Mustang Safari ปี 1973 คันนี้พร้อมออกล่าฝูง Bronco บนเส้นทางออฟโรด

Ford Mustang รุ่นคลาสสิกมักโลดแล่นไปได้แทบทุกแขนงของวัฒนธรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นแดร็ก รถสนาม หรือคันโชว์ แต่มีไม่กี่ครั้งที่ Mustang จะถูกดัดแปลงให้ลุยออฟโรดแบบจริงจัง จึงไม่น่าแปลกใจที่ Mustang Safari ปี 1973 คันนี้ทำให้หลายคนต้องหยุดมองตั้งแต่แรกเห็น

Mustang SportsRoof ปี 1973 คันนี้ถูกยกสูงและตกแต่งในธีม Safari กำลังเปิดประมูลให้ผู้สนใจสู้ราคา โดยผู้ขายเริ่มต้นรีเฟรชตัวรถในปี 2024 เพื่อให้มีลุคคล้าย Mustang Mach 1 แต่โปรเจ็กต์กลับกลายเป็นแนวลุยที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม

ช่วงล่างถูกยกสูงและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่โช้คอัพ ชุดปีกนก ลูกหมาก สปริงแหนบหลัง และยู-โบลต์ ตามด้วยยางออฟโรดขนาด 31×10.5 Mickey Thompson Baja Legend MTZ ประกบล้อสไตล์ Magnum 500 เสริมความดิบแบบรถลุยเต็มตัว

ภายนอกตัวรถใช้สี Medium Aqua พร้อมลายกราฟิกแบบ Mach 1 และตัวหนังสือคัสตอมบนประตู ไฟหน้า LED จับคู่กับไฟสปอร์ตไลต์ Hella แร็กหลังคา และฝากระโปรงทรง Ram Air สไตล์สไนเกิล ซึ่งปิดทับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 351 ลูกบาศก์นิ้ว

แม้ไม่มีการระบุตัวเลขสมรรถนะปัจจุบัน แต่เมื่อออกใหม่ เครื่องบล็อกนี้ให้แรงม้าราว 240 แรงม้า โดยตอนนี้ติดตั้งท่อไอดี Edelbrock เฮดเดอร์แบบท่อไอเสียสปอร์ต ท่อ X-pipe และหม้อพัก MagnaFlow ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดที่ได้รับการบูรณะใหม่ ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ เบรก และชิ้นส่วนช่วงล่างอย่างไทร์ร็อด ปิตแมนอาร์ม และไอดเลอร์อาร์ม ถูกรีเฟรชใหม่เช่นกัน แม้จะมีการปรับปรุงจำนวนมาก แต่รถก็ยังมีประเด็นต้องพิจารณาอยู่หลายจุด

ประกาศขายระบุความไม่สอดคล้องของหมายเลข VIN แผ่นป้ายหนึ่งระบุว่าเป็น SportsRoof เครื่อง 302 ผลิตจากโรงงาน Dearborn ขณะที่สติ๊กเกอร์ข้อมูลบนประตูมีซีเรียลที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม เอกสารทะเบียนกลับระบุว่าเป็น Mustang Mach 1 ปี 1973

ภายนอกและภายในยังมีจุดที่ต้องดูแลต่อ เช่น ระยะห่างของแผงตัวถังบางจุดไม่เสมอกัน ห้องโดยสารมีสายไฟห้อยอยู่ และถ้าจะนำไปลุยจริงจัง การติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถก็น่าจะช่วยได้มาก

แม้จะมีข้อกังขา แต่โดยรวมแล้วนี่คือ Mustang ที่ดูสนุกและไม่เหมือนใคร ส่วนการขับขี่จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องแล้วแต่ผู้ที่ได้เป็นเจ้าของคนต่อไป

ที่มา Carscoops