จบข่าวพรีเมี่ยมแบรนด์ Scion โตโยต้ายอมถอยกลับมาใช้ตราสามห่วง

  • โดย : Autodeft
  • 4 ก.พ. 59
  • 5,822 อ่าน

Toyota เปิดใจเลิใช้ตราสินค้า Scion ชี้ลูกค้าเป้าหมายกลับกลายเป็นลูกค้าปกติแล้ว เชื่อพิชิตเป้าหมายที่สร้างแบรนด์

 

ปีนีเรียกว่าเป็นปีที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่  Toyota รุกคืบตลาดรถยนต์กันตั้งแต่ต้นปี หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะซื้อ  Daihatsu  เป็นที่เรียบร้อย ก็มาถึงคราวที่พวกเขาจำยอมต้องสละบางอย่างไป

ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้วซับแบรนด์   Scion  ในกลุ่ม   Toyota   หลังจากมีรายงานจากทางประเทศอเมริกาว่า Toyota  เตรียมยกเลิกแบรนด์ Scion  ซึ่งเดิมทีใช้ทำตลาดในอเมริกามานานกว่า 13   กำลังจะยุติลงในเดือนสิงหาคมนี้

[IMAGE1]

ตามรายงานยังไม่มีการระบุถึงสาเหตุการตัดสินใจดังกล่าวของ Toyota   แต่ทุกรายงานระบุตรงกันว่าหลังจากเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป  รถยนต์   Scion  ทุกรุ่นจะถูกติดตราเป็น  Toyota   รวมถึงรถยนต์ที่จะแนะนำในตลาดในอนาคตอันใกล้

แบรนด์  Scion  ถือกำเนิดขึ้นในปี  2002  เพื่อมองเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ๆ ที่มองว่ารถยนต์ Toyota   เป็นรถยนต์แบรนด์รถยนต์คนรุ่นเก่า โดยแบรนด์ดังกล่าวประสบความสำเร็จในปี   2006  ในรถยนต์   Scion  XB  และ   Scion  XXA ซึ่งมีการออกแบบและสมรรถนี่ดีกว่ารถยนต์  Toyota 

ตามแถลงการณ์จาก  Toyota   ในอเมริกา เปิดเผยว่า การยกเลิกแบรนด์  Scion   นั้นมาจากการเปลี่ยนไปของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเริ่มมองอะไรที่คล้ายกับพ่อ-แม่ของพวกเขามากขึ้น ลูกค้าไม่ได้ต้องการรถยนต์ที่หวือหวาอีกต่อไป แม้จะยังมีความต้องการในเรื่องความสนุกสนานในการขับขี่และการออกแบบที่แตกต่าง แต่เมื่อปัจจุบันรถยนต์มีการพัฒนาการออกแบบมาขึ้น และสมรรนะการขับขี่ก็ดีขึ้น รวมถึงรถแบบนี้ผลิตเป็นมาตรฐานทั่วไปมากขึ้นการตอบโจทย์ ด้วยแบรนด์โตโยต้าจึงเหมาะสมมากกว่า

ด้าน จิม  เลนทซ์ ในฐานะรองประธานผู้ก่อตั้งแบรนด์  Scion  และ  CEO  คนใหม่ของ Toyota North America   เปิดเผยว่า นี่ไม่ใช่การถอยหลังลงคลอง แต่เป็นการก้าวไปข้างหน้า การตื่นขึ้นมาของ  Scion  ทให้เราได้แนวความคิดมากมายในการพัฒนารถยนต์ในเครือข่ายของ   Toyota

“ผมอยู่ตรงนั้นในวันที่ก่อตั้งแบรนด์  Scion  และเป้าหมายเราคือการทำให้โตโยต้า และเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของเราเข้าใจถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ว่าจะสามารถดึงดูดพวกเขาอย่างไร และนั่นคือสิ่งที่ผมภูมิใจมาก เมื่อรู้ว่าเราพิชิตเป้าหมายดังกล่าวได้แล้ว”

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ