2021 New Toyota Corolla Altis เพิ่มรุ่น 1.8 Sport ทางเลือกใหม่ของความสปอร์ต เริ่ม 964,000 บาท
- โดย : Autodeft
- 11 ม.ค. 64 00:00
- 8,601 อ่าน
หลังจากที่ทำตลาดมาปีกว่าๆ แต่ได้รับผลตอบรับค่อนข้างน่าพอใจสำหรับ Toyota Corolla Altis เก๋งยอดนิยมของมหาชนที่โดดเด่นทั้งเรื่องหน้าตา สมรรถนะและความครบครันของออพชั่นการใช้งาน
แต่ที่ผ่านมากลุ่มเก๋งคอมแพ็ครุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร เป็นที่รุ่นได้รับความนิยมมากแต่ทาง โตโยต้า กลับมีตัวเลือกเดียวจนเสียรังวัดให้กับคู่แข่งไปล่าสุดขอกลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้งกับการเปิดตัวทางเลือกใหม่ให้กับ New Toyota Corolla Altis ด้วยการเพิ่มออพชั่นในรุ่น 1.8 GR Sport และ 1.8 Hybrid Premium และเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรอีกหนึ่งรุ่นในชื่อรุ่นย่อย 1.8 Sport
เริ่มกันที่รุ่น 1.8 Sport ทางเลือกใหม่ที่จะเติมเต็มไลน์ให้สมบูรณ์ขึ้นด้วยชุดไฟหน้า Bi-Beam LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights สว่างไสว เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ไฟท้าย LED Rear Lamps สปอร์ตในทุกมุมมอง กระจังหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว สปอร์ต เท่ห์ สะท้อนตัวตนที่มีระดับ ช่วงล่างแบบสปอร์ต มั่นใจได้ในทุกสภาพถนน พร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้วดีไซน์หรู ลายเดียวกับรุ่น Hybrid Premium พร้อมยาง 225/45 R17
โฉบเฉี่ยวกับภายในที่ครบครันด้วย มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว เทคโนโลยี ล้ำหน้า แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ ได้ง่ายและชัดเจนกว่าที่เคย หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรองรับ Apple CarPlay เติมเต็มความสนุกให้ทุกการขับขี่อย่างแท้จริง แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย รองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟสะดวกระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) และ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning System) และช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง (Rear Air Conditioning) สะดวกสบาย กระจายความเย็นทั่วรถสม่ำเสมอ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านและ Cruise Control
ทางด้านรุ่น 1.8 GR Sport ยังคงเดิมแต่เพิ่มออพชั่นมาใหม่ทั้ง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (Head Up Display)...แสดงข้อมูลการขับขี่อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องละสายตาขณะขับขี่ มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ ได้ง่ายและชัดเจนกว่าที่เคย แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านพร้อม Cruise Control ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ บนความหล่อเดิมๆทั้ง แพ็คเกจพิเศษเพิ่มแอโรไดนามิกและจะมอบความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่สูงสุด และไฟหน้า LED Projector รูปตัว J พร้อม ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่กับไฟตัดหมอกหน้า LED ฝั่งอยู่ในชุดกันชน ด้านท้ายมีการพัฒนาให้สมกับเป็นที่สุดซีดานพร้อมไฟท้าย LED
ทั้ง 1.8 Sport กับ 1.8 GR Sport มอบออพชั่นความปลอดภัยมากขึ้นทั้ง ระบบปรับระดับกระจกข้างอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (Outer Mirror Reverse Function) ปรับระดับอัตโนมัติของกระจกมองข้างเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง สะดวกสบายและง่ายต่อการถอยจอด ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) กล้องมองภาพขณะถอยหลัง (Back Guide Monitor) ระบบ ABS, EBD, BA, TRC, VSC และ HAC ปลอดภัยเต็มมาตรฐานระดับสากล ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย
ส่วนรุ่น 1.8 Hybrid มีการเพิ่มออพชั่นในรุ่น 1.8 Hybrid Premium ทั้ง ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์หรู ลายเดียวกับรุ่น Hybrid Premium Safety พร้อมยาง 225/45 R17 โฉบเฉี่ยวยามพุ่งทะยานอย่างมั่นใจ ระบบปรับระดับกระจกข้างอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (Outer mirror reverse function) ปรับระดับอัตโนมัติของกระจกมองข้างเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง ให้เหมาะกับระดับสายตาของ ผู้ขับขี่ สะดวกสบายและง่ายต่อการถอยจอด ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง เพิ่มความปลอดภัยในขณะถอยรถออกจากช่องจอด
แรงเร้าใจกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน DUAL VVT-I 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 177 นิวตัมเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVTi 7 สปีดพร้อม Sequential Shift พร้อม เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า ระบบ Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 23 กิโลเมตรต่อลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อความทนทานและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I 1.6 ลิตร 1ZR-FBE 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVTi 7 สปีดพร้อม Sequential Shift ให้เลือก
จากพื้นฐาน TNGA (Toyota New Global Architecture) .เพิ่มความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถ ช่วยเรื่องการทรงตัวและการเข้าโค้งดีขึ้น DOUBLE WISHBONE SUSPENSION ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยมและช่วงล่างพัฒนาให้สปอร์ตในรุ่น 1.8 Sport และ 1.8 GR Sport สนุก เร้าใจทุกสไตล์การขับ มั่นใจได้ในทุกสภาพถนน
พร้อมระบบความปลอดภัยจัดเต็มในรุ่น 1.8 Hybrid Premium Safety ทั้ง Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Hill-start Assist Control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Back Sonar สัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว Anti-lock Brake System ระบบป้องกันล้อล็อก Electronic Brake-force Distribution ระบบกระจายแรงเบรก Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรก ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่งทุกรุ่น โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัยและToyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-collision system, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam, ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane departure alert with steering assist
New Toyota Corolla Altis มีสีทั้งหมด 7 สี ทั้งสีดำ Attitude Black Mica, สีเทา Celestite Gray, สีน้ำตาลPhantom Brown, สีแดง Red Mica Metallic สีเงิน Silver Metallic สีขาว Super White II* และสีขาวมุก Platinum White Pearl** และมีทั้งหมด 7 รุ่น ดังนี้
- รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด
- 1.8 Hybrid Premium Safety (Hybrid High เดิม) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท**
- 1.8 Hybrid Premium (Hybrid MID เดิม) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 994,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)**
- 1.8 Hybrid Smart (Hybrid Entry เดิม) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 939,000 บาท**
- รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
- 1.8 GR-Sport เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,009,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)** มี 3 สี Platinum White Pearl, Red Mica Metallic, Attitude Black Mica
- 1.8 Sport เกียร์อัตโนมัติ ราคา 964,000 บาท**
- 1.6 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 879,000 บาท*
- 1.6 Limo เกียร์อัตโนมัติ ราคา 839,000 บาท*
* สำหรับสีพิเศษ Super White II มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6L และ รุ่น Limo เท่านั้น
** สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8L และ Hybrid Model เท่านั้น เพิ่มเงิน 10,000 บาท
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com