รถบรรทุกไฟฟ้าคันแรกของ Volvo ที่พร้อมทำการเก็บขยะในยุโรป

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 18 ก.พ. 67
  • 1,736 อ่าน

เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถบรรทุกหลายรายทั่วโลก รถบรรทุก Volvo ได้พยายามคิดค้นเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นก่อนหน้าทั้งหมดนั้นถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในจนถึงปัจจุบัน

Volvo

Volvo FM Low Entry ถือเป็นแผนโครงสร้างสำหรับรถบรรทุกไฟฟ้า (EV) แรกของบริษัท โดยแผนโครงสร้างนี้ได้พร้อมที่จะนำเข้าสู่ตลาดสำคัญ ประกอบไปด้วยยุโรป ตุรกี และเกาหลีใต้ ซึ่งได้มีการออกแบบมาสำหรับงานต่างๆ ตั้งแต่การเก็บขยะไปจนถึงการจำหน่ายสินค้าและการดำเนินงานในสถานที่ก่อสร้าง

FM Low Entry ได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ 4 ก้อนที่มีความจุรวมสูงสุด 360 kWh นั่นหมายความว่ารถบรรทุกจะสามารถขับขี่ได้ไกลถึง 124 ไมล์ (200 กม.) โดยแบตเตอรี่จะส่งกำลังไปยังมอเตอร์ขนาด 483 แรงม้า (360 kW/489 PS) ซึ่งจะมีน้ำหนักรวมของยานพาหนะทั้งหมดประมาณ 19-32 ตัน

Volvo

รถบรรทุก Volvo นี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์ Volvo และมีการออกแบบโครงสร้างของรถให้ค่อนข้างยืดหยุ่น โดยจะมีการกำหนดค่า distinct axle 5 แบบ: 4X2, 6X2, 6X4, 8X2 และ 8X4 นอกจากนี้ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่มี 1-4 ที่นั่ง และเลือกขยาย high Sleeper Cab ได้ ผู้ซื้อจะมีอิสระในการปรับแต่งรถบรรทุกให้เหมาะกับความต้องการและการใช้งานที่หลากหลาย

บริษัทสัญชาติสวีเดนรายนี้ได้กล่าวว่า การดูแลให้คนขับมีทัศนวิสัยที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ FM Low Entry ได้รับมาตรฐาน 5 ดาวรูปแบบใหม่ของสหราชอาณาจักรสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานหนัก และยังมาพร้อมกับระบบตรวจสอบกล้องที่ก้าวหน้ารูปแบบใหม่ของ Volvo เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นพื้นที่โดยรอบรถบรรทุกได้ดีที่สุด

Volvo

“รถบรรทุกไร้มลพิษคันนี้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยมของเรา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขนส่งในเมือง และได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงคนขับเป็นหลัก” Roger Alm ประธาน Volvo Trucks กล่าว “มันดูทรงพลังแต่ก็มีความนุ่มนวลในการขับขี่ ควบคุมได้ง่าย Volvo FM Low Entry ใหม่สอดคล้องกับความตั้งใจของเราในการขยายข้อเสนอด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากขึ้น”

มีกำหนดเริ่มขายในไตรมาสนี้ และการผลิตจะเริ่มขึ้นในไตรมาสที่สองของปี 2024 ซึ่งเป็นแผนงานที่สำคัญของ Volvo Trucks ในอนาคต บริษัทคาดว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั่วโลกจะเป็นรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ภายในปี 2030

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ