Toyota Alphard & Vellfire MY2020 มาดใหม่…ยานยนต์เพชรน้ำเอกสำหรับบุคคลชั้นนำ เริ่ม 3.889 ล้านบาท

  • โดย : Autodeft
  • 24 มี.ค. 63
  • 28,455 อ่าน

นับเป็นยานยนต์ระดับมาสเตอร์พีชที่ โตโยต้า รังสรรค์เพื่อบุคคลสำคัญสำหรับ Toyota Alphard กับ Toyota Vellfire รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูที่ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง

Toyota Alphard

Toyota Alphard

ล่าสุด โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้นำแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY 2020 โดยงานนี้มีการปรับปรุงในส่วนรุ่น Toyota Alphard และ Toyota Vellfire 2.5 เท่านั้น เริ่มที่ Alphard ภายนอกยังคงเดิมตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์โครเมี่ยมดูทะมัดทะแมงขึ้นพร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights และไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบ Sequential สอดรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่และยังออกแบบตำแหน่งไฟตัดหมอกให้ต่ำลง เพื่อความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ กรอบป้ายทะเบียนโครเมี่ยมดีไซน์ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED ใหม่ ล้ออัลลอยลาย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R17 ในรุ่น 2.5 Hybrid และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18 ในรุ่น 3.5 VIP ชุดแต่งสเกิร์ตด้านหน้าและด้านหลังเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นพร้อมออพชั่นใหม่ ชุดเซ็นเซอร์เปิดฝาท้ายแบบ Kick activated

Toyota Alphard

 

ด้านฝาแฝด Toyota Vellfire ฉีกแนวเน้นสปอร์ตด้วย กระจังหน้าพร้อมหน้า Projector แบบ LED สองชั้นพร้อมไฟ Daytime Running Lights และไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบ Sequential กันชนหน้าและด้านท้ายปรับอารมณ์ด้วยกรอบป้ายทะเบียนดีไซน์ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18 พร้อมออพชั่นใหม่ ชุดเซ็นเซอร์เปิดฝาท้ายแบบ Kick activated

Toyota Alphard

Toyota Alphard

ภายในมีการปรับเปลี่ยนในส่วนรุ่น Alphard Hybrid และ Vellfire 2.5 เพิ่มสุนทรียภาพในทุกการเดินทางด้วย*เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสด้านหน้าขนาด 10.5 นิ้ว และด้านหลังขนาด 13.3 นิ้ว ที่สามารถรองรับ Apple car play ตลอดจนลำโพง JBL 17 ตัว เพื่อเติมเต็มความสนุกและเพลิดเพลินอย่างเต็มรูปแบบ (*ออพชั่นมาตรฐานเดิมในรุ่น Alphard VIP V6) แต่ยังคงหรูหราด้วยชุดเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง แบบ First Class พร้อมลายไม้ภายในตัวรถ สีมาตรวัดความเร็ว และการตกแต่งของลายเบาะหนัง (เฉพาะรุ่น 3.5 VIP) และ เบาะนั่งแบบ Seat Ventilator & Heater บริเวณเบาะนั่งคู่หน้าและเพิ่มระบบบริหารหลังไฟฟ้า Air Lumba Pro ในรุ่น Alphard Hybrid และ Vellfire 2.5 ผ่อนคลายสูงสุดในทุกอิริยาบถ ไฟอ่านหนังสือบริเวณเบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 1 สำหรับผู้โดยสาร กล่องรับสัญญาณดิจิตัลทีวี และระบบ T-connect Telematics เชื่อมต่อได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง

- GEO-FENCING...ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด

- FIND MY CAR...เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชั่น

- PARKING ALERT…ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ทหรือเคลื่อนที่

- STOLEN VEHICLE TRACKING…ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม

- OPS (OPERATOR SERVICE)...ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด24ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหารชั้นนำ

- SOS EMERGENCY SERVICE ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง* (*อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในบางกรณี)

- PAY AS YOU DRIVE...ประกันภัย "ขับน้อย จ่ายน้อย"

- NAVIGATOR…ระบบนำทางพร้อมแสดงข้อมูลจราจร

- MY TOYOTA WI-FI...เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้พร้อมกันสูงสุดถึง 9 อุปกรณ์

Toyota Alphard

ขุมพลังยังคงเดิมตั้งแต่ ทั้ง 3.5 V6, 2.5 และ 2.5 Hybrid เร่มที่เครื่องยนต์เบนซิน V6 ภายใต้รหัส 2GR-FKS Direct Injection Chain Drive VVT-iW ให้กำลังสูงสุด 296 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตรที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ลูกใหม่แบบ Direct Shift

Toyota Alphard

ส่วนอีก 2 ขุมพลังเริ่มจาก เครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I 2.5 ลิตร 2AR-FE แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ ที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที และระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีดพร้อมระบบ Sequential Shift และเครื่องยนต์เบนซิน VVT-I Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร 2AR-FXE กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟฟ้า 2JM 143 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ผ่านระบบ เกียร์อัตโนมัติ ECVT และขับเคลื่อนด้วยระบบขับสี่แบบ E-Four

Toyota Alphard

Toyota Alphard

ทุกรุ่นติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นเทพระบบ Toyota Safety Sense เจน 2 ทั้ง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert), ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) , ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams), ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่กลางเลน (Lane Tracing Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Vehicle Sway Warning), กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor), ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ (Tire Pressure Monitoring System), กล้องวิดิโอบันทึกภาพติดรถยนต์ (Digital Video Recorder) พร้อมออพชั่นเดิมทั้งไฟตัดหมอกด้านหลัง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitorและกระจกมองหลังแบบดิจิตอล (Digital Rear View Mirror)…พร้อมฟังก์ชั่นตัดแสงอัตโนมัติ (EC Mirror) เป็นต้น

Toyota Alphard และ Toyota Vellfire MY2020 มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้ง Steel Bronze Metallic / White Pearl Crystal / Burning Black เฉพาะ Vellfire และ White Pearl Crystal / Luxury White Pearl Crystal / Black เฉพาะ Alphard)

Toyota Alphard

พิเศษยิ่งขึ้นด้วย ป้ายติดกระจกหลัง “OFFICIALLY AUTHORIZED BY TOYOTA MOTOR THAILAND CO. LTD.” และ “10-YEAR HYBRID BATTERY GUARANTEE”…แสดงถึงการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการจาก โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี รวมการรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ยิ่งไปกว่านั้นขอมอบข้อเสนอพิเศษ ด้วยการขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะถึง 100,000 กม. หรือ 5 ปี แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความมั่นใจให้กับ ลูกค้า ในการบริการหลังการขายที่เหนือกว่า จากทาง Toyota สำหรับราคาจำหน่าย มีดังนี้

- Vellfire 2.5 ราคา 3,889,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 80,000 บาท)

- Alphard 2.5 Hybrid ราคา 4,019,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 80,000 บาท)

- Alphard 3.5 VIP V6 ราคา 5,509,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 80,000 บาท)

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ