รวมมิตรดาวเด่น Compact SUV .... คันไหนเด่นอะไรบ้าง
- โดย : Autodeft
- 30 ส.ค. 59 00:00
- 20,629 อ่าน
ในตลาดรถยนต์เมืองไทย นอกจากกลุ่มรถกระบะ กลุ่มรถยนต์นั่ง ที่ได้รับความนิยม ยังมีกลุ่มรถอเนกประสงค์ Compact SUV (C-SUV) ที่มีคุณสมบัติเด่น ด้วยตัวรถที่มีขนาดคล่องตัวยามใช้ในเมือง แลขับสบายยามใช้ในต่างจังหวัด รวมถึงออรถประโยชน์ใช้สอยที่พร้อมพรั่ง และขุมพลัง เทคโนโลยี ที่บรรจงให้อย่างเต็มพิกัด
นับตั้งแต่ ยานยนต์ประเภทนี้ เป็นที่รู้จักและโลดแล่นบนท้องถนนเมืองไทยมากว่า 20 ปี ปัจจุบันมีผู้เล่นหลายสัญชาติ ต่างช่วงชิงความได้เปรียบเผยตัวใหม่ออกจำหน่าย โดยแต่ละรุ่นมีตัวตนเด่นๆ ให้สาวกเลือกสรรมากมาย และวันนี้เรามาชมกันเริ่มว่าแต่ละคันเด่นอะไรบ้าง
1. Honda CR-V………ต้นตำรับ C-SUV
Honda ส่ง Honda CR-V บุกตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และพัฒนามาเรื่อยๆ จนมาถึง เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่เปิดตัวไปเมื่อ 4 ปีก่อน ด้วยความเป็นต้นตำรับ ทำให เจนจัด ในเรื่องความอเนกประสงค์อย่างเด่นชัด ครบครันทั้งฟังชั่น และการออกแบบไม่ว่า จะเป็น กระจังหน้า กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ พร้อมแผงใต้กันชน ที่และติดตั้งไฟขับขี่กลางวัน Day Time Running Light และล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่
ภายในหรูด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ เพร้อมเบาะแถวหลังพับจังหวะเดียวแบบ One Motion และแยกพับ 60:40 เพื่อความลงตัวในทุกการใช้งาน เพลิดเพลินกับเสียงเพลงและการสือกสารด้วยเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI ยังสามารถเชื่อมต่อ Smart Phone และระบบนำทางเนวิเกเตอร์ รวมถึงระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
พร้อมขุมพลัง i-VTEC 2.4 ลิตร 175 แรงม้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT กับ 2.0 ลิตร 155 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ทั้งสองเครื่องประหยัดด้วยพลังงานทางเลือก E85 และเลือกได้ทั้งขับหน้า กับ ขับสี่ Real-Time 4WD
อย่างไรก็ดี Honda CR-V เจนนี้กำลังจะหมดอายุในอีกไม่ช้า โดยคาดว่าในปีนี้ มันจะเปิดตัววางจำหน่าย Honda CR-V ใหม่ ในต่างประเทศ และวางขายในไทยก็น่าจะไม่นานเกินรอ ..ส่วนความโดดเด่นรุ่นนี้ก็อยู่ที่ฟังชั่นที่มาแบบจัดเต็มครบครันตามสไตล์ฮอนด้า
2. Nissan X-Trail C-SUV……..เด่นรักษ์โลก
C-SUV จากค่ายเพื่อนที่แสนดี ดีกรียอดขาย ท็อปฮิตในประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในไทย จนมาถึงเจน 3 ส่งสารพัดฟังก์ชั่นหลากหลายทั้ง ระบบ Advanced Chassis Control เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมพรั่งด้วยระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยป้องกันมิให้ตัวรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน (HSA – Hill Start Assist) ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน โดยใช้กำลังเครื่องยนต์หน่วงเพื่อชะลอความเร็วให้ต่ำลงโดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรก (HDC – Hill Descent Control) ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (AEB- Active Engine Brake) ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น (ARC – Active Ride Control) และบนถนนปกติยังมี ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ช่วยป้องกันการหลุดโค้ง (ATC – Active Trace Control) เรียกว่าเป็นหนึ่งใน อเนกประสงค์มาผู้ช่วยที่สุดเท่าที่เคยมีในตลาดเมืองไทย
ด้านออพชั่น ภายนอกภายใน โดดเด่นไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ทั้ง หลังคาพาโนรามิก(มีในรุ่น 2.5) ให้ความรู้สึกที่โปร่งโล่งสบาย เบาะนั่งหรู 7 ที่นั่ง และระบบ Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน โดยผ่าน Application เชื่อมโลกโซเชี่ยลอย่างทันใจ ทันท่วงทีและประตูท้าย เปิด-ปิด ไฟฟ้า
ที่สำคัญ Nissan X-Trail มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ให้กำลังรวมถึง 179 แรงม้า ให้ความประหยัดมากกว่า และนอกจากการแนะนำรุ่นประหยัดรักษ์โลก ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 144 แรงม้า จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ X-TRONIC CVT มีทั้งรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อนล้อหน้า
และด้วยความที่มันเป็นอเนกประสงค์รุ่นเดียวในกลุ่ม ที่มาพร้อมระบบต่างๆมากมาย ทำให้ รถมีการทรงตัวเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด จนคุณไม่อาจจะมองข้ามถ้าถามว่าดีขนาดไหน แนะให้ไปลองแล้วสัมผัสด้วยตัวเอง
3. Chevrolet Captiva C-SUV……….แซยิดแต่ยังไม่ตาย
จะเรียกได้ว่า C-SUV สายพันธุ์มะกัน รายนี้ ยืนหยัดทำตลาดมานานเกือบ 10 ปี แถมยังใช้เรือนร่างเดิม (ในขณะที่คู่แข่งเขาเปลี่ยนเรือนร่างใหม่ไปแล้ว) แม้จะแต่งหน้าทาปากมาหลายรอบจนกลายเป็นรุ่นแซยิดเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดปรับโฉมอีกครั้งให้ดูสง่างามขึ้น ด้วย ด้วยกระจังหน้าสไตล์ ดูอัลพอร์ทใหม่ เพิ่มความหรูหราด้วยกรอบโครเมี่ยมพร้อมไฟหน้า Projector ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED-Daytime อยู่ในโคมเดียวกับไฟหน้า ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอย 5 ก้าน สีทูโทนใหม่ 19 นิ้ว เพิ่มความสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น
เด่นด้วยระบบความบันเทิง My Link แบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อทั้งความบันเทิงและการสื่อสารด้วยการเชื่อต่อสมาร์ทโฟน ทั้ง Apple Car Play และ Android Auto สะดวกสบายและเป็นเอกลักษณ์ด้วย ชุดเบาะนั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่ง สามารถพับเก็บได้และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ 930 ลิตร พร้อมระบบความปลอดภัยใหม่ ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) และระบบช่วยเหลือการถอยจอด (Rear Park Assist)
ส่งท้ายด้วยขุมพลังทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 167 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ VCDI 2.0 ลิตร 163 แรงม้า ใช้มายาวนาน หากก็ยังคงความขลังอยู่ไม่น้อย ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD และขับหน้า ตามความต้องการ
4. Mazda CX-5 C-SUV………. สายเลือด Zoom-Zoom แรง ประหยัด
C-SUV ที่เข้าทำตลาดในเมืองไทย มา 3 ปี ฮิตติดตลาดอย่างรวดเร็วด้วยจุดเด่น เทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งคัน พร้อมดีไซน์เด่น ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าปรับโฉมใหม่ให้มีรูปลักษณ์ที่ดุดันแข็งแรงมากขึ้น ไฟหน้าที่ออกแบบให้คล้ายดวงตาเพิ่มความมีชีวิตชีวาของตัวรถด้วยโคมไฟดีไซน์ใหม่พร้อมไฟ LED ไฟท้ายแบบ LED พื้นใช้สอย ครบครัน ด้วย เบรกมือไฟฟ้าภายในห้องโดยสารหรูเข้ม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และ MZD Connect พร้อมลำโพงคุณภาพ Bose 9 ตัว
จุดเด่นคันนี้ไม่มีใครเกิน กับการแนะนำ เครืองยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร 175 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร 165 แรงม้า แถมยังรองรับพลังงาน สูงถึง E85 มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ AWD และขับหน้า พร้อมความปลอดภัยครบสูตร i-Activsense ทั้ง ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ช่วยปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกกันอย่างอิสระทั้งซ้าย-ขวา ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) และ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support) เป็นต้น
5. MG GS แรงสุดติ่งเต็มความเร้าใจ
C-SUV รุ่นล่าจากเมืองผู้ดี ที่นำหัวใจแรงสุด 218 แรงม้าจากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร พาอัตราแร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 8.2 วินาที ตามการโฆษณา แถมรองรับเชื้อเพลิง E85 พร้อมระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติคลัชต์คู่ TST – Twin Clutch Sportronic Transmission 6 สปีด ระบบขับเคลื่อนเลือกได้ทั้งรุ่นขับหน้าและขับสี่ AWD
ภายนอก ออกแบบในสไตล์ Diamond Flow Design เน้นความสปอร์ตและปราดเปรียว ด้วยไฟหน้า Projector HID พร้อมไฟส่อสว่างเวลากลางวัน DRL ล้ำสมัยด้วยไฟตัดหมอกทรงเหลี่ยมสอดรับกับแผงกันกระแทกรอบคันที่ช่วยเพิ่มความบึกบึน สะกดทุกสายตาพร้อมเสริมบุคลิกด้วยปลายท่อไอเสียทรง 4 เหลี่ยม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้าย LED ให้ความสว่างชัดเจนพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 Sunroof ปรับไฟฟ้าช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่และการเดินทาง รวมถึงราวหลังคา ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตสีทูโทนมีขนาด 18 นิ้ว
และนอกจากความแรงแล้ว รถคันนี้ยังเด่นด้วยความทันสมัยด้วยระบบ inkaNet ระบบสื่อสารอัจฉริยะกับตัวรถ ละยังเป็นรุ่นเดียวในตลาดปัจจุบันที่รถมีแอพพลิเคชั้นตรวจสอบสถานะในการใช้งาน ส่วนภายในห้องโดยสาร เบาะหลังปรับเอนได้ 14 องศา มาพร้อมจอทัชกรีน 8 นิ้ว และระบบเครื่องเสียงตอบสนองความบันเทิงผ่านลำโพง 8 ตัว มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง
6. Subaru Forester C-SUV……. ลุยเด่น ช่วงล่างเยี่ยม
ปิดท้ายด้วย C-SUV จากค่ายดาวลูกไก่ที่สืบทอดตำนาน เครื่องยนต์ลูกสูบนอน Boxer และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จนมาถึงรุ่นนี้ ด้วยการปรับโฉมตัวรถไปหมาดๆ ไม่วาจะเป็น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า LED Poojector ที่ให้ความสว่างมากกว่าเดิม รับกับกันชนหน้าใหม่ที่ออกแบบให้มีรูปทรงทะมัดทะแมงขึ้น ตลอดจนไฟท้ายใหม่แบบ LED ล้ออัลลอยทูโทนลายใหม่
พร้อมกันนี้ในห้องโดยสารตบแต่งใหม่ พร้อมชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมและชุดจอแสดงผลแบบแอลอีดี ทั้งยังเพิ่มวัสดุซับเสียง รวมทั้งเพิ่มความหนาของกระจก ลดเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามายังภายในห้องโดยสาร ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ให้ความน่าสนใจมากขึ้น
ด้านเครื่องยนต์ยังคงใช้ขุมพลังหมัดมวยอันเลื่องชื่อ ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Boxer 2.0 ลิตร 150 แรงม้า และยังมีรุ่นแรงเร้าใจ Subaru Forester XT มาพร้อมเครื่องเบนซิน Boxer Turbo Boxer Direct-Injection Turbo 241 แรงม้า ทั้งคู่ขับลงระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT พร้อมระบบขับสี่ Symmetrical All-Wheel Drive อันเลื่องชื่อ เมื่อบวกรวมกับเครื่องยนต์แล้ว เป็นรถอเนกประสงค์รุ่นหนึ่งที่หนึบได้ใจ แถมรุ่นใหม่ยังปรับราคาลงทำเอาน่าสนใจไม่น้อย
เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com