สายพระเนตรอันกว้างไกล กับพลังงานทางเลือก ตอนที่ 2 : ในหลวงกับไบโอดีเซล

  • โดย : Autodeft
  • 21 ต.ค. 59
  • 7,841 อ่าน

ตั้งแต่ที่ได้ปล่อยบทความเรื่อง ในหลวงกับแก๊สโซฮอลออกไปให้ท่านผู้อ่าน ผมรู้สึกหปลื้มอย่างมากที่ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมากในการเข้ามาอ่าน ตลอดจนแชร์ข้อมูลความรู้จากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนกลายเป็นสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ตั้งปแต่ตอนที่แล้วที่ผมได้พูดถึงน้ำมันเชื้อเพลิงผสมกับแอลกอฮอล์จากพืช จนกลายเป็นแก๊สโซฮอลแบบที่เราใช้ในทุกวันนี้  นอกจากพระราชดำริในเรื่องของพลังงานทดแทนในกลุ่มน้ำมันเบนซินแล้ว ทางด้านน้ำมันที่มีผลอย่างมากต่อการสร้างเศรษฐกิจใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลาย  “น้ำมันดีเซล” ก็ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาด้วยเช่นกัน

“ไบโอดีเซล” เชื่อว่าหลายคนคงน่าจะเคยผ่านหูมาบ้าง ไม่มากก็น้อยกับพลังงานทางเลือกจาพืชประเภทน้ำมันที่สามารถนำมาผ่านกระบวนการจนใช้ได้กับเครื่องยนต์ โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมันดีเซลธรรมดาทั่วไปในการใช้งานรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล

สายพระเนตรอันยาวไกล เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงได้เริ่มต้นการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ด้วยการให้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จัดตั้ง โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่สหกรณ์นิคมอ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ขนาดเล็ก กำลังผลิตวันละ ๑๑๐ ลิตร ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส

[IMAGE1]

 

2 ปี นับตั้งแต่มีพระกระแสรับสั่ง ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงกลั่นสาธิตขึ้นภายในมหาวิทยาลัย เมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาทอดพระเนตรในปีพ.ศ. 2528  จึงมีพระราชดำริให้นำโรงกลั่นดังกล่าวไปสร้างกับเกษตรกรในพื้นที่จริง จนจัดตั้งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขึ้นที่สหกรณ์นิคมอ่าวลึก จังหวัดกระบี่

ในปี พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีกระแสรับสั่งเพิ่มเติมให้จัดตั้งโรงงานแปรรูปน้ำมันปาล์มครบวงจร ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส แต่กว่าจะเริ่มคิดค้นจนนำมใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลได้นั้นก็เป็นในปี พ.ศ. 2543 เมื่อ  โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาและกองงานส่วนพระองค์ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เริ่มการทดลองนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล และจากการทดสอบพบว่า  น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100เปอร์เซ็นต์ สามารถใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลได้ทันที หรือ อาจจะเอานำมาผสมกับน้ำมันดีเซลปกติใช้ก็ได้

จากผลความสำเร็จดังกล่าว ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2544 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คุณอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ยื่นจดสิทธิบัตร "การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซล"

และในปีเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติอัญเชิญอัญเชิญผลงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   3 ผลงาน ไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ "Brussels Eureka 2001" ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ปรากฏว่า โครงการน้ำมันไบโอดีเซลสูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม ได้รับเหรียญทองประกาศนียบัตรสดุดีเทิดพระเกียรติคุณพร้อมถ้วยรางวัล

จากพระดำริสู่ประชาชน

ทุกวันนี้น้ำมันไบโอดีเซล อาจจะไม่เป็นที่เห็นได้ตามปั้มทั่วไปที่เราใช้บริการ ทว่า ที่หลายคนไม่ทราบคือน้ำมันดีเซลที่พวกเราทุกคนใช้บริการจากปั้มทั้งหลายนั้นต่างเป็นสูตรไบโอดีเซล 5% แล้วแทบทั้งสิ้นและกำลังมีการพิจารณาเพิ่มปริมาณผสมของน้ำมันไบโอดีเซล ( ยกเว้นกลุ่มน้ำมันพรีเมี่ยมดีเซล)

[IMAGE2]

[IMAGE3]

 
 

จุดเริ่มต้นจากสายพระเนตรอันยาวไกลมาสู่ภาพประชาชนเกิดขึ้นเมื่อวันที่  2 มิถุนายน พ.ศ. 2544  เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทรงรถพระที่นั่งเสด็จวางศิลาฤกษ์เขื่อนคลองท่าด่าน หรือที่วันนี้เราอาจจะรู้จักเขื่อนแห่งนี้ในชื่อ เขื่อนขุนด่านปราการชล โดยหลังรถพระที่นั่งติดสติกเกอร์ว่า “รถคันนี้ใช้น้ำมันปาล์ม 100%”

นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ ปตท. เริ่มโครงการนำร่องจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลในปั้มน้ำมัน 4 แห่ง ก็จะขยายเป็น 30 แห่ง  ต่อมาบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ก็ได้ดำเนินรอยตามโดยเริ่มโครงการที่เชียงใหม่ ด้วยการให้บริการกับรถแดงก่อน ที่จะเริ่มออกมาวางจำหน่ายในห้ประชาชนได้ใช้กัน  

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในเบื้องต้นปัจจุบันน้ำมันไบโอดีเซล สูตร  B5  หรือ  น้ำมันดีเซล 95 ส่วน ต่อ ไบโอดีเซล 5 ส่วน ถูกใช้เป็นมาตรฐานใหม่ของน้ำมันดีเซลในประเทศไทย ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนโดยรวม และในวันหน้าอาจจะมีการผสมน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี นอกจากโครงการพระราชดำริทางด้านไบโอดีเซลแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงมีโครงการทดลองทางด้านพลังงานทางเลือกสำคัญอีกหนึ่งโครงการ คือ  “ดีโซฮอล” โดยนำเอาน้ำมันดีเซลมาผสมกับเอทานอลจากพืชและสารอิมัลซิไฟเออร์ โดยปัจจุบันน้ำมันดังกล่าวยังอยู่ในขั้นทดลองในดครงการส่วนพระองค์และยังไมได้นำอออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์

จากสายพระเนตรอันยาวไกลทางด้านพลังงาน วันนี้ประชาชนคนไทยเราจึงอยู่ดีมีสุขเย็นพระศิระบริบาลทั่วหน้า โดยที่บางครั้งเราเองอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่า  สิ่งที่เราใช้อยู่ในทุกวันนี้ครั้งหนึ่งก็มาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ