Great Wall Motors เปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ ท้าชน Ferrari ด้วยไฮบริด V8 และโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์

ตลาดซูเปอร์คาร์ในประเทศจีนกำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และล่าสุด Great Wall Motors (GWM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนก็เตรียมเข้าสู่สมรภูมิอย่างจริงจัง ด้วยการเผยทีเซอร์ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ รถรุ่นนี้ใช้เวลากว่า 5 ปีในการพัฒนา และมาพร้อมเป้าหมายที่ชัดเจนคือ การมอบสมรรถนะระดับสูงเทียบชั้นแบรนด์ยุโรป แต่ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

ภาพทีเซอร์ดังกล่าวถูกเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Weibo โดย Wei Jianjun ประธานบริษัท GWM ในโอกาสครบรอบ 35 ปีของบริษัท แม้จะไม่มีการระบุชื่อรุ่นหรือสเปกรถอย่างชัดเจน แต่ภาพรถที่คลุมด้วยผ้าสีดำ ซึ่งถูกจัดวางอย่างโดดเด่นท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า GWM พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่เวทีซูเปอร์คาร์ระดับโลก

จากภาพเงารถที่ปรากฏ สามารถสังเกตได้ถึงสัดส่วนแบบซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางลำตัว (mid-engine) ที่มีตัวถังเตี้ย กว้าง และยาวช่วงท้าย พร้อมดีไซน์กันชนหน้าแบบดุดัน ช่องดักลมขนาดใหญ่ และไฟหน้าทรงสปอร์ตที่ดูละม้ายคล้ายกับดีไซน์ของ Porsche นอกจากนี้ ด้านข้างยังมีช่องระบายความร้อนเพิ่มเติม ยิ่งตอกย้ำถึงการออกแบบเพื่อสมรรถนะเต็มพิกัด

แม้ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคแบบเต็มรูปแบบ แต่มีรายงานว่า GWM เตรียมติดตั้งเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัทเอง โดยจะจับคู่กับระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) เพื่อให้ได้ทั้งพละกำลังและความประหยัด ตัวเครื่องยนต์ดังกล่าวเคยถูกนำมาเปิดตัวในงาน Shanghai Auto Show 2025 และมีแผนจะใช้งานกับรถรุ่นอื่น ๆ เช่น รถกระบะและ SUV สมรรถนะสูงในอนาคต

ทางด้าน Wu Huixiao ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ GWM เปิดเผยว่า โครงการซูเปอร์คาร์นี้เริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ 5 ปีก่อน โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญสนามแข่งจากยุโรปในการปรับแต่งสมรรถนะอย่างจริงจัง และยังมีการเลือกใช้โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์ (carbon fiber monocoque) ซึ่งเป็นวัสดุระดับซูเปอร์คาร์ที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบา Wu ยังกล่าวอย่างมั่นใจว่า รถรุ่นนี้จะสามารถ “ทำได้ดีกว่า Ferrari SF90” ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นเรือธงของ Ferrari

แม้ยังไม่มีการประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่หลายฝ่ายคาดว่า GWM จะเผยโฉมรถคันนี้ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาจำหน่ายจะเริ่มต้นมากกว่า 1 ล้านหยวน หรือประมาณ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าถูกกว่าคู่แข่งสำคัญในจีนอย่าง BYD Yangwang U9 ที่เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 234,000 ดอลลาร์) และ GAC Aion Hyper SSR ที่มีราคาเริ่มต้นราว 1.29 ล้านหยวน (ประมาณ 179,000 ดอลลาร์)

การมาของซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่นี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ที่ไม่เพียงแต่เน้นเทคโนโลยีไฟฟ้าและราคาที่แข่งขันได้ แต่ยังเริ่มก้าวเข้าสู่ระดับพรีเมียมเต็มตัว พร้อมเป้าหมายท้าทายผู้เล่นรายใหญ่จากยุโรปอย่าง Ferrari อย่างเปิดเผย

ที่มา Carscoops