Dodge Challenger R/T วิ่งแค่ 811 ไมล์ แต่ขายไม่ออก ราคาประมูลร่วงหนัก สะท้อนตลาดรถมือสองซบเซา

ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อหนึ่งปีก่อนอย่างชัดเจน แม้ว่ารถใหม่จะยังมีราคาสูง แต่รถมือสองสภาพใหม่หรือไมล์ต่ำกลับไม่สามารถรักษามูลค่าได้เหมือนที่ผ่านมา รถสายเอนธูเซียสต์หลายรุ่นที่เคยถูกมองว่าเป็นการลงทุนปลอดภัย ต่างเริ่มเผชิญกับราคาขายต่อที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และกรณีของ Dodge Challenger R/T คันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนไม่แพ้กัน

รถคันดังกล่าวคือ Dodge Challenger R/T ปี 2023 ซึ่งไม่ใช่รุ่นแรงสุดอย่าง Scat Pack ไม่ใช่ Widebody และไม่ใช่ตระกูล Hellcat ใด ๆ แต่เป็นรุ่น R/T มาตรฐานที่ขึ้นชื่อเรื่องความสนุกในการขับขี่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 5.7 ลิตร Hemi ให้กำลัง 375 แรงม้า และแรงบิด 555 นิวตันเมตร จุดเด่นที่สุดของรถคันนี้คือเลขไมล์ที่ต่ำมาก เพียง 811 ไมล์ หรือประมาณ 1,305 กิโลเมตร เท่านั้น เรียกได้ว่าแทบยังไม่ผ่านการใช้งานจริงจัง

แม้ Challenger R/T จะไม่หวือหวาเท่ารุ่นพี่ที่แรงกว่า แต่ก็ยังเป็นมัสเซิลคาร์อเมริกันแท้ที่ขับสนุก แข็งแรง และใช้งานได้จริง ที่สำคัญคือรถคันนี้มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งกลายเป็นของหายากมากขึ้นในยุคปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่แฟนรถสายขับจริงหลายคนให้คุณค่า

ด้านออปชันก็ถือว่าจัดเต็ม ทั้งแพ็กเกจ Plus Package และ Technology Group เสริมด้วยไฟหน้า HID Air Catcher ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เบาะหน้าปรับอุ่นและระบายอากาศได้ พวงมาลัยปรับอุ่น ซันรูฟ ดิฟเฟอเรนเชียลลิมิเต็ดสลิป เครื่องเสียง Alpine ล้อขนาด 20 นิ้ว หมุดยึดฝากระโปรง Louvers และช่วงล่างแนวสมรรถนะ ซึ่งถือว่าเป็นสเปกที่น่าสนใจไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ขายจะพยายามชูประเด็นว่า Dodge Challenger เลิกผลิตไปแล้ว และราคามีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในอนาคต แต่บรรยากาศการประมูลกลับไม่เป็นใจ ราคาสูงสุดที่มีผู้เสนออยู่ที่เพียง 29,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งห่างไกลจากราคาเปิดตัวเดิมที่สูงถึง 49,660 ดอลลาร์สหรัฐอย่างมาก

รายละเอียดบางจุด เช่น การเจาะฝากระโปรงเพื่อติดตั้งหมุด Mopar จากโรงงาน อาจเป็นดาบสองคม แม้จะใช้งานได้จริง แต่ก็ไม่ถูกใจผู้ซื้อบางกลุ่มที่ต้องการสภาพรถเดิมและดูเรียบร้อยที่สุด ความเห็นจากผู้ร่วมประมูลหลายรายสะท้อนภาพเดียวกันว่า ตลาดของรถรุ่นนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และตัวเลขราคาก็ยืนยันข้อเท็จจริงนั้นได้ชัดเจน

แม้ในอนาคตราคาของ Challenger เครื่อง V8 รุ่นสุดท้ายอาจกลับมาสูงขึ้น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะเป็นรถไมล์ต่ำ เครื่องใหญ่ และเลิกผลิตแล้ว ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะขายได้ราคาดีเสมอไปในสภาพตลาดปัจจุบัน

ที่มา Carscoops