Mitsubishi หวังไทยนำทัพทำกำไร ในอาเซียน หลังปล่อย New Mitsubishi Triton ครึ่งปีหลัง

  • โดย : Autodeft
  • 25 เม.ย. 57
  • 8,356 อ่าน

Mitsubishi เปิดใจหวัง Mitsubishi Triton 2015 ทำกำไร ฉุดเพิ่มยอดขายในไทยร้อยละ 20 หลังตกต่ำปีกลาย เหตุการเมืองยืดเยื้อมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ

 

เมื่อพูดหลากว่าที่รถยนต์ใหม่ในปีนี้  Mitsubishi Triton  ดูจะเป็นรถอีกรุ่นที่ถูกจับตาอย่างมากในฐานะกระบะที่ได้รับความนิยม ที่มักมาพร้อมความทันสมัย ที่มีกำหนดการณ์คร่าวเดากันเองว่าครึ่งปีหลังจะเปิดตัววางจำหน่าย หลังจากที่ค่ายรถยนต์  Mitsubishi เปิดแผนระยะกลางใหม่ล่าสุด เมื่อปีกลาย

ว่าที่กระบะใหม่ที่ไทยอาจจะเป็นเจ้าแรกที่ได้สัมผัสในโลก อาจจะเป็นเรือธงที่สำคัญ ต่อแผนงานของ  Mitsubishi  หลังจากที่ Mitsubishi  เผยผ่านสำนักข่าว Reuter  ในระหว่างการพูดคุยในเรื่องของกำไรในปี 2014 ว่าพวกเขาจะทำกำไรถึง 135 ล้านเยน ในสิ้นปีงบประมาณในเดือนมีนาคมปี 2015

[IMAGE1]

รถกระบะต้นแบบ  Mitsubishi GR HEV ว่าที่ 2015 Mitsubishi Triton

การร่วงหล่นของยอดขายที่สำคัญ อยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งมียอดหดลงกว่า 40% โดยปีที่แล้ว  Mitsubishi  มียอดขายรวมในไทยเพียง 85,000 คัน  โดยส่วนหนึ่งมาจากการลดลงจากนโยบายของรัฐรวมถึง ปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อในประเทศ

โดยปีนี้  Mitsubishi  มีความคาดหวังว่า พวกเขาน่าจะทำกำไรมากขึ้นหลังจากที่เปิดตัวรถยนต์กระบะ Mitsubishi Triton ใหม่ และน่าจะเพิ่มยอดขายถึงร้อยละ 20 ด้วยยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 101,500 คัน เมื่อ สิ้นปีงบประมาณ

นาย โอซามุ มัทซึโอะ ประธาน  Mitsubishi Motor   กล่าวเปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆนี้ ว่า เราคาคหวังในการดำเนินธุรกิจของเราในอาเซียนพอสมควร สำหรับการทำให้กำไรของเราเดินต่อไป อย่างราบลื่นและตลาดนี้จะเป็นฐานการทำกำไรที่สำคัญต่อไปในอนาคต

ตลาดเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่กำไรถึง 1 ใน 4 ของกำไรทั้งหมด ในภาพรวมทุกภูมิภาค ซึ่ง  Mitsubishi  มีแผนในการเพิ่มยอดขายถึง ร้อยละ 44 ในภูมิภาค เมื่อสิ้นแผนระยะกลางในเดือนมีนาคมปี2017

แม้ว่าประเทศไทยจะตกต่ำทางด้านยอดขาย แต่รายงานของ Mitsubishi  ระบุว่า พวกเขายังทำยอดขายดีขึ้นในอีกหลายตลาดสำคัญ โดยในอินโดนีเซีย มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเองในตลาดในขณะที่ ตลาดสำคัญยุโรป ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 หลังจากที่เปิดตัว  Mitsubishi outlander PHEV  ลงทำตลาดอย่างเป็นทางการ

 

ที่มา สำนักข่าว Reuter

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY403]

5 เรื่องน่าสนใจ