Hands On : BMW X Drive Xperience ประสบการณ์ทางฝุ่นที่ไม่มีวันลืม

  • โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
  • 22 ม.ค. 58
  • 39,489 อ่าน

BMW X Drive Xperience เป็นกิจกรรมที่เพิ่มทักษะการขับขี่ในสภาพเส้นทางที่แตกต่างผ่านรถ X Range จาก BMW


เรื่องและขับทดสอบ โดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (Taey)

ถ้าจะเอ่ยถึงรถยนต์จากดินแดนเมืองเบียร์คงหนีไม่พ้น BMW ที่มีความหลากหลายในตัวสินค้าไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถสปอร์ตและมอเตอร์ไซค์ Motorrad แต่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมามีรถอีกประเภทหนึ่งของ BMW ที่ขายดีไม่แพ้กันนั่นก็คือ BMW ตระกูล X

ซึ่ง BMW ตระกูล X จัดอยู่ในกลุ่ม SAV หรือที่เรียกว่า Sport Activity Vehicles ที่ใช้สำหรับตรวจการณ์ ไปไซด์งาน ไปต่างจังหวัด ผ่านเส้นทางขุรขระ น้ำท่วม หรือสภาพถนนที่แย่ๆที่รถเก๋งธรรมดาๆไม่สามารถไปได้

โดยรุ่น X5 เป็นหัวหอกในการทำตลาดในช่วงแรกๆ ด้วยยอดขายมากกว่า 1.3 ล้านคันตั้งแต่เริ่มจำหน่ายตามมาด้วยรุ่น X3 X6 X1 และ X4 เพื่อเป็นการครบรอบ 15 ปีของการจำหน่ายรถตระกูล X ตั้งแต่ปี 2000 และในปีเดียวกันก็เป็นปีที่ก่อตั้งโรงงานประกอบรถ BMW Manufacturing ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
                    

ทาง BMW Thailand จึงได้จัดกิจกรรม BMW X Drive Xperience เพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะตัวรถ ประสิทธิภาพการใช้งานระบบ X Drive ผ่านรถ ตระกูล X  ทั้ง X1 X3 X4 X5 X6 ที่สนาม Thai Polo & Equestrian Club พัทยา ชลบุรี แต่ Hi-Light ของงานนี้หนีไม่พ้น  2 รุ่นที่ยอดขายจัดอยู่ในอันดับต้นๆทั้ง New X3 X Drive 20d Highline และ X5 X Drive 30d M Sport  ซึ่งทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบ X Drive ด้วยกันทั้งคู่
                   

เริ่มจาก New X3 X Drive 20d  ที่ปรับโฉมมาตั้งแต่งาน Motor Expo ปีที่แล้ว ด้วยไฟหน้าแบบ LED วงแหวนคู่แบบใหม่,กระจังหน้าไตคู่,กันชนหน้าและหลังแบบปรับโฉมใหม่ พร้อมทั้งกระจกมองข้างเพิ่มสัญญาณไฟเลี้ยว ล้อแม็กซ์ลายใหม่ ห้องโดยสารที่ปรับปรุงใหม่ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางที่สุดจุดได้ 550 ลิตร

ส่วนเครื่อง ยนต์ BMW TwinPower Turbo จะมีทั้งเบนซินและดีเซล แต่ตัวชูโรง อยู่ที่เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่ปรับแรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้น จากเดิม 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที เป็น 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที มีเกียร์ออโต้ 8 สปีด Steptronics  สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชม.ทำได้ 8.1 วินาที และมีการปล่อยก๊าซ CO2  เพียง 131 กรัมต่อกม.
                   

X5 X Drive 30d M Sport รถ SAVพี่ใหญ่ในเจน 3 ที่มาพร้อมกับชุดแต่ง M Performance ทั้งชุดกันชนและบันไดสีเดียวกับตัวถัง พร้อมด้วยโลโก้ M ที่พื้นบันไดข้าง กระโปรงหน้ามีช่องอากาศที่ใหญ่เป็นพิเศษ กรอบประตูแบบติดตั้งแถบไฟ และกระโปรงหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ควบคุมแรงกดที่เพลาหลังขณะขับขี่ในย่านความ เร็วสูง พร้อมกับช่วงล่างแบบ Adaptive M พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Damping Control ระบบกันกระแทกแบบถุงลม ชุดล้ออัลลอยน้ำหนักเบา M Double Spoke 469 ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์ขนาด 275/40 R20 ในล้อหน้า และ 315/35 R20 ในล้อหลัง

ภายในมีจุดเด่นตรงที่ฟังก์ชั่นแจ้งสถานะของระบบ X Drive ในรูปแบบกราฟฟิกสามมิติบนหน้าจอ ซึ่งจะแสดงตำแหน่งองศาของตัวรถในแนวนอนและแนวตั้งแบบเรียลไทม์ รวมถึงแสดงเข็มทิศบนแผงหน้าปัด

เครื่องยนต์ของ X5 X Drive 30d M Sport เป็นเครื่องดีเซล คอมมอนเรล BMW TwinPower Turbo เช่นกันกับ X3 เป็นดีเซลขนาด 6 สูบ 3.0 ลิตร  VNT Turbo กำลังแรงม้าถึง 218 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 560 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,000 รอบ/นาที เกียร์ออโต้ 8 สปีด Steptronics Sport สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม.ได้ในเวลาเพียง 7.8 วินาที โดยมีอัตราการประหยัดพลังงานเฉลี่ยที่ 16.9 กม.ต่อลิตร และลดการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 156 กรัมต่อกม.
                 

สำหรับ ระบบ X Drive ที่อยู่ใน X3 X Drive 20d Highline และ X5 X Drive 30d M Sport คือระบบขับเคลื่อน สี่ล้อ แบบ All-Wheels Drive หลักการทำงานผ่านเซนเซอร์ จะทำหน้าที่ในการตรวจจับสภาพการขับขี่อย่างต่อเนื่อง และกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้าและล้อหลังแบบอัตโนมัติตลอดเวลาผ่านการคำนวณ โดยระบบอัจริยะซึ่งอาศัยข้อมูลต่างๆ ทั้งความเร็วรถ อัตราการหมุนของล้อ องศาของพวงมาลัย ตำแหน่งของคันเร่ง เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองระหว่างล้อหน้าและล้อหลังให้สอดคล้องกับความต้อง การของผู้ขับขี่และสภาพท้องถนนได้อย่างลงตัว

สามารถถ่ายกำลังจาก เครื่องยนต์ไปยังเพลาล้อข้างที่ยึดเกาะถนนได้ดีที่สุดในทันที โดยไม่ทำให้ตัวรถมีอาการสะดุดแต่อย่างใด ระบบส่งกำลังและคลัทช์แบบ multiple-plate ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถถ่ายแรงบิดเกือบทั้งหมดจากเครื่อง ยนต์ไปยังเพลาหน้าหรือเพลาหลังได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที ก่อนที่จะกลับสู่การถ่ายกำลังที่อัตราส่วน 40:60 ตามปกติ ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน X Drive มีสมรรถนะในการเกาะถนนและการทรงตัวยอดเยี่ยมในทุกสภาวะอากาศและสภาพการขับ ขี่

เอาละ เล่าสรรพคุณของตัวรถทั้ง 2 รุ่นมาพอสังเขปแล้วคราวนี้เรื่มทดสอบกันเลยดีกว่าภายในสนาม Thai Polo ได้เนรมิตสนามม้าให้กลายเป็นสนามทดสอบรถในรูปแบบ Power Slide จิมคาน่า ที่พื้นสนามเต็มไปด้วยพื้นทราย และด่านจำลองสถานการณ์ ต่างๆซึ่งเป็นธรรมเนียมที่รถประเภทขับเคลื่อนสี่ล้อไม่ว่าจะ Part-Time,Full-Time หรือ All-Wheel Drive จะต้องฝ่าด่านตรงนี้ให้ได้
             

เริ่ม จากด่าน Power Slide  เป็นด่านที่ต้องวิ่งวนเป็นเลข 8 และเป็นพื้นทราย โดยด่านนี้ขับรุ่น X3 20d แรกๆเดินคันแรงไปสุดๆตลอดการวิ่งวน ทำให้เสียการควบคุมรถอยู่บ้าง แต่กลับมาลองอีกรอบพร้อมคำแนะนำจาก ครูฝึกหรือ Instructor อาการของรถที่ออกมา สามารถควบคุมได้ โดยเดินคันเร่งพอควร ควบคุมพวงมาลัยและสติตั้งมั่นของคนขับทำให้ด่านนี้ผ่านไปด้วยดี และได้ความรู้ใหม่และความสนุกเพิ่มมาอีกเลยทีเดียว
              

ด่านต่อมาเป็น ด่าน เนินเอียง 27 องศา เพื่อจับอาการเรื่องการยึดเกาะรถในทางลาดชันเป็นด่านที่เสียวอีกด่านนึง และออกอาการเกร็งหน่อยๆว่ารถจะคว่ำไหมแต่ด้วยพวงมาลัยของรุ่น X3 ที่น้ำหนักกลางๆ ทำให้การควบคุมรถในช่วงเนินเอียงนั้นสบายๆ โดยขับไป-กลับด่านนี้รวมสองรอบ
              

ต่อมาด้วยด่านจิมคาน่า มาคราวนี้มันส์เลยหละสวมวิญญาณนักแข่งดาการ์ แรลลี่ขึ้นมาทันที เราเองคิดในใจว่าจะทำผลงานไม่ดีจนดิสควอลิฟายด์หรือเปล่า ผลออกมาทำได้ 37.83 วินาที โดยไม่หลงไลน์และไม่ชนไพล่อนจนต้องเพิ่มเวลายังดีที่เวลาที่ทำได้นั้นเกาะติดอันดับตั้นๆ
               
              

และสุดท้ายกับด่าน จำลองสถานการณ์ในสภาพป่าและมีภูเขาด้วย มีทั้งด่านขอนไม้สลับ บ่อดิน บ่อน้ำ ทางหิน ท่อนซุงยาวเป็นแนวตั้ง 2 ข้าง คราวนี้เปลี่ยนมาขับรุ่น X5 30d โดยการใช้เกียร์ M1 และเดินรอบเบาๆ ราว 2,000-2,500 รอบ/นาที ตลอดเส้นทางด้วยแรงบิด 560 นิวตันเมตร สามารถฝ่าด่านต่างๆได้แบบชิวๆ โดนเดินคันเร่งไปเบาๆ เมื่อเจอทางลาดชันไม่ว่าจะขึ้นเขาลงเขาครูฝึกได้สาธิตการใช้งาน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) โดยไม่ต้องเหยียบเบรคในช่วงลงเนินอาจมีอาการหน่วงๆบ้างหน่อยแต่ก็ลงแบบช้าๆ นอกจากนี้ยังมีระบบออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSC (Hill Start Control) กันเรื่องรถไหลเมื่อออกตัวในทางลาดชันโดยจะคงเบรคไว้ให้ 3 วินาทีเมื่อเปลี่ยนจากเบรคเป็นคันเร่ง รถจะไม่ไหล่เพื่อให้เหยียบคันเร่งต่อไปได้

สรุป…….ถ้าคิดจะซื้อรถประเภทนี้ ควรเข้ากิจกรรมเสริมทักษะหรือศึกษาการทำงานให้รู้จริง
                 

กิจกรรมนี้ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับลูกค้าที่ใช้รถ BMW ไม่ว่าจะใช้รุ่น X3 X4 X5 และ X6 ที่มีระบบ X Drive อยู่แล้วได้มาลองสภาพถนนแบบนี้สักครั้งในชีวิตและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ไม่ใช่แค่ว่าจะเฉิดฉายบนท้องถนนทางเรียบขับรถไปงานสังคมไฮโซอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าคุณยังห่วงความหล่อของรถตัวเองอย่างเดียวโดยไม่รู้ความจริงเลยว่ารถคันนี้มันทำได้หลายๆอย่าง แล้วถ้าวันหนึ่งคุณต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เอาง่ายๆเลยแค่รถตกหล่ม ถ้ามีระบบขับเคลื่อนแบบนี้มันสามารถช่วยคุณออกจากหลุมบ่อนั้นได้สบายๆ แต่ถ้าเจอเหตุการณ์เดียวกันแต่กลับโวยวาย ร้อนรอนไม่ตั้งสติรบกวนชาวบ้านช่วยเข็นรถแต่กลับถูกปฏิเสธบอกได้เลยว่าคุณ เหนื่อยแน่ๆ
               

และตลอดการทดสอบ BMW X3 20d และ X5 30d ทั้งวันได้รับรู้ถึงประสิทธิของเครื่องยนต์ ตัวรถ คุณสมบัติของระบบขับเคลื่อน X Driveได้ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆความสนุกสนานในการขับขี่เมื่อเจอสภาพถนนสมบุก สมบัน สถานการณ์เลวร้ายคับขัน แถมยังฝึกทักษะการขับขี่ไปด้วยเช่นกัน ขอสารภาพเลยว่าเป็นครั้งแรกจริงๆที่ได้ขับรถในด่านที่ไม่คุ้น โดยฉพาะด่าน Power Slide วิ่งวนเลข 8 ที่ต้องใช้คันเร่งเดินพอควร ควบคุมพวงมาลัยอย่างแม่นยำ เพื่อกันไม่ให้รถเกิดท้ายปัด และควบคุมตัวรถได้อย่างแม่นยำจริงๆถ้ามีโอกาสคงได้ยืมรถรุ่นใดรุ่นหนึ่งใน ตระกูล X นี้จับมาทดสอบอีกทีที Autodeft.com

ราคา BMW X3,BMW X5
– New X3 X-Drive 20d Highline  ราคา  3,499,000.-
– New X5 X-Drive 30d M Sport  ราคา  5,699,000.-


             

เรื่องและขับทดสอบ โดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (Taey)

ขอบคุณ บจก.บีเอ็มดับเบิ้ลยู กรุ๊ป (ประเทศไทย) ที่เชิญทีมงาน autodeft.com เข้าร่วมการทดสอบ BMW X3 และ X5

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com



 

 

5 เรื่องน่าสนใจ