ยังไม่ฟื้น ยอดขายรถใหม่ 2023 เดือนมีนาคมยังร่วง ขายได้เพียง 79,943 คัน ลดลง 8.4%

ยอดขายรถยนต์ใหม่ 2023 นั้น ดูท่าจะยังฟื้นตัวได้ยาก เมื่อสรุปยอดของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยังไร้วี่แววว่าจะขึ้นมาอยู่ในแนวบวก เพราะขายรถใหม่ได้รวมเพียง 79,943 คัน ลดลงจากปีก่อนเป็นสัดส่วน 8.4% เลยทีเดียว

ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2566 มีปริมาณการขาย 79,943 คัน เติบโตลดลง 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมียอดขาย 29,835 คัน เติบโตเล็กน้อยที่ 0.2% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีตัวเลขการขาย 50,108  คัน ลดลงที่ 12.8% เป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หลังจากที่มียอดสั่งซื้อของลูกค้าเป็นจำนวนมากในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของตัวเลขการขายสะสมไตรมาสแรกสามารถทำตัวเลขสะสมทะลุ 2 แสนคันที่ 217,073 คัน แต่ยังน้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 6.1%

ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มขยับตัวดีขึ้น โดยมียอดจองรถยนต์ของทุกค่ายในงาน Motor Show 2023 ที่มากถึง 42,871 คัน โดยเป็นการเปิดฤดูกาลขายประจำปีด้วยเงื่อนไขการขาย “แคมเปญมอเตอร์โชว์” ที่ทุกค่ายรถยนต์ต่างแข่งขันกันเพื่อหวังกวาดยอดจองในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงก็คือลูกค้าที่ต่างเฝ้ารอ “ข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี” ตัวเลขยอดจองดังกล่าวจะทยอยส่งมอบถึงมือลูกค้า ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีตัวเลขการขายที่ดีต่อเนื่องถึงเดือนพฤษภาคม

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 79,943 คัน ลดลง 8.4%                           

• อันดับที่ 1 Toyota 25,713 คัน ลดลง 14.3%
• อันดับที่ 2 Isuzu 17,133 คัน ลดลง 21.4%
• อันดับที่ 3 Honda 10,185 คัน เพิ่มขึ้น 1.8%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 29,835 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%                                

• อันดับที่ 1 Toyota 9,953 คัน เพิ่มขึ้น 13.2%
• อันดับที่ 2 Honda 7,053 คัน ลดลง 15.3
• อันดับที่ 3 Mitsubishi 1,789 คัน เพิ่มขึ้น 0.6%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 50,108 คัน ลดลง 12.8%                                

• อันดับที่ 1 Isuzu  17,133 คัน ลดลง 21.4%
• อันดับที่ 2 Toyota 15,760 คัน ลดลง 25.7%
• อันดับที่ 3 Ford 4,074 คัน เพิ่มขึ้น 46.6%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 36,066 คัน ลดลง 22.2%

• อันดับที่ 1 Isuzu 15,845 คัน ลดลง 22.0%
• อันดับที่ 2 Toyota 13,103 คัน ลดลง 31.0%
• อันดับที่ 3 Ford 4,074 คัน เพิ่มขึ้น  46.6%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 6,444 คัน Toyota 2,342 คัน - Isuzu 2,322 คัน – Ford 1,184 คัน – Mitsubishi 465 คัน – Nissan 131 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณ4ขาย 29,622 คัน ลดลง 27.0%                                

• อันดับที่ 1 Isuzu 13,523 คัน ลดลง 26.4%
• อันดับที่ 2 Toyota 10,761 คัน ลดลง 34.3%
• อันดับที่ 3 Ford 2,890 คัน เพิ่มขึ้น  17.1%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 217,073 คัน ลดลง 6.1%                           

• อันดับที่ 1 Toyota 75,121 คัน ลดลง 2.6%
• อันดับที่ 2 Isuzu 47,159 คัน ลดลง 17.9%
• อันดับที่ 3 Honda 25,961 คัน เพิ่มขึ้น  1.3%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 77,566 คัน เพิ่มขึ้น 2.4%                                

• อันดับที่ 1 Toyota 28,080 คัน เพิ่มขึ้น 38.1%
• อันดับที่ 2 Honda 17,786 คัน ลดลง 10.6%
• อันดับที่ 3 Mitsubishi 5,218 คัน ลดลง 5.3%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 139,507 คัน ลดลง 10.3%                    

• อันดับที่ 1 Isuzu 47,159 คัน ลดลง 17.9%
• อันดับที่ 2 Toyota 47,041 คัน ลดลง 17.2%
• อันดับที่ 3 Ford 11,040 คัน เพิ่มขึ้น 50.2%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 101,472 คัน ลดลง 17.3%

• อันดับที่ 1 Isuzu 43,522 คัน ลดลง 18.1%
• อันดับที่ 2 Toyota 39,287 คัน ลดลง 21.6%
• อันดับที่ 3 Ford 11,040 คัน เพิ่มขึ้น 50.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 18,277 คัน Toyota 6,733 คัน - Isuzu 6,194 คัน – Ford 3,562 คัน – Mitsubishi 1,392 คัน – Nissan 346 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 83,245 คัน ลดลง 21.8%

• อันดับที่ 1 Isuzu 37,328 คัน ลดลง 22.6%
• อันดับที่ 2 Toyota 32,554 คัน ลดลง 23.1%
• อันดับที่ 3 Ford 7,478 คัน เพิ่มขึ้น 19.6%