ยลโฉมจริง!! 2021 New MINI Cooper S Countryman ปรับโฉมใหม่….เก๋งพรีเมี่ยมเมืองผู้ดี เริ่ม 1.999 ล้านบาท

  • โดย : Autodeft
  • 16 ก.พ. 64
  • 18,686 อ่าน

นอกจากทาง BMW เปิดตัว 2 รุ่นใหม่เสริมตลาดเติมสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้รถชาวไทยทางด้าน MINI รถเล็กพรีเมี่ยมจากอังกฤษ ก้ไม่น้อยหน้า เปิดตัวรุ่ใหม่ประเดิมปีวัว ด้วยการปรับโฉมหรือ LCI สำหรับ MINI Cooper S Countryman

MINI Cooper S Countryman

MINI Cooper S Countryman รุ่นปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี รหัส F60 ยังคงนำเข้าจากมาเลเซีย เน้นเสน่ห์อันแข็งแกร่งเริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ใหม่มาในกรอบทรงหกเหลี่ยมเสริมความโดดเด่นด้วยอักษร S สีแดง ล้อมด้วยขอบโครเมียม มาพร้อมไฟหน้า LED ในทรงกลมมนและไฟวงแหวนที่ทำหน้าที่เป็นทั้งไฟส่องสว่างระหว่างวัน LED Daytime และไฟเลี้ยวในตัวเดียวกัน มาพร้อมกับไฟตัดหมอก LED โดยที่ไฟวงแหวนครึ่งวงบนของไฟตัดหมอกทำหน้าที่เป็นไฟจอด กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ มีแผงใต้กันชนที่เสริมให้ ดูทรงพลังและทันสมัยเป็นพิเศษ ไฟท้ายแนวตั้ง LED ในกรอบโครเมียมเสริมความเอ็กซ์คลูซีฟและเอกลักษณ์ตามแบบฉบับแบรนด์สัญชาติอังกฤษ ในขณะที่ไฟท้ายโดดเด่นด้วยดวงไฟในลวดลายของธงยูเนียนแจ็ค ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยางขนาด 225/50 R18 มี 2 ลาย ลาย Pair Spoke ในรุ่น Entry และ ลาย Black Pin Spoke ในรุ่น Hightrim

MINI Cooper S Countryman

MINI Cooper S Countryman

MINI Cooper S Countryman

ภายในออกแบบห้องโดยสารเพื่อการใช้งานที่หลากหลายมาพร้อมกับเบาะหลังที่กว้างเต็ม 3 ที่นั่ง นอกจากนี้ เบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับพับในแบบ 40 : 20 : 40 เพื่อขยายปริมาตรความจุสัมภาระจาก 450 ลิตร เป็นสูงสุดถึง 1,390 ลิตร ตกแต่งด้วยวัสดุผิวหน้าในสีดำ Piano Black โดยในรุ่น Hightrim ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยเส้นสาย Chrome Line สีเงิน ขณะที่ชุดแต่ง MINI Excitement Package และไฟโลโก้ MINI ที่ฉายออกจากกระจกมองข้างลงสู่พื้นถนน เติมเต็มความหรูหราให้โดดเด่นยิ่งขึ้นระบบแสดงผล MINI Head-Up Display ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากห้องนักบินของเครื่องบินเจ็ท จะแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ เช่น ความเร็วของรถ ให้ผู้ขับขี่เห็นได้โดยไม่บดบังทัศนียภาพบนท้องถนน ส่วนหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว บริเวณกลางแผงคอนโซล มาพร้อมกับระบบ MINI Connected ซึ่งเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมสนับสนุนผู้ขับขี่บนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางหรือข้อมูลอื่น ๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน มอบความสะดวกสบายใน ทุกการเดินทาง

MINI Cooper S Countryman

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร รหัสB4BA20A พัฒนาใหม่มาพร้อมกับท่อร่วมไอเสียที่ผสานกับฝาสูบและเทอร์โบชาร์จเจอร์ จึงช่วยให้สามารถลดอุณหภูมิของไอเสียและระบบอัดอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงในเครื่องยนต์เบนซินตัวนี้ยังสามารถทำงานด้วยแรงดันสูงสุดที่เพิ่มขึ้นจาก 200 เป็น 350 บาร์ มอบกำลังสูงสุดถึง 192 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับ เกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ Steptronic 7 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อม Paddle Shift ในรุ่น Hightrim

พร้อมกล้องมองหลังและระบบ Parking Assistant ช่วยให้จอดรถได้ง่ายดาย และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ระบบช่วยผู้ขับขี่มีครบครันทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (PDC) และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)

MINI Cooper S Countryman

MINI Cooper S Countryman

ทั้งสองรุ่นย่อยของ New MINI Cooper S Countryman จะเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อพาเหล่าแฟน ๆ มินิ โลดแล่นไปกับการเดินทางที่เหนือทุกความคาดหมายภายใต้แคมเปญ #MeAndMINI48Hours ที่จะเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อย่างเต็มที่ ด้วยการยืดระยะเวลาการทดสอบรถเป็น 48 ชั่วโมง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ www.mini.co.th และ มีราคาจำหน่ายดังนี้

- รุ่น Entry ราคาจำหน่าย: 1,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

- รุ่น Hightrim ราคาจำหน่าย: 2,529,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

 

MINI

นอกจากนี้ MINI ยังแนะนำรุ่นแรง MINI John Cooper Works GP Inspired Edition ใหม่ ในราคาจำหน่าย: 3,448,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard) พบกับเอกลักษณ์ความแรงเร้าใจสไตล์ GP อีกครั้งที่มาในจำนวนจำกัดเพียง 19 คัน ด้วยดีไซน์พิเศษและชุดแต่งที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความทรงพลังในแบบฉบับ MINI John Cooper Works GP  รุ่นดั้งเดิมโดยเฉพาะ

ด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการพัฒนารุ่นเดิมโดยตรง จึงสืบทอดเอกลักษณ์ตัวถังสีเทา Racing Grey metallic ตัดกับหลังคา สปอยเลอร์ท้าย และฝาครอบกระจกสีเงิน Melting Silver metallic ส่วนช่องดักอากาศบนกระโปรงหน้า มือจับประตู และฝาถังน้ำมันในสีดำ สร้างความดุดันสุดเร้าใจ ล้ออัลลอยจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ลาย Cup Spoke ขนาด 18 นิ้ว ประดับด้วยโลโก้ GP บนดุมล้อ กรอบไฟหน้าสีดำ Piano Black พร้อมขอบล้อมบริเวณด้านในไฟหน้าและไฟท้ายสีดำ โลโก้มินิสีดำบนกระโปรงหน้าและกระโปรงท้าย รวมทั้งขอบประตูมาพร้อมตราสัญลักษณ์ GP Inspired เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น 

ยังมาพร้อมเบาะที่นั่งสปอร์ตหนัง Dinamica สไตล์ John Cooper Works ปักตราโลโก้ GP ซึ่งปรากฏบนพื้นพรมบริเวณที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าเช่นกัน ตัดกับตะเข็บสีแดงอย่างลงตัว เข้ากับพวงมาลัยหุ้มหนัง Walknappa สไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มาในดีไซน์สะดุดตาด้วยตะเข็บสีแดงเช่นกัน ตรงกลางมีชิ้นส่วนเหล็กบ่งบอกตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นด้วย
การพิมพ์แบบสามมิติ เช่นเดียวกับแป้นเปลี่ยนเกียร์และฝาครอบกุญแจ

 

MINI John Cooper Works GP Inspired Edition

MINI John Cooper Works GP Inspired Edition

MINI John Cooper Works GP  Inspired Edition รับพละกำลังขับเคลื่อนจากขุมพลังเบนซิน 4 สูบควบคู่กับโครงสร้างน้ำหนักเบาและเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ ส่งกำลังสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร โลดแล่นจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.1 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 246 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นทาง www.mini.co.th ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป 

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ