็ทำการเป่าหรือดูดหลอดท่อลมที่ต่อเข้ากับแว่นตา ถือเป็นอีกเทคโนโลยีช่วยขับที่ง่ายดายจริงๆครับ

ข้อมูลจาก BusinessInsider

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ