กลุ่ม Toyota ครองแชมป์ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน แม้ยอดขายลดลง 1.4% ในปี 2024
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 31 ม.ค. 68 08:14
- 3,574 อ่าน
กลุ่ม Toyota สามารถรักษาตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน เมื่อรวมกับแบรนด์ในเครือทั้งหมดแล้ว ถึงแม้ว่ายอดขายรถใหม่ 2024 จะลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับปี 2023 ก็ตาม
กลุ่ม Toyota ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์รถยนต์อย่าง Toyota และ Lexus มียอดขายรวมทั้งสองแบรนด์ในปี 2024 ลดลง 1.4% โดยขายรวมทั้งโลกได้ทั้งหมด 10,159,336 คัน แต่เมื่อรวมยอดขายจากบริษัทในเครืออย่าง Daihatsu และ Hino แล้ว ยอดขายรวมของกลุ่ม Toyota ทั่วโลกอยู่ที่ 10,821,480 คัน ลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับปี 2023 แต่ก็ยังถือว่า เป็นกลุ่มรถยนต์ที่สร้างยอดขายได้มากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
ตัวเลขยอดขายรถใหม่ปี 2024 นี้ทำให้ Toyota มีความได้เปรียบเหนือกลุ่ม Volkswagen Group ซึ่งประกาศยอดขายปี 2024 ไปแล้วที่ 9,239,500 คัน ลดลง 2.3% จากปีก่อนหน้า ทำให้กลุ่มรถยนต์จากยุโรป ทำยอดขายรวมทั่วโลกเป็นอันดับที่ 2
ความสำเร็จของ Toyota เกิดจากอะไร?
ความสำเร็จของ Toyota ในปีนี้เกิดขึ้นได้จากความหลากหลายของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Combustion Engine) ซึ่งครอบคลุมทุกความต้องการของตลาดทั่วโลก ตั้งแต่รถ Kei Car ขนาดเล็กสำหรับตลาดญี่ปุ่น ไปจนถึงรถ SUV ขนาดใหญ่สำหรับตลาดอเมริกา นอกจากนี้ Toyota ยังมีรถเก๋ง (Sedan), รถกระบะ (Truck), รถมินิแวน (Minivan) และแม้แต่รถสปอร์ตอย่าง Toyota GR86 และ GR Supra แม้ว่ารถสปอร์ตเหล่านี้จะขายได้ในปริมาณไม่มากนัก
ในทางตรงกันข้าม กลุ่มโฟล์คสวาเกนซึ่งมีแบรนด์ในเครือมากกว่าและเน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid-PHEV) กลับไม่สามารถแซงหน้าตัวเลขยอดขายของ Toyota ได้
Hyundai Motor Group ตามหลังเป็นอันดับ 3
สำหรับอันดับ 3 ของผู้ผลิตรถยนต์โลกในปี 2024 คาดว่าจะเป็นของ Hyundai Motor Group ซึ่งรวมแบรนด์ Hyundai, Kia และ Genesis โดยมียอดขายรวม 7.23 ล้านคัน ลดลง 1% จากปีก่อนหน้า
สรุป
แม้ Toyota จะเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ความแข็งแกร่งของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยังคงช่วยให้ Toyota ครองตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Volkswagen และ Hyundai ยังต้องพยายามอย่างหนักเพื่อลดช่องว่างนี้
ข้อมูลจาก Motor1
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com