Royal Enfield อวดรถมอเตอร์ไซค์แต่งสาย Custom จากสำนักแต่งดัง K-Speed และ Zeus

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 1 พ.ย. 64
  • 7,288 อ่าน

ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ รอยัล เอนฟิลด์ ได้ทำการอวดโฉมสาย Custom ทีเดียว 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ‘DIABLO’ the Chopper จากสำนักแต่ง K-Speed และ ‘KHUN’ the Brat Bob จากสำนักแต่ง Zeus เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชื่นชอบได้แต่งบ้าง

Royal Enfield

‘DIABLO’ the Chopper เป็นการนำรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ Royal Enfield Meteor 350 มาตกแต่งใหม่โดยสำนักแต่ง K-Speed โดยให้เหตุผลว่า Meteor เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้น K-Speed จึงรักษาเส้นสายและ DNA ที่สำคัญของตัวรถเอาไว้โดยทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยแต่โดดเด่น ซึ่งทำให้ 'DIABLO' the Chopper ออกมาดูต่างจากรถจักรยานยนต์ประเภทชอปเปอร์คันอื่น การเลือกใช้ตัวถัง ฝาครอบด้านข้าง โช้คอัพคู่หน้า และขอบล้อที่เป็นของเดิมตอกย้ำให้เห็นว่า Meteor นั้นเหมาะสำหรับการคัสตอมที่ไม่หนักแต่แฝงไปด้วยความน่าค้นหา นอกจากนี้ท่อไอเสียก็เป็นอีกหนึ่งในชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษที่น่าสนใจของ Diablo  เพื่อให้เข้ากันกับเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของเฟรมและตัวรถ เสริมให้ Meteor คัสตอมคันนี้เป็นชอปเปอร์ที่ดูสะดุดตามากยิ่งขึ้น

Royal Enfield

ตัวอย่างชิ้นส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ไฟหน้า LED แบบคัสตอม และแฮนด์บาร์พร้อมสวิตช์และมือจับสไตล์เรโทร คลัตช์ และแม่ปั๊มเบรก Takegawa ถังเชื้อเพลิงโครเมียม เฟรมด้านหลังถูกตัดให้สั้นลง พร้อมเบาะหนังแท้เย็บมือ และบังโคลนหลังแบบ bobbed แบบลอยตัว

Royal Enfield

ส่วน  ‘KHUN’ the Brat Bob จากสำนักแต่ง Zeus นั้น “ขุน” ได้แรงบันดาลใจในการแต่งมาจากรถจักรยานยนต์สไตล์ต่าง ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วมารวมกันเป็นรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และบ่งบอกถึงความเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์ Brat ได้เป็นอย่างดี ในครั้งนี้ Meteor ถูกนำมาใช้เป็นต้นแบบเพื่อแสดงถึงความหลากหลายในการใช้งาน และการเลือกใช้จำนวนชิ้นส่วนของตัวรถที่เป็นของเดิมน้อยกว่าชิ้นส่วนที่คัสตอมขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ

Royal Enfield

แฮนด์บาร์ถูกลดระดับลงเพื่อให้ตัวรถดูสปอร์ตมากขึ้น ไฟหน้าเลนส์สีเหลืองขนาด 6 นิ้ว ให้ความรู้สึกเรโทร ส่วนโช้คหน้าและสปริงถูกตัดให้เตี้ยลงเพื่อให้ตัวรถดูแคบลงสะท้อนถึงความคลาสสิคอย่างเต็มที่ ขณะที่ขอบซี่ลวดแบบคลาสสิคช่วยเพิ่มความย้อนยุค ไฟหน้าและไฟท้ายมีขนาดเล็กและดูมินิมอล ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมของตัวรถดูเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเท่

Royal Enfield

การใช้ทองเหลืองสีเข้ม (โลหะที่ใช้กันทั่วไปในงานหัตถกรรมไทย) ช่วยเพิ่มความเป็นไทยให้มากขึ้น ส่วนสี และการตกแต่งก็สร้างความรู้สึกหรูหรา น่าดึงดูดใจ ที่พักเท้าถูกย้ายมาข้างหลังเพื่อให้ท่านั่งมีความเท่มากขึ้น และเหมาะสมกับสไตล์ Brat ได้ดี ขณะที่โช้คหลังถูกตั้งความสูงไว้ที่ 350 มม. เพื่อให้จักรยานยนต์มีความสมดุลย์มากขึ้นในขณะขับขี่ ท่อไอเสียทรงโค้งขึ้นงานโดย Zeus เอง ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สื่อถึงความเป็น Zeus Customs ได้อย่างเต็มที่

Royal Enfield

คุณวิมัล ชุมบ์ลี, หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก, รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “รถจักรยานยนต์คัสตอมที่ถูกเปิดตัวในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตอกย้ำว่ารถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ เป็นรถที่เหมาะสมสำหรับการแต่ง ซึ่งประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ เรายังคงส่งเสริมการให้บริการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านรถจักรยานยนต์ การขยายเครือข่าย เครื่องแต่งกาย หรือชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ของแท้ ดังนั้นเราจึงมีกลุ่มของนักขับขี่ผู้หลงใหลในการปรับแต่งรถจักรยานยนต์เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองของผู้ขับขี่ ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่าย รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแสดงออกถึงความสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักคัสตอมทั่วโลก นอกเหนือจากด้านความสวยงามแล้ว รอยัล เอนฟิลด์ยังคำนึงถึงสมรรถภาพของรถอีกด้วย เรามีรถจักรยานยนต์คัสตอมมากกว่า 25 แบบในประเทศไทย  และเราเชื่อว่าโครงการคัสตอมของเราจะเปิดโอกาสให้นักคัสตอมได้ค้นหาความสร้างสรรค์ในตัวเอง รวมทั้งยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักคัสตอมในท้องถิ่น และผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์อีกด้วย”

Royal Enfield

คุณแอนเดรียน เซลเลอร์, ผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายโครงการคัสตอม, รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการคัสตอมรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งแบบเต็มรูปแบบหรือการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย รถจักรยานยนต์ทุกคันที่นี่ถูกปรับแต่งเพื่อให้สะท้อนถึงบุคลิกภาพของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี นับเป็นความโชคดีของรอยัล เอนฟิลด์ที่ได้มีโอกาสผลิตรถจักรยานยนต์ที่สามารถปรับแต่งได้มากที่สุดในโลก เนื่องจากโครงสร้างที่เรียบง่ายซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งรถของตัวเอง เมื่อเราได้เปิดตัว Meteor 350 เรารู้ดีว่างานปรับแต่งชิ้นแรก ๆ นั้นจะต้องมาจากประเทศไทย และความน่าตื่นเต้นคือการได้ร่วมงานกับ K-speed และ Zeus อีกครั้ง ซึ่งทางเราได้มีโอกาสร่วมงานกับนักคัสตอมฝีมือเยี่ยมทั้งสองท่านมาก่อนตอนทำ Twins แพลตฟอร์ม เราให้ความสนใจกับสิ่งที่สองนักคัสตอมลงมือทำกับเครื่องยนต์ 350 ใหม่ และผลลัพธ์นั้นก็บ่งบอกถึงฝีมือของพวกเขา เป็นการนำเสนอแนวคิด "Easy Cruising" ของรถโมเดลพื้นฐาน Meteor 350 แต่เต็มไปด้วยลักษณะที่โดดเด่น ซึ่งแต่ละคันนั้นบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของนักคัสตอม และศักยภาพชั้นเยี่ยมของ Meteor”

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ