Nissan เตรียมขยายไลน์รถแรง Nismo เป็นสองเท่า พร้อมทีเซอร์สปอร์ตคาร์ปริศนา

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 17 ธ.ค. 68 20:06
  • 1,030 อ่าน

แม้จะเผชิญความท้าทายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ Nissan ยังไม่ชะลอเกมในสายสมรรถนะ ล่าสุดค่ายรถญี่ปุ่นประกาศแผนเดินหน้าขยายแบรนด์ Nismo อย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนรุ่นสมรรถนะสูงในตลาดโลกจากเดิมเป็นสองเท่า พร้อมส่งสัญญาณถึงการมาของรถสปอร์ตพัฒนาจากสนามแข่งที่ยังปกคลุมด้วยความลึกลับ

Nissan

กลยุทธ์ใหม่นี้วางมอเตอร์สปอร์ตเป็นแกนหลัก ทั้งในฐานะสนามทดสอบเทคโนโลยีและเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์ ควบคู่ไปกับการต่อยอดธุรกิจด้านการตกแต่งเฉพาะบุคคล และการบูรณะรถคลาสสิกของแบรนด์

Nissan ระบุว่า จะขยายไลน์อัป Nismo จากปัจจุบัน 5 รุ่น เป็น 10 รุ่นทั่วโลก พร้อมตั้งเป้ายอดขายเพิ่มจากราว 100,000 คันต่อปี เป็น 150,000 คันภายในปี 2028 โดยสัดส่วนยอดขายจากนอกประเทศญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 40 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนทิศทางการผลักดันแบรนด์สมรรถนะสู่ตลาดสากลมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดกว้างต่อความร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก เพื่อเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการปรับแต่งรถ

ฝั่งมอเตอร์สปอร์ต Nismo ยืนยันเดินหน้าลุยรายการหลักอย่าง Super GT และ Formula E ต่อไป รวมถึงการแข่งขัน Super Taikyu ในญี่ปุ่น พร้อมแผนขยายสู่หมวดการแข่งขันใหม่ ๆ โดยใช้สนามแข่งเป็นห้องทดลองสำหรับรถสปอร์ตในอนาคต

Nissan

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการยืนยันว่า Nismo กำลังพัฒนารถต้นแบบที่เตรียมลงแข่งจริงในฤดูกาลปีงบประมาณ 2026 ก่อนจะนำข้อมูลและประสบการณ์จากการแข่งขันมาพัฒนาเป็นรถโปรดักชันในภายหลัง แม้ Nissan จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ก็ทำให้เกิดการคาดเดาว่านี่อาจเป็นเงาของ GT-R เจเนอเรชันใหม่ หรือรถสปอร์ตแนวคิดใหม่ทั้งหมด

ปัจจุบัน หลังการยุติสายการผลิต GT-R R35 ลูกค้าในอเมริกาเหนือมีตัวเลือก Nismo เพียง Z และ Armada SUV ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นยังมีรุ่นสมรรถนะให้เลือกหลากหลายกว่า ทั้ง X-Trail, Aura, Note Aura, Ariya และ Skyline โดยในอนาคตอาจได้เห็น Leaf เวอร์ชันสปอร์ต รวมถึงแฮตช์แบ็กไฟฟ้าสายแรงบนพื้นฐาน Micra สำหรับตลาดยุโรป

นอกจากนี้ Nissan ยังส่งสัญญาณว่า Nismo ในอนาคตบางรุ่นอาจใช้ตรา Infiniti ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเวอร์ชันผลิตจริงของ QX80 Track Spec Concept ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยรถต้นแบบคันดังกล่าวมาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร ปรับจูนให้รีดกำลังได้ถึง 650 แรงม้า เสริมชุดแต่งดุดันและช่วงล่างที่เตี้ยลง ซึ่งแนวทางเดียวกันนี้อาจถูกนำไปใช้กับ Q50S และ QX65 รุ่นต่อไป

นอกจากการมองไปข้างหน้า Nissan ยังให้ความสำคัญกับอดีตเช่นกัน ตลาดรถบูรณะทั่วโลกมีมูลค่าราว 5 แสนล้านเยน และคาดว่าจะเติบโตเกิน 1.2 ล้านล้านเยนภายในปี 2032 บริษัทจึงตั้งเป้าขยายธุรกิจด้านการบูรณะ รถรีสโตม็อด และอะไหล่แท้ โดยปัจจุบันโฟกัสอยู่ที่ GT-R รหัส R32, R33 และ R34 ก่อนจะขยายไปยังรุ่นอื่นในอนาคต

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ