Long Term Review : Mitsubishi Mirage เต่าน้อยร้อยชั่ง ... 30,000 ก.ม. ของชีวิตคนเมือง
- โดย : Autodeft
- 19 พ.ค. 57 00:00
- 9,004 อ่าน
คร้งแรกในเมืองไทยกับบททดสอบระยะยาว ในรถยนต์อีโค่คาร์ยอดนิยม Mitsubishi Mirage ผ่านร้อนผ่านหนาวกว่า 30,000 ก.ม. จะมีดีสักแค่ไหน
ทุกวันนี้การจราจรที่ติดขัดทำให้หลายคนมีทางออกของตัวเองในแบบที่ตามแต่ละคันต้องการ แนวทางหนึ่ง ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาถูกพูดถึงอย่างมากในฐานะตลาดรถยนต์กลุ่มใหม่ที่เข้ามาทำตลาดคงหนีไม่พ้นรถยนต์อีโค่คาร์ ซึ่งเจ้ารถยนต์นั่งขนาดเล็กนี้ถูกกังขาว่ามันเป็นรถประหยัดน้ำมัน แต่นอกจากความประหยัดแล้วยังมีอะไรมากกว่านั้นอีก
ที่จริงในประเทศไทยไม่เคยมีใครทำการทดสอบรถยนต์แบบระยะยาว ส่วนใหญ่บทพิสูจน์ในการทดสอบเอารถมาขับประเดี่ยวประด๋าวแล้วเราก็ตัดสินว่ารถคันนั้นดีหรือไม่ ทั้งที่ความเป็นจริง รถยนต์หนึ่งคันมีอายุในมือเจ้าของอย่างน้อยก็ 4 ปี บางทีการใช้งานมันในระยะยาวอาจจะทำให้เราได้รู้จักมันมากขึ้น
Mitsubishi Mirage เป็นรถที่มีอยู่เคียงข้างกายเราได้สักระยะหนึ่งและ เพิ่งจะมีอายุ 30,000 กิโลเมตรไปหมาด ๆ เมื่อไม่กี่วัน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นเขียนรีวิวฉบับ นี้
ก่อนจะเลือกเจ้ารถ Mitsubishi Mirage มาคู่กายนั้น ก็ผ่านหลายพิธีมาก ทั้งการหาข้อมูลความเป็นไปได้ ของว่าที่รุ่นใหม่ ไปจนถึง การตัดสินใจเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีมากมายในตลาด ฝ่าด่านสำคัญ โดยเฉพาะการตัดสินใจเลือกระหว่างซิตี้คาร์และอีโค่คาร์ ก่อนที่จะจบประเด็นในข้อตกลงว่าเป็นมิราจ จากปัจจัยในเรื่องของการใช้งาน ซึ่งรถคันนี้มีจุดประสงค์หลักในการเข้าเมือง
ดังนั้นในเมืองรถติดสะบัดขนาดนี้ นั่งแช่มองไฟแดงนานหลายนาทีขนาดนั้น นี่ไม่นับที่จอดหายาก อะไรเลยจะลงตัวกว่ารถอีโค่คาร์ เจ้าตัวเล็กรักษาสิ่งแวดล้อมที่ออกมาตอบโจทย์มากมายหลายรุ่น
ความจริงแล้ว การเลือก Mitsubishi Mirage มาใช้เป็นโจทย์ที่ผม เถียงกับหุ้นส่วนชีวิตที่ช่วยในการตัดสินใจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการทดสอบรถ Mitsubishi Mirage ไม่ได้ให้ความประทับใจในการทรงตัวมากนัก โดยเฉพาะยางขนาด 165 R14 ที่ออกมาตอบโจทย์ในเรื่องความประหยัดเพื่อปั้นตัวเลข 22 ก.ม./ลิตรเอาไว้ให้การตลาดได้โปรโมทกัน
แง่หนึ่งยางขนาดเล็กอาจจะช่วยให้ประหยัด แต่มันก็ทำให้รถโคลงมากขึ้นเมื่อใช้ความเร็วมากพอสมควร แถม กาลครั้งหนึ่งเมื่อช่วงออกรถมาใหม่ๆ เคยเกิดเหตุรถเบียดฟุตบาทจนแก้มฉีก พอไปที่ร้านขายยางเพื่อหาเส้นใหม่ ทางร้านบอกไม่มียางขนาดนี้ เคราะห์ดีที่ร้านขายยางใหม่ถอดป้ายแดงเคราะห์กรรมนั้นก็รอดไป
ในเรื่องการขับขี่ตั้งแต่ขับมาตลอด 30,000 ก.ม. Mitsubishi Mirage ไม่เคยสร้างความผิดหวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในเรื่องความคล่องในยามที่เอามันเข้าไปในเขตเมืองหลวง ที่รถคับคั่ง พวงมาลัยที่เบาทำให้ง่ายมากขึ้นต่อการขับขี่ รวมถึง รถที่มีขนาดเล็กเอง ยังช่วยให้หาที่จอดได้ง่าย ไม่ว่าจะจอดขวางหรือ จอดเข้าซ้องทั้งหมดทำได้ง่ายจากขนาดของตัวมันเอง
แต่ว่าเรื่องการโดยสารก็ยังมีติดขัดอยู่บ้าง โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าสู่โหมดขนเพื่อน เมื่อนั่ง 4 คน รถจะดูยวบยาบไปนิดเมื่อเจอลูกระนาด หรือถนนที่อุดมด้วยหลุมบ่อ ส่วนเรื่องความสบายในการนั่งก็ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมาะที่จะแพ็คคนตัวสูงไว้ด้านหลังดังนั้นต้องจัดระเบียบให้ดีก่อน
ด้านเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบแถวเรียงเองค่อนข้างตอบโจทย์เรื่องสมรรถนะการขับได้ลงตัวในเมือง ยิ่งเมื่อเจอกับระบบเกียร์ CVT 7 สปีด ที่เข้ามาประจำคู่กัน มันก็ขับสนุกสนานในระดับหนึ่งและมีความประหยัดไปด้วยพร้อม ตามหน้าที่สามารถบอกข้อมูลอัตราประหยัดได้นั้น Mitsubishi Mirage จะซดอยู่ที่ 17 ก.ม./ลิตรในการขับเขตเมือง เมื่อใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอลล์ 91 แต่ช่วงไหนขัดสนจะเติม E20 ก็ได้ แต่อัตราประหยัดจะแย่ลงเล็กน้อย อยู่ที่ 14-15 ก.ม./ลิตร โดยประมาณ
มีหลายครั้งที่มีโอกาสนำ Mitsubishi Mirage ออกเดินทางท่องโลกบ้างเช่นไปยังหัวหิน ซึ่งในทางต่างจังหวัดมันขับได้ดีพอตัว มีการทรงตัวที่โอเคไม่ลงตัว ติดอย่างเดียว เสียงลมเข้ามาไปนิด เสียงจากพื้นถนนก็มากไปหน่อย จนเปิดวิทยุบางครั้งรู้สึกไม่ได้เปิด แต่เรื่องความมั่นใจในการเกาะถนนดีเลิศ ถ้ากล้าพอก็สามารถโยนโค้งที่วังมะนาวในความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. และส่วนตัวยังเคยทำความเร็วสูงสุดใน Misubishi Mirage ได้ถึง 172 ก.ม./ช.ม. แต่ช่วงความเร็วสูง ต้องระวังมากเรื่องการใช้พวงมาลัยและการเบรก
30,000 ก.ม.ใน Mitsubishi Mirage ซึ่งตุ๊กตาหน้ารถผมเรียกรถของเธอว่า “เต่า” นี่คือรถอีโค่คาร์ที่ลงตัวต่อชีวิตคนเมืองอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งให้สมรรถนะและความประหยัด รวมถึงความคล่องตัวในการขับขี่ เหมาะต่อวิถีชีวิตที่แออัดในกรุงเทพมหานคร .. 10,000 ก.ม. ถัดไปจะเป็นยังไง น่าจะอีก 3 เดือน เราคงจะได้พบกัน ..
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com