ยอดขายรถใหม่ร่วงครั้งแรกของปีนี้ ได้เพียง 68,284 คัน ลดลง 4.8% คาดคนซื้อรอโปรช่วงปลายปี

สถานการณ์การจำหน่ายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศไทย สัญญาณเริ่มแผ่วจนกลายเป็นติดลบครั้งแรกในรอบปีนี้ โดยขายรถยนต์ใหม่ได้เพียง 68,284 คัน ลดลง 4.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน คาดเกิดจากที่ผู้ซื้อต้องการรอโปรโมชั่นและการเปิดตัวรถใหม่ในช่วงปลายปี

ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนชลอตัวเล็กน้อยด้วยตัวเลขการขาย 68,284 คัน ลดลง 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีตัวเลขการขาย 20,263 คัน ลดลงเช่นกันที่ 14.8% ขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีตัวเลขการขาย 48,021 คัน เติบโตเล็กน้อยที่ 0.2% เป็นผลมาจากการที่ลูกค้าชลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอรับแคมเปญสุดท้ายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนปิดตัวเลขการขายประจำปีในเดือนธันวาคม ที่ลูกค้าต่างคาดหวังรับข้อเสนอดีที่สุดแห่งปีในงานนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคกลางและจังหวัดใกล้เคียง

จากความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์ดังกล่าว จะส่งผลให้ตัวเลขการขายรถยนต์ของเดือนธันวาคมเติบโตสูงที่สุดในรอบปี โดยมียอดจองในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ที่มากถึง 36,679 คัน จากการรายงานของผู้จัดงานเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ยังไม่รวมตัวเลขการขายจากผู้แทนจำหน่ายของทุกค่ายรถยนต์ทั่วประเทศ ซึ่งจะมาเติมสถิติการขาย 11 เดือนที่ 766,589 คัน เติบโต 14.7% ก่อนจะปิดตัวเลขการขายประจำปี 2565 ในเดือนธันวาคม

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2565

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 68,284 คัน ลดลง 4.8%

• อันดับที่ 1 Toyota 24,554 คัน เพิ่มขึ้น 6.0% 
• อันดับที่ 2 Isuzu 16,561 คัน ลดลง 10.1% 
• อันดับที่ 3 Honda 7,328 คัน ลดลง 15.0% 

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,263 คัน ลดลง 14.8%

• อันดับที่ 1 Toyota 8,405 คัน เพิ่มขึ้น 33.3 % 
• อันดับที่ 2 Honda 4,438 คัน ลดลง 45.0% 
• อันดับที่ 3 Mitsubishi 1,489 คัน ลดลง 16.6% 

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 48,021 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%

• อันดับที่ 1 Isuzu 16,561 คัน ลดลง 10.1% 
• อันดับที่ 2 Toyota 16,149 คัน ลดลง 4.2% 
• อันดับที่ 3 Ford 4,805 คัน เพิ่มขึ้น 68.1% 

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 36,286 คัน ลดลง 5.9%

• อันดับที่ 1 Isuzu 15,382 คัน ลดลง 9.3% 
• อันดับที่  2 Toyota 13,635 คัน ลดลง 8.4% 
• อันดับที่ 3 Ford 4,805 คัน เพิ่มขึ้น 68.1% 

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 7,104 คัน Isuzu 2,610 คัน - Toyota 2,465 คัน – Ford 1,380 คัน – Mitsubishi 588 คัน – Nissan 61 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,182 คัน ลดลง 11.9%

• อันดับที่ 1 Isuzu 12,772 คัน ลดลง 16.1% 
• อันดับที่ 2 Toyota 1,170 คัน ลดลง 11.0% 
• อันดับที่ 3 Ford 3,425 คัน เพิ่มขึ้น 44.1% 

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 766,589 คัน เพิ่มขึ้น 14.7%

• อันดับที่ 1 Toyota 258,612 คัน เพิ่มขึ้น 21.7 % 
• อันดับที่ 2 Isuzu 194,275 คัน เพิ่มขึ้น 17.5% 
• อันดับที่ 3 Honda 74,518 คัน ลดลง 3.4% 

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 240,371 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%                                 

• อันดับที่ 1 Toyota 73,797 คัน เพิ่มขึ้น 34.0% 
• อันดับที่ 2 Honda 55,879 คัน ลดลง 18.0% 
• อันดับที่ 3 Mitsubishi 19,333 คัน เพิ่มขึ้น 21.0% 

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 526,218 คัน เพิ่มขึ้น 17.4%

• อันดับที่ 1 Isuzu 194,275 คัน เพิ่มขึ้น 17.5% 
• อันดับที่ 2 Toyota 184,815 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% 
• อันดับที่ 3 Ford 38,039 คัน เพิ่มขึ้น 34.8% 

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 411,553 คัน เพิ่มขึ้น 17.4%

• อันดับที่ 1 Isuzu 179,307 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% 
• อันดับที่ 2 Toyota 157,703 คัน เพิ่มขึ้น 17.0% 
• อันดับที่ 3 Ford 38,039 คัน เพิ่มขึ้น 34.8% 

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 58,746 คัน Toyota 24,927 คัน - Isuzu 17,751 คัน - Ford 8,200 คัน – Mitsubishi 6,786 คัน – Nissan 1,082 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 352,807 คัน เพิ่มขึ้น 15.7%

• อันดับที่ 1 Isuzu 161,556 คัน เพิ่มขึ้น 18.9% 
• อันดับที่ 2 Toyota 132,776 คัน เพิ่มขึ้น 16.1% 
• อันดับที่ 3 Ford 29,839 คัน เพิ่มขึ้น 24.9%