วิจัยชี้ ลูกค้ากว่าครึ่งไม่เคยใช้ออพชั่นไฮเทค ในรถของพวกเขา

JD Power ชี้จ่ายเงินซื้อออพชั่นไฮเทคทำไมเมื่อเราอาจจะไม่เคยใช้มันในชีวิจจริง ด้านผู้ใช้โอดไม่มีครสอนการใช้งานระบบ

 

 

ทุกวันนี้รถยนต์กลายเป็นอะไรที่มีดีมากกว่าแค่การขับขี่ หรือเป็นเพียงเครื่องมือในการเดินทาง เพราะในปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ต่างพยายามยัดเยี่ยมออพชั่นความล้ำสมัยอำนวยความสะดวกในการขับขี่เข้ามาตอบโจทย์การเดินทางมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

งานวิจัยชิ้นล่าสุดจาก  JP Power   กำลังท้าทายใครหลายคนที่มองว่าออพชั่นไฮเทคล้ำสมัยจะได้ใช้ หรือมีแล้วไม่ได้ใช่ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี เมื่องานวิจัยชิ้นล่าสุดเปิดเผยว่า  ออพชั่นที่ค่ายรถจัดมาให้ กว่าครึ่งแทบไม่เคยถูกใช้งานในยามที่ลูกค้าไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน โดยกว่า 20  %   ของลูกค้ากล่าวว่าพวกเขาไม่เคยใช้ระบบอันทันสมัย ในรถใหม่ของพวกเขา

[IMAGE1]

ในขณะที่การสำรวจยังเจาะลึกไปอีกว่าระบบใดบ้างที่ถูกใช้งานน้อยที่สุดจากตัวผู้ใช้งาน ก็ค้นพบว่า ผู้ใช้กว่า 43 % คิดว่า ระบบผู้ช่วยภายในรถ อย่างระบบ  On star  เป็นต้น กลับถูกใช้งานน้อยที่สุด รองลงมาคือ ระบบเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Mobile router  คิดเป็น 38 % ของผู้ใช้งานทั้งหมดที่คิดว่าพวกเขาไม่เคยได้ใช้งาน ตลอดจนระบบช่วยจอดอัตโนมัติ   ผู้ใช้กว่าร้อยละ 35   กล่าวว่าไม่เคยได้ใช้ และท้ายสุด หน้าจอแสดงผลแบบ  Head Up  Display คิดเป็นร้อยละ  33 และท้ายสุดเป็น Application ที่อยู่ภายในรถ หรือเครื่องเสียงผู้ใช้กว่า  32%   คิดว่าพวกเขาไม่มีโอกาสได้ใช้งานมัน

คริสติน โคลอดจ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายส่วนติดต่อผู้ขับขี่ JD Power  กล่าวเปิดเผยว่า หลายครั้งหลายหน เราค้นพบว่า คนส่วนใหญ่ยังคงใช้มือถือในขณะขับรถมากกว่าจะเชื่อมต่อระบบเข้ากับระบบภายในรถ เนื่องจากพวกเขามีความคุ้นเคยกับระบบในอุปกรณ์ของพวกเขามากกว่า และสนองความต้องการในการใช้งานได้อย่างรวดเร็วกว่า ในสมาร์ทโฟนคู่กาย

[IMAGE1]

[IMAGE3]

ในขณะที่ทางด้านผู้ผลิตรถยนต์และมือถือพยายามอย่างยิ่งในการทำให้ระบบสามารถเชื่อมต่อได้ง่าย แต่กลับเป็นสูญเงินหลายล้านดอลล่าร์ เพื่อพยายามทำให้ลูกค้าเข้ามาเชื่อมต่อ

ในขณะที่ตามรายงานระบุว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มีการแสดงความคิดเห็นว่า ระบบอันล้ำสมัยต่างๆ เหล่านี้ จำเป็นต้องให้คำแนะนำกับลูกค้าเมื่อตอนซื้อรถยนต์จากโชว์รูมที่พวกเขากำลังออกรถใหม่ แต่แม้ว่าระบบเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเกินความจำเป็นในการใช้งานอยู่บ้าง ทว่าผู้ใช้ก็ยังต้องการระบบที่ช่วยให้พวกเขาขับรถได้ง่ายขึ้นและเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่  เช่นระบบ  Adaptive Cruise Control   หรือ Blind Spot Warning

โคลอดจ์ กล่าวเสริมว่า ช่วง 30  วันแรก เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับผู้ใช้ ซึ่งพวกเขาจะพยายามเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ที่มีในรถยนต์ของพวกเขา ซึ่งลูกค้าจะพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้งานระบบให้เป็น

ทั้งนี้ในการสำรวจดังกล่าวของ  JD Power ล่าสุดนี้ (2015 Driver Interactive Vehicle Experience Report) ได้ทำการสำรวจกับเจ้าของรถใหม่กว่า 4,200  คน ที่เป็นเจ้าของรถใหม่ในระยะเวลาไม่ถึง  90  วัน ซึ่งได้ทำการสำรวจมาตั้งแต่เดือนเมษายน-เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com