Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Chevrolet Captiva Premier ตัวใหญ่ อุปกรณ์ดี ในราคาเอื้อมถึง

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 25 ก.ย. 62
  • 20,500 อ่าน

ค่ายรถยนต์โบว์ไท บุกตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการโดยก่อตั้งบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งมีหลากหลายรุ่นมากที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อย่างเช่น Chevrolet Zafira, Chevrolet Optra, Chevrolet Sonic รวมทั้งรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง หรือที่เรียกกันว่า SUV C อย่าง Chevrolet Captiva ที่ทำยอดขายได้ดีพอตัว จนทำให้เราเห็นรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้อยู่เต็มท้องถนนทั่วไป

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva เริ่มการผลิตขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 แล้วขายลากยาวมาจนถึงปี 2019 มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจในบางช่วงเท่านั้น จนพวกเราในฐานะที่ติดตามข่าวยานยนต์กันอยู่ตลอด ต่างก็นึกว่า เชฟโรเลตน่าจะเลิกขายรุ่นนี้ไปแล้ว เพราะมันลากยาวเกินกว่า 10 ปี จนบางคนแทบจะลืมไปแล้วว่ารถอเนกประสงค์รุ่นนี้ยังมีจำหน่ายอยู่

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

แต่แล้ววันหนึ่งก็มาถึง เมื่อสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่ง รวมถึงพวกเรา AUTODEFT ด้วย ได้รับหมายเชิญเพื่อเข้าไปรับชมรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ทางเชฟโรเลตเตรียมนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายเป็นคันต่อไป โดยมีการเก็บความลับเอาไว้มิดชิด ไม่บอกใครไปมากกว่านี้ ก่อนที่จะเตรียมกระจายข่าวอย่างเป็นทางการหลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งตอนแรกเอาจริงเราก็ได้ข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ว่า Chevrolet จะมีรุ่นใหม่แหล่ะ แต่เราไม่เคยมี Captiva อยู่ในสมองเลย ตอนแรกก็เดาว่าสงสัยจะเป็น Blazer เวอร์ชั่นผลิตในจีน เพราะเห็นภาพลักษณ์แล้วน่าจะดีถ้าขายในเมื่องไทย และแล้วเมื่อถึงเวลาเปิดม่าน เราก็เลยรู้ว่า รถยนต์รุ่นใหม่ที่ทางค่ายโบว์ไทเตรียมเอามาวางตลาดใหม่ก็คือ Chevrolet Captiva นั่นเอง

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

หลังจากที่มีการเปิดแสดงคันจริงแบบโชว์ภายนอกอย่างเดียวในงาน Motor Show ครั้งที่ผ่านมา ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที กับรถอเนกประสงค์ที่ทางค่ายบอกว่า เป็นรถ SUV C ที่มีราคาในระดับ SUV B พร้อมชูรูปแบบตัวรถที่เหนือใครด้วย 3S นั่นคือ Style, Space และ Smart Technology พร้อมด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึงล้าน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คนทั่วไปที่มีฐานะปานกลางก็สามารถเอื้อมถึงได้ และเชื่อว่ารุ่นนี้แหละ ที่จะกลับมาสร้างความคึกคักให้กับแบรนด์โบว์ไทได้อีกครั้ง และอีกไม่นาน AUTODEFT ก็ได้รับหมายเชิญจากทาง เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) เพื่อเข้าร่วมการทดสอบ Chevrolet Captiva Premier รถยนต์ใหม่ 2019 ทันที โดยเส้นทางเป็นหัวหิน (อีกแล้ว)

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ก่อนเดินทาง เรามารับทราบข้อมูลของ Chevrolet Captiva Premier กันก่อนดีกว่า อย่างที่บอกไปแล้วว่า รถยนต์อเนกประสงค์ขนาด C คันนี้ เป็น Generation ที่ 2 ของรุ่นนี้เท่านั้น รอบนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบ Model Change ที่ไม่มีความเป็นตัวดั้งเดิมคงเหลืออยู่เลย ให้คุณลืมรถ SUV ขนาดคล่องตัว เครื่องยนต์แรงทั้งเบนซินและดีเซลไปให้หมด เพราะรถยนต์รุ่นนี้เป็นการออกแบบร่วมกันกับ SAIC Motor ค่ายรถยนต์จากแดนมังกร ดังนั้นจึงไม่มีการดึงอะไรกลับมาใช้เลย รถมาทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง แต่ตัวที่เราทดสอบในรอบนี้เป็น 7 ที่นั่ง 3 แถว เบาะแถว 2 พับได้แบบ 60:40 และแถวสุดท้ายพับได้แบบ 50:50 ตัวรถมีขนาด 1,835 x 4,655 x 1,760 มม. ฐานล้อกว้าง 2,750 มม. ใต้ท้องสูงจากพื้น 175 มม. น้ำหนักตัวรถรวมประมาณ 1,630 กิโลกรัม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ดับบเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT) และระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ขนาด 1.5 ลิตร ผลิตกำลังได้ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ แปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อม Shiftting Control 8 สปีด ซึ่งตัวเครื่องยนต์นี้ ทางเชฟโรเลตบอกเอาไว้ก่อนเดินทางอย่างชัดเจนว่า จุดขายของเขาไม่ใช่เรื่องเครื่องยนต์ ถึงแม้จะมีแรงบิดสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันก็ตาม

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ช่วงล่างของ Chevrolet Captiva Premier ด้านหน้าใช้เป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้ายหลังเป็นแบบมัลติลิงก์อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดิสก์เบรก ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17 ล้อแม็กซ์อัลลอยลาย 10 ก้านแบบทูโทน ไฟหน้าเป็น LED ปรับระดับ สูง-ต่ำได้ ฝังอยู่ด้านกลางกันชน ต่ำกว่าไฟ Daytime Running Light ที่พาดเป็นเส้นอยู่บนชายกระโปรงหน้าอยู่พอสมควร ล่างสุดเป็นไฟตัดหมอกหลอดฮาโลเจน ส่วนไฟท้ายเป็นฮาโลเจน มีครีบปลาฉลามทำหน้าที่เป็นเสาอากาศ มีไฟสัญญาณเลี้ยวตรงกระจกมองข้าง

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ภายในของ Chevrolet Captiva Premier ตัวเบาะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ที่เหลือปรับมือ พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์เช่นกัน ปรับได้ 2 ทิศทาง ขึ้น-ลง มีปุ่มมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ได้ แผงคอนโซลด้านหน้า มีเสริมส่วน Soft Touch ให้บางจุดด้วยหนังสังเคราะห์สีครีม รวมทั้งที่ประตูด้วย จะมีแต่จุดที่เป็นด้านหลังพวงมาลัยเท่านั้นที่เป็นสีดำเช่นเดียวกับเบาะนั่ง แอร์อัตโนมัติ มีช่องแอร์เสริมให้ทั้ง 3 แถว โดยแถวที่ 2 จะมีเป็นช่องลมตรงกลาง ส่วนแถวสุดท้ายเป็นช่องลมด้านข้าง แต่สามารถควบคุมความแรงลมด้วยตัวเองได้ หน้าปัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่เป็นจอสี ขนาด 7"แบบ TFT ที่ออกจะแปลกไปสักหน่อยตรงที่วัดรอบดันเป็นการหมุนทวนเข็มนาฬิกา ไม่ได้เป็นการหมุนตามเข็มนาฬิกาเหมือนชาวบ้านเขา มีช่อง USB ให้ใช้งานใต้คอนโซลให้ 2 ช่อง และ AUX อีก 1 ช่อง ส่วน 2 มีช่อง USB อยู่ใต้ช่องแอร์ และแถวสุดท้ายมีอยู่ตรงที่วางแก้ว สไลด์โทรศัพท์กันได้แบบยาว ๆ ลำโพงของ Infinity by HARMAN เสียงกลาง 4 ตัว ทวีตเตอร์ 4 ตัว และ ซับวูปเฟอร์อีก 1 ดอก

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ส่วนความภาคภูมิใจนำเสนอจากเชฟโรเลตใน Chevrolet Captiva Premier นั้น ก็คือหน้าจอขนาดใหญ่ 1.04 นิ้วนั่นเอง ใหญ่ที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว (เล็กกว่า Tesla ขนาด 12.3 นิ้วนิดเดียว) เป็นหน้าจอระบบสัมผัส ที่รวบเอาระบบการสั่งการตัวรถมาอยู่ในนี้เกือบทั้งหมด รวมทั้งระบบทำความเย็นด้วย ที่ต้องสั่งการจากหน้าจอนี้ จะเบา จะเร่ง จะตั้งรูปแบบของลม หรืออื่น ๆ ก็จากในนี้ทั้งหมดเลย ไม่มีปุ่มด้านนอกให้กดแล้ว มีระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร เชฟโรเลต ลิงก์ (Chevrolet Link) ที่มันเท่กว่าการใช้งาน Mirror Screen หน้าจอเหมือนทั่วไป คือการที่เราเชื่อมต่อผ่านทางสาย แล้วก็ส่งภาพหน้าจอโทรศัพท์ของเราขึ้นไปที่หน้าจอขนาดยักษ์กลางตัวรถ ที่ดีงามมากก็คือ เราสามารถแตะ, ขยับ, เลื่อน หรือใช้งานจากหน้าจอรถได้เลย ประดุจว่าเราใช้งานโทรศัพท์ตามปกติเลย อันนี้แหล่ะที่เป็น 1 ใน 3S ที่มาจาก Smart Technology อันเป็นตัวชูโรงของคันนี้เลย

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

แต่ความ Smart Technology บน Chevrolet Captiva Premier ยังไม่หมด เพราะรถยนต์ใหม่ 2019 คันนี้ เป็นรถรุ่นแรกภายใต้การจำหน่ายของ เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ที่มาพร้อมระบบ สตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Push Start (มาได้เสียที น้ำตาจะไหล) พร้อมระบบความปลอดภัยมากมาย ทั้ง

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ถุงลมนิรภัย 4 ลูก
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรกแบบไฮดรอลิก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล และล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESC
  • ระบบช่วยการออกตัว ขณะรถอยู่บนทางลาดชัน HSA
  • ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Vehicle Hold
  • กุญแจนิรภัยป้องกันการโจรกรรมแบบ Immobilizer และสัญญาณการเตือนการโจรกรรม
  • กล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะ
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง (360° View Camera)
  • เซ็นเซอร์หน้า- หลัง ช่วยในการนำรถเข้าจอด

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

อึกอุปกรณ์ที่ผมชอบมากถึงมากที่สุดใน Chevrolet Captiva Premier ตกเป็นของ Panoramic Sunroof ไป เพราะมันคือความดีงามของรถอเนกประสงค์คันนี้จริง ๆ โดยตัวหลังคาใส ลากยาวมาตั้งแต่ด้านหน้า ไปถึงยันแถวสุดท้าย ถูกบังแดดบังร้อนด้วยผืนผ้าม่านที่สามารถเปิดปิดได้ด้วยปุ่มด้านหน้า ตัวหลังคาสามารถเปิดออกได้ ใหญ่ขนาดให้คนแถวที่ 2 สอดตัวขึ้นไปยืนถ่ายรูป Selfie กับรถด้านหลังได้ ตัวนี้แหล่ะมันทำให้ภายในตัวรถนั้นดู กว้างงงงง (พอแล้ว) โล่งโปร่งสบายในยามที่โดยสารไปบนรถคันนี้จริง ๆ

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

น่าจะพอแล้วกับการได้รับรู้ข้อมูลตัวรถ Chevrolet Captiva Premier เรามาเริ่มออกเดินทางกันได้เลย รอบนี้เส้นทางปลายทางเราอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ไร่องุ่น Monsoon Valley Vineyard โดยจะเริ่มจากแถวสะพานหัวช้าง แล้วขึ้นทางด่วนยมราช มุ่งหน้าไปลงที่พระราม 2 ก่อนจะวิ่งไปจนถึงแถว อ.เขาย้อย เพชรบุรี แล้วตัดเข้าเส้นที่จะไปอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ทำไมเส้นทางมันคุ้น ๆ) แล้วตรงไปสู่ไรองุ่น จากนั้นก็ย้อนถอยกลับมาแถวสถานีรถไฟหัวหิน และย้อนมาอีกที่ชะอำ เพื่อเข้าสู่ที่พักนั่นเอง ระยะทางในการทดสอบวันแรกของเราตกอยู่ที่ประมาณเกือบ 300 กิโลเมตร

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

เราเดินทางเพื่อทำการทดสอบรอบนี้ ที่ไปคันเดียวกับผมรวมทั้งหมด 4 คน มีผมจาก AUTODEFT, พี่เอ๋ Boxzaracing, น้องภณจาก Pantip Garage และน้องเตอร์จาก 9Carthai โดยกะแรกที่รับหน้าที่ในการขับ Chevrolet Captiva Premier ก็คือผมเอง เริ่มแรกของการขับขี่ก็จะเป็นเส้นทางในเมือง ก่อนที่จะเริ่มไปวิ่งยาวเมื่อลงเส้นพระราม 2 สัมผัสแรกก็คือการนั่ง ที่รู้สึกได้เลยว่าตัวรถนันใหญ่ตามที่เขาคุยจริง ๆ เป็น Space ตามจุดขายเขาเลย ตัวเบาะนั้นไม่นิ่มจนเกินไป นั่งขับไกลได้สบาย ไม่รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหมือนการนั่งเบาะที่นุ่มนิ่มจนตัวจม ความดีงามของหน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว คือการที่มันใหญ่ และมองเห็นได้ง่าย ชัดเจนมากสำหรับคนวัยกลางคนที่สายตาเริ่มไม่ดีแล้ว แต่จากการใช้งานจริงทำให้พบความไม่สะดวกบางอย่างเข้าแล้ว เพราะเมื่อเราต้องการเพิ่ม-ลดอุณหภูมิหรือแรงลมของแอร์ มันกดยากอยู่นะ คือมันไม่ได้เป็นปุ่มที่ใหญ่แบบปุ่มที่ติดลงบนคอนโซลเลย หรือเป็นลูกบิดแบบรถคันอื่น เลยเกิดอาการจิ้ม “วืด” อยู่หลายครั้ง แต่ไม่แน่ถ้าใช้ไปบ่อย ๆ อาจจะแม่นกว่านี้ก็เป็นได้ ส่วนการลิงก์กับโทรศัพท์ผ่าน Chevrolet Link คือความสะดวกสุดของหน้าจอ ถึงแม้ว่าจะไม่มี Apple CarPlay แต่ระบบนี้ก็ให้การใช้งานที่แทบไม่แตกต่างกัน เพราะมันสามารถ Clone หน้าจอโทรศัพท์ขึ้นไปได้เลย แถมกดที่จอกลางได้เหมือนกดหน้าจอโทรศัพท์เลย เปิด Maps และวจะตั้งค่าค้นหา เปิดแอพนุ่นนี่นั่นได้เลย แต่เพื่อความปลอดภัย ทางระบบจะโชว์ได้แค่บางแอพเท่านั้นครับ ไม่ได้ทุกแอพ เหมือนกับ Apple CarPlay นั่นแหล่ะ

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ด้วยความที่เชฟโรเลต เลือกที่จะใช้เครื่องบล็อกเล็ก 1.5 เบนซินเทอร์โบ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ก็ถือว่าเป็นเครื่องที่ดูไปทาง “เล็ก” เกินไปถ้าเทียบกับตัวขนาด แต่ถ้าได้ลองขับจริงแล้ว ถึงแม้ว่ามันไม่ใช่รถที่วิ่งได้ปรู๊ดปร๊าดคล่องแคล่ว แต่มันก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองอย่างสบาย เครื่องยนต์ยังพอตอบสนองการขับขี่ได้พอสมควร แต่คงจะใจร้อนมากไม่ได้ เพราะตัวรถถูกเซ็ตเอาไว้ให้หน่วงกว่าตัวเดิมพอตัว ถ้ากดเต็มเท้า กว่ารถจะเริ่มพุ่งออกไปได้ มีรอนานเกือบ 2 วินาทีได้ แต่ถ้าค่อย ๆ แตะคันเร่งไปเหมือนชาวบ้านส่วนใหญ่ (เวลาเทสผมจะออกแนวไพร่หน่อย กดจมมิดเพื่อลองกำลังเครื่อง อย่าเอาเป็นตัวอย่าง) รถก็พาออกไปได้ตามปกติ สามารถไต่ความเร็วไปจนถึง 175 กม./ชม.ได้ แต่ก็ต้องใจเย็น รอให้รถค่อย ๆ ไหลขึ้นไปก็แล้วกัน แต่ถ้าซื้อมาใช้งานจริง การขึ้นไปแตะความเร็วตามกฎหมาย ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

อีกเรื่องที่ชอบในการขับขี่ในเมืองของ Chevrolet Captiva Premier ก็คือเรื่องของพวงมาลัย ที่เป็นพวงมาลัยไฟฟ้า ซึ่งการขับขี่เบามือมากในช่วงความเร็วไม่มาก ลดความเมื่อยล้าในเมืองได้อย่างดีงาม แต่ช่วงความเร็วสูงอาจจะต้องระมัดระวังหน่อย เพราะมันออกจะเบามือเกินไป แต่อย่างที่บอกแหล่ะครับว่าถ้าเราขับอยู่ในความเร็วกฎหมายกำหนด ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสบาย ส่วนเรื่องช่วงล่างคือความดีงามครับ ตัวรถนิ่งมาก ควบคุมได้ง่าย อาจจะมีท้ายไหลเล็กน้อยในช่วงเข้าโค้ง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะแก้ไขของรถอเนกประสงค์ที่มีความโย่งของตัวมันเองอยู่แล้ว

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ผ่านการใช้งานไปเกือบร้อยกิโลเมตร ก็ถึงช่วงเวลาที่ต้องมาเป็นคนนั่งบ้างแล้ว ช่วงที่ 2 นี้ผมทำหน้าที่เป็นผู้นั่งด้านหน้าก่อน ผมก็ยังสัมผัสของความกว้าง นั่งสบายของ Chevrolet Captiva Premier ได้อยู่ดี และสามารถสนุกกับหน้าจอ 10.4 นิ้วกับ Panoramic Sunroof ได้อย่างเต็มที่ ยิ่งเล่นก็ยิ่งชอบ หลังจากเวลาผ่านไป ก็ได้ขยับลงมานั่งที่แถว 2 บ้าง โหย นั่งได้กว้างกว่าเดิมอีก ตัวเบาะแถว 2 นั้น มันสามารถเลื่อนขึ้นหน้า ถอยหลังได้ ผมลองดันเบาะมาที่ด้านหน้าสุด ผมยังสามารถนั่งได้โดยมีพื้นที่เหลือสำหรับขาขยับได้เล็กน้อย แต่เมื่อถอยหลังสุดเมื่อไหร่ ความสบายนั้นบังเกิดทันที เพราะมันเหลือพื้นที่ Leg Room แบบกว้างมาก ผมตัวใหญ่ สูง 172 ซม. ยังนั่งได้สบายเลย เบาะพิงหลังก็เอนได้สบาย แต่เงื่อนไขนี้จะทำได้ถ้าไม่มีผู้โดยสารด้านหลังนะ เพราะถ้ามีจะทำให้พรรคพวกลำบากขึ้นมาในทันที จากนั้นผมก็ได้ลองลงไปนั่งที่แถวสุดท้าย โดยให้เบาะอยู่ในตำแหน่งปกติ สารภาพว่านั่งไม่ได้ครับ เพราะขาติด มีเนื้อที่เหลือเพียงนิดเดียว แต่ถ้าด้านหน้าขยับเบาะไปด้านหน้าสุด ผมจะนั่งได้เลยครับ แต่คาดว่าน่าจะนั่งได้ไม่เกินชั่วโมง เพราะมันขยับได้น้อยมาก คาดว่าถ้านั่งสัก 2 ชั่วโมงคงต้องตัดขาทิ้งเมื่อลงจากรถ แต่ถ้าใครตัวเล็กกว่าผมสักครึ่งหนึ่ง อาจจะเป็นสาวตัวเพรียวหรือเด็กน้อย ผมว่านั่งได้สบายเลยครับ เรื่องความเย็นไม่ต้องห่วง เพราะมีช่องแอร์ให้ใช้งานได้ แถมยังคุมความแรงลมได้อีก แจ่มกว่าแถว 2 ด้วยซ้ำที่ไม่สามารถปรับแรงลมได้เอง

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

เบาะแถว 2 และ 3 ของ Chevrolet Captiva Premier นั้น สามารถพับได้ทั้ง 2 แถวครับ พับได้เกือบเรียบ เพราะแถว 2 พับแล้วยังมีความเอียงเล็กน้อย แต่มันก็เพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระได้อีกมากมาย พับก็ไม่ยาก ตอบสนองการใช้งานสำหรับครอบครัวที่ชอบขนของได้จริง เดาเอาว่าสามารถยัดจักรยานเสือหมอบได้ 2 คันแบบไม่ต้องลำบากเรียงมาก ออกทริป Adventure ได้เลย

Chevrolet Captiva Premier

สิ่งที่เป็นจุดขาย ใน Chevrolet Captiva Premier ที่ผมชอบอีกตัวก็คือเรื่องของกล้อง 360 องศา ที่ทำให้เราเห็นรถได้รอบคันเลยช่วงถอยหลัง ประกอบกับที่หน้าจอกมีความใหญ่มาก เลยยิ่งทำให้มันยิ่งสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีกเท่าตัว โดยรอบนี้ทางผู้จัดก็ได้มีการทดสอบให้ใช้งาน ด้วยการปิดกระจกมองข้างและมองหลังให้หมด และให้ถอยหลังโดยใช้งานกล้อง 360 องศา เพียงอย่างเดียว แล้วถอยหลังไปตามช่องทางรูปตัว S รวม 2 รอบ แล้วจับเวลาแข่งกันเอง เออ มันใช้งานได้สะดวกจริง เพียงแต่ผมดันทำเวลาอยู่ในตำแหน่งรองบ๊วยเท่านั้นเอง ฮ่า (ขออุบชื่อคนได้บ๊วยนะ เดี๋ยวเขาจะเสียหาย) และอีกส่วนที่ดีงามไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องของการเก็บเสียงของห้องโดยสาร ต่อให้วิ่งเร็วระดับ 140 กม.  / ชม. ก็ยังมีเสียงลมเข้าน้อยมาก เรียกได้ว่าสมกับเป็นรถเชฟโรเลตจริง ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบของห้องโดยสารมาโดยตลอด

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

ส่วนเรื่อง S แรก ก็คือเรื่อง Style ของ Chevrolet Captiva Premier นั้น อันนี้ลางเนื้อชอบลางยาครับ ชอบไม่ชอบก็ขึ้นอยู่ความชอบส่วนบุคคล แต่ที่จะบอกอย่างหนึ่งก็คือ ฝากระโปรงของรถอเนกประสงค์คันนี้ค่อนข้างเรียบขนานพื้นมากครับ วางแก้วน้ำไว้นี่น้ำแทบจะไม่เอียงเลย ก็ถือเป็นเรื่องแปลกดีของการออกแบบ ที่ส่วนใหญ่เราจะเจอฝากระโปรงที่มีความเอียงมากกว่านี้

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

หลังจากจบทริปการทดสอบรอบนี้แล้ว ผมสรุปสิ่งที่ชอบและไม่ชอบได้ดังนี้ครับ

ชอบ

  • หน้าจอ 10.4 นิ้วคือความดีงาม ใช้งานสะดวก เห็นได้ชัดเจน
  • หลังคา Panoramic Sunroof มันคือความโล่งโปร่งสบายที่แท้จริง
  • ที่นั่งแถว 2 กว้างจริง นั่งสบายจริง
  • ห้องโดยสารเงียบมาก เร็วแค่ไหนก็แทบจะลอดเข้ามากวนได้น้อยมาก

ไม่ชอบ

  • เครื่องยนต์ที่ตอบสนองช้าไปนิด เมื่อเราต้องรีบเร่งแซง
  • พวงมาลัยช่วงความเร็วสูงเบาไปหน่อย ถึงแม้จะดีงามในยามขับในเมืองก็ตาม

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier ชูเรื่องเด่นในส่วนของความสะดวกในการใช้งานเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีการชูเรื่อง Performance ด้านเครื่องยนต์เข้ามาเลย ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ เพราะรถอเนกประสงค์คันนี้ใช้งานได้ดีมากถ้าผมเอาอารมณ์คนมีครอบครัว ลูก 2 มาใส่ เพราะมันกว้างขวางพอที่จะให้คนนั่งไปไหนมาไหนสบายตัวตลอดเส้นทาง ตอบโจทย์ในการขนของเยอะได้ มีเทคโนโลยีทั้งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยครบถ้วน แถมราคายังอยู่ที่เพียง 1,199,000 บาทอีกด้วย ซึ่งเป็นระดับราคาที่คนวัยกลางคน มีฐานะหน้าที่การงานอยู่ในระดีับกลางก็สามารถเอื้อมถึง แถมช่วงแรกมีโปรโมชั่นพิเศษ มอบส่วนลด 40,000 บาท สำหรับลูกค้า 300 ท่านแรกที่จองรุ่น LS และลงทะเบียนรับส่วนลดที่โชว์รูมเชฟโรเลต โปรแกรมเช็คระยะ 50,000 กิโลเมตร หรือ 30 เดือน แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน สำหรับ รุ่น LT และ Premier  นอกจากนี้ เชฟโรเลตยังมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% และฟรีประกันชั้น 1 นาน 1 ปี สำหรับลูกค้า แคปติวา ใหม่ ทุกรุ่น โดยต้องจองก่อนวันที่ 6 ตุลาคมนี้เท่านั้น

Chevrolet Captiva Premier

Chevrolet Captiva Premier

คนที่มีครอบครัว มีรายได้ระดับปานกลาง ต้องการหารถที่สามารถไปได้ทั้งครอบครัวแบบสบาย และคนขับไม่ใช่คนใจร้อน ผมว่าคงไม่มีคันไหนเหามะสมกับคุณไปกว่า Chevrolet Captiva Premier อีกแล้วครับ

Chevrolet Captiva Premier

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ