สหภาพยุโรปอาจไม่แบนรถน้ำมันปี 2035 ปรับเป้าใหม่ เปิดทางรถสันดาปและไฮบริดอยู่ยาวขึ้น

ดูเหมือนว่าความฝันของสหภาพยุโรปในการยุติการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินและดีเซลภายในปี 2035 อาจต้องปรับทิศทางครั้งใหญ่ หลังจากความพยายามผลักดันนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศมาหลายปี ล่าสุดฝ่ายนิติบัญญัติของ EU ส่งสัญญาณชัดเจนว่ากำลังลดความเข้มงวดของมาตรการดังกล่าว ท่ามกลางแรงกดดันจากภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะจากเยอรมนีและอิตาลี แม้จะมีผู้ผลิตบางรายอย่าง Volvo และ Polestar ที่ยังคงสนับสนุนแผนแบนเดิมก็ตาม

รายงานระบุว่า EU เตรียมปรับลดแผนการแบนรถเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 จากการยุติการขายทั้งหมด เหลือเพียงการลดการปล่อยลง 90 เปอร์เซ็นต์แทน โดย Manfred Weber ผู้นำพรรค European People’s Party ให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมนี Bild ว่าข้อตกลงใหม่นี้ได้รับการเห็นชอบแล้ว และยังยืนยันด้วยว่าจะไม่มีการแบนเครื่องยนต์สันดาปอย่างเต็มรูปแบบแม้แต่ในปี 2040 แม้จะยังไม่ชัดเจนว่ามีการกำหนดเส้นตายใหม่หรือไม่

Weber เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวในเยอรมนีว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะนำเสนอข้อเสนอฉบับปรับปรุงอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ พร้อมระบุอย่างชัดเจนว่า การแบนเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปได้ถูกถอดออกจากโต๊ะเจรจาแล้ว นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ทุกรูปแบบที่ผลิตอยู่ในเยอรมนีในปัจจุบัน จะยังสามารถผลิตและจำหน่ายต่อไปได้ รวมถึงรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้ายาวขึ้น ซึ่งจะได้รับโอกาสอยู่ในตลาดได้นานกว่าเดิม

ด้าน Friedrich Merz นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งเดียวกัน แสดงการสนับสนุนแนวทางใหม่นี้ โดยระบุว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยสร้างความชัดเจนด้านการวางแผนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม เขาเคยส่งจดหมายถึง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อเรียกร้องให้อนุญาตการผลิตและจำหน่ายรถเครื่องยนต์สันดาปต่อไปหลังปี 2035

จดหมายดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกรุงบรัสเซลส์ ตามคำยืนยันของ Apostolos Tzitzikostas กรรมาธิการยุโรปด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า กฎหมายฉบับใหม่อาจให้ความสำคัญกับเชื้อเพลิงทางเลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ เชื้อเพลิงปล่อยมลพิษต่ำ รวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพขั้นสูง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม

แม้รายละเอียดของกฎหมายฉบับปรับปรุงยังไม่ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่ทิศทางที่เริ่มชัดเจนขึ้นสะท้อนว่า การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปอาจไม่ใช่การตัดขาดจากเครื่องยนต์สันดาปในทันที และเปิดโอกาสให้เทคโนโลยีไฮบริดและเชื้อเพลิงทางเลือกมีบทบาทต่อไปในระยะยาว

ที่มา Carscoops