ในการแข่งขัน Super Taikyu Fuji 24 Hours ล่าสุดในญี่ปุ่น ที่บูธของ Toyota Gazoo Racing ได้มีการอวดโฉมรถต้นแบบ Toyota Mirai Sport Concept รถไฮโดรเจน Fuel Cell Electric Vehicle (FCEV)
แพลตฟอร์ม BMW Neue Klasse เรียกได้ว่าสามารถตอบสนองโจทย์การใช้งานร่วมกับระบบส่งกำลังเซลล์เชื้อเพลิงหรือไฮโดรเจนได้ ด้วยการใช้พื้นที่แบตเตอรี่อย่างชาญฉลาด ซึ่งทางค่ายกำลังพัฒนา BMW iX5 Hydrogen อย่างต่อเนื่องอยู่
ชัดเจนมากแล้วว่าโลกยานยนต์ของโลกเรา กำลังทิ้งเครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน พวกเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลไว้ข้างหลัง แล้วเดินหน้าสู่โลกของยานยนต์ไร้มลพิษ หลายคนก็มองว่า รถที่ไม่มีการปล่อยมลพิษอย่างรถไฟฟ้าแบบ BEV (Battery Electric Vehicles) คือปลายอุโมงค์ แต่ก็มีบางกลุ่มที่แย้งว่า รถ BEV ไม่ไร้มลพิษตลอดทาง แต่เป็นรถ FCEV (Fuel-Cell Electric Vehicles) ต่างหากที่ใช่ แล้วจริง ๆ แล้วมันควรหันไปทางไหนกันแน่
หลายค่ายยังไม่เทหมดหน้าตักไปที่รถไฟฟ้า เพราะล่าสุดผู้ผลิตเครื่องยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Cummins ได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับ Tata Motors เพื่อร่วมกันพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในแต่ใช้เชื้อเพลิงเป็นก๊าซไฮโดรเจน
ล่าสุดทาง Nikola Corporation ได้เปิดตัวรถบรรทุกใหม่นามว่า Nikola Tre เวอร์ชั่นยุโรปที่งาน IAA Transportation ในเมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ที่มีทั้งขุมพลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ให้เลือกนั้นเอง
ค่ายรถยนต์จากแดนปลาดิบอย่างโตโยต้า ยังไม่ท้อกับการเดินหน้าพัฒนารถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ด้วยการเตรียมส่งรถแข่ง Toyota GR Yaris H2 ลงทำการแข่งขันแรลลี่รายการ WRC 2022 สัปดาห์นี้ที่เบลเยี่ยม
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ เลือกทางเดินไปหาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่กันหมดแล้ว แต่ก็ยังคงมีบางค่ายที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์พลังงาน Hydrogen อยู่ เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์จากแดนกิมจินาม Hyundai ที่ได้เปิดภาพตัวอย่างรถยนต์ใหม่ที่เป็นรถ Fuel-Cell ออกมา พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการแน่นอน 7 กันยายนนี้
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า รถพลังงานไฮโดรเจน Fuel-Cell (FCEV) เป็นรถที่ไม่ก่อมลพิษเพราะใช้ก๊าซไฮโดรเจนมาผ่านกระบวนการผลิตไฟฟ้าแล้วนำพลังงานไฟฟ้ามาขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าอีกที แต่ล่าสุดมีการศึกษาแล้วพบว่า วิธีการผลิตก๊าซไฮโดรเจนนั้น อาจสร้างมลพิษมากกว่าการนำก๊าซนั้นมาใช้งานในรถยนต์โดยตรง
หลังการเข้ามารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ได้ออกนโยบายทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มากมาย ล่าสุดก็ได้ประกาศนโยบายใหม่ออกมาอีกครั้ง กับการที่จะส่งเสริมการขายรถไฟฟ้าให้มากถึง 50% ของยอดรวมทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2030
รถพลังงานไฮโดรเจน Fuel Cell (FCEV) ในตลาดทั่วโลก ณ ปัจจุบัน มีอยุ่เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น จากข้อจำกัดเรื่องการเติมเชื้อเพลิง และ Honda Clarity ก็เป็น 1 ในนั้น ล่าสุดทางฮอนด้าก็ได้ประกาศตัดสินใจยุติการผลิตแล้วในเดือนสิงหาคมนี้ รวมทั้งในรุ่นที่เป็นรถยนต์เสียบปลั๊ก Plug-in Hybrid ด้วย
ขณะที่โลกกำลังทยอยยกเลิกใช้งานเครื่องยนต์ประเภทสันดาปภายใน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล แล้วหันมาใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทน เพื่อให้ปลอดการปล่อยมลพิษสู่อากาศให้มากที่สุด แต่ Toyota กลับคิดอีกแบบ โดยจะยังคงใช้งงานเครื่องยนต์แบบเดิมอยู่ แต่ที่เปลี่ยนไปคือเชื้อเพลิงสำหรับเผาไหม้ จะเปลี่ยนเป็นการใช้ไฮโดรเจนในการจุดระเบิดแทน
หลังจากที่ค่ายต่าง ๆ ก็ทยอยประกาศแผนนโยบายในการยกเลิกการจำหน่ายรถที่ใช้งานเครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน แล้วไปจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% แทน ล่าสุดก็ถึงคิวค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ที่ผลิตทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่าง Honda ได้ทำการประกาศนโยบายนี้ออกมาเช่นกัน โดยประเมินว่าจะสามารถจำหน่ายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดได้ทุกตลาดภายในปี 2040
โลกยานยนต์ยุคปัจจุบัน กำลังหันหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้ากันหมดแล้ว ซึ่งรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน Fuel-Cell (FCEV) ก็เป็นอีกรูปแบบของรถยนต์พลังงานสะอาดที่ไร้การปล่อยมลพิษเช่นกัน ถึงแม้ว่ายังไม่นิยมเมื่อเป็นรถยนต์ส่วนตัว แต่กับตลาดรถบรรทุกกำลังเป็นไปได้แล้ว เมื่อทางฮุนไดได้ทำการส่งมอบรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลก Hyundai Xcient Fuel Cell ถึงมือลูกค้าในสวิตเซอร์แลนด์แล้ว
ถึงแม้ว่า ค่ายรถยนต์จากแดนผู้ดีอย่าง Jaguar Land Rover จะมีรถยนต์รักษ์โลกแบบรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Jaguar I-Pace อยู่แล้ว แต่ทางค่ายก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เมื่อมีข้อมูลเผยออกมาว่า JLR กำลังทำการวิจัยและพัฒนารถยนต์อเนกประสงค์พลังงานไฮโดรเจน เพื่อผลิตออกมาใช้งานบนถนนแล้ว
ถึงแม้ว่าตลาดของรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดทั่วทุกมุมโลก และเหมือนว่าทุกค่ายกำลังมุ่งหน้าไปทางนั้นอย่างเดียว แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์พลังงานไฮโดรเจน FCEV อยู่ ล่าสุดทางค่ายใบพัดสีฟ้า BMW บอกว่า รถยนต์ Fuel-Cell จะมีราคาถูกลง และจะเท่ากับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบปัจจุบันภายในปี 2025