เปิดตัวอย่างเป็นทางการ All-New Toyota Alphard และ Vellfire ขุมพลัง Hybrid ราคาเริ่มต้น 4.129 ล้านบาท

รถตู้อเนกประสงค์ MPV สุดหรูยอดนิยมของชาวไทยโฉมใหม่ All-New Toyota Alphard และ Vellfire เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ในราคาเริ่มต้นที่ 4.129 ล้านบาท

All-New Toyota Alphard และ Vellfire เพิ่งเปิดตัวในรูปแบบ World Premier อย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน วันนี้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วโดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยรถยนต์อเนกประสงค์ระดับ LUXURY 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุดทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมาพร้อมขุมพลังแบบ Hybrid เพียงอย่างเดียว ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Dual VVT- i ที่ให้กำลังได้สูงสุดที่ 190 แรงม้า 238 นิวตันเมตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 134 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร ทำให้ได้กำลังรวมสูงสุดที่ 250 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.9 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO Sticker) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยี E-Four ใหม่

All-New Toyota Alphard และ Vellfire ใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ที่ออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว และเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ช่วงล่างมีการปรับปรุงใหม่ให้มีความยึดเกาะถนนที่ดีกว่าเดิม แต่ยังคงความนุ่มนวลภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดีเช่นเคย พร้อมกับปรับขนาดของยางใหม่จากเดิม 17 นิ้ว ให้เป็น 19 นิ้วในรุ่นบนสุดของทั้ง Alphard และ Vellfire มั่นใจกว่าด้วยความปลอดภัยเหนือระดับ Toyota  Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ อาทิ

• Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed และระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
• ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
• ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
• นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ ก็ยังมีอย่างครบครัน ดังนี้
• ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
• กล้องมองรอบคัน PVM
• สัญญาณเตือนกะระยะ ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
• ABS พร้อมระบบเสริมแรงเบรก BA และระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
• ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

All-New Toyota Alphard และ Vellfire รถยนต์ใหม่ 2023 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบภายในจากการนั่งเครื่องบินส่วนตัว มุ่งเน้นให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวาง ภายใต้แนวคิด “OMOTENASHI” สร้างประสบการณ์แห่งความผ่อนคลาย และสะดวกสบายสูงสุด พร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแบบ “Executive Lounge” แยกอิสระปรับได้ 10 ทิศทาง เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า และระบบนวด Massage Relaxation ที่สามารถควบคุมผ่าน Detachable Tablet หลังคา Twin Moonroof พร้อมด้วย Ambient Illumination Light ปรับได้ 64 สี เพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วย หนังแท้ Premium Nappa และตกแต่งภายในด้วยลายไม้แบบ Uzuramoku ในรุ่น Alphard Luxury ส่วนในรุ่น Vellfire และ     Alphard รุ่นเริ่มต้น ออกแบบภายนอกที่โดดเด่น ดุดัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในทุกสัมผัส เรียบหรูด้วยภายในสีดำสไตล์สปอร์ต พร้อมระบบความบันเทิง และความสะดวกสบายด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย ลำโพง JBL 15 ตำแหน่ง และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมสัมผัสแห่งความหรูหรา กว้างขวาง และสะดวกสบาย เต็มไปด้วยอรรถประโยชน์ครบครัน

การนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของโตโยต้าในรอบนี้ ได้นำเข้ามารวมทั้งสิ้น 3 รุ่นย่อย โดยเริ่มต้นจาก All-New Toyota Alphard 2.5 HEV กับการเปิดประสบการณ์ Comfort Luxury ใหม่ กับความหรูหรา สะดวกสบาย เสมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ ภายนอกแตกต่างจากรุ่นอื่นเฉพาะล้อ ที่ใช้เป็นขนาด 17 นิ้ว แต่อุปกรณ์อื่น ๆ นั้น เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น

• ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไปเลี้ยวแบบ Sequential
• หลังคา Twin Moonroof
• ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
• เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ ปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet
• คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว
• Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง
• ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
• จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบสีบนกระจกหน้ารถ (HUD)
• หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว
• ระบบนำทาง Navigator และระบบเชื่อมต่อ T-Connect
• การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้า
• สีเบาะภายในสีเบจ Neutral Beige (สำหรับสีรถภายนอก Platinum White Pearl และ Black) และสีภายในสีดำ Black (สำหรับสีรถภายนอก Precious Metal)

ส่วนรุ่นถัดมาเป็น All-New Toyota Vellfire 2.5 HEV ที่เน้นความเป็นสปอร์ตมากกว่าในรุ่นอื่น ภายนอกที่แตกต่างกับตัว Alphard ก็จะมีแผงกระจังหน้า, ชายกันชนหน้า, ไฟหน้า, ไฟ DRL, ไฟท้าย และกันชนด้านหลัง ถูกออกแบบมาให้เป็นเอกลักษณ์ของ Vellfire เท่านั้น ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งหมด จะเป็นเหมือนกับรุ่น All-New Toyota Alphard 2.5 HEV ยกเว้นล้อแม็กซ์ที่ใส่มานั้น จะใช้ขนาดและลายเดียวกันกับรุ่นท็อปสุดอย่าง All-New Toyota Alphard 2.5 HEV Luxury เลย

รุ่นท็อปสุดอย่าง All-New Toyota Alphard 2.5 HEV Luxury รถใหม่ 2023 ที่ใช้นวัตกรรมอันสุดหรูหราของทางโตโยต้า ได้เพิ่มความพิเศษสุดเข้าไปอีก ไม่ว่าจะเป็น

• พิเศษ! เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ แบบ Executive Lounge ปรับได้ 10 ทิศทาง เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet พร้อมโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้
• พิเศษ! ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยลายไม้แบบ Uzuramoku
• พิเศษ! สีเบาะภายในสีดำ Black (สำหรับสีรถภายนอก Platinum White Pearl และ Black) และสีภายในสีน้ำตาล Sunset Brown (สำหรับสีรถภายนอก Precious Metal)
• พิเศษ! เพิ่มวัสดุบุนุ่มภายในห้องโดยสาร
• พิเศษ! ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้าและหลัง

ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เหลือนั้น เหมือนกับ All-New Toyota Alphard 2.5 HEV ทั้งหมดเลย

สำหรับราคาค่าตัวของ All-New Toyota Alphard และ Vellfire รถยนต์ใหม่ 2023 ในรูปแบบ Luxury MPV ที่มารวมทั้งสิ้น 3 รุ่นย่อย มีดังนี้

• All-New Toyota Alphard 2.5 HEV ราคา 4,129,000  บาท
• All-New Toyota Vellfire 2.5 HEV ราคา 4,279,000  บาท
• All-New Toyota Alphard 2.5 HEV ราคา 4,499,000  บาท

นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีทางเลือกชุดแต่งสุด Exclusive ด้วยชุดแต่งจาก MODELLISTA มาเพิ่มให้อีก ดังนี้

• ALPHARD MODELLISTA ประกอบด้วยอุปกรณ์ตกแต่งกระจังหน้า – สเกิร์ตหน้า - สเกิร์ตข้างซ้าย-ขวา สเกิร์ตหลัง และสัญลักษณ์ Modellista ด้านท้ายรถ ราคา (รวมค่าติดตั้ง) 149,000 บาท
• VELLFIRE MODELLISTA ประกอบด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสเกิร์ตหน้า - สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา - สเกิร์ตหลัง อุปกรณ์ตกแต่งท่อไอเสีย และสัญลักษณ์ Modellista ด้านท้ายรถ ราคา (รวมค่าติดตั้ง) 169,000 บาท