Test Drive: รีวิว ทดลองขับ New Mitsubishi Xpander GT มีดีที่ช่วงล่าง หน้าปรับใหม่ ในราคา 895,000 บาท

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 22 เม.ย. 65
  • 10,065 อ่าน

ว่ากันเรื่องของตลาดรถ MPV แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่วันดีคืนดีก็อยู่ดี ๆ กลับมาคึกคักเฉย หลังจากการเข้ามาใหม่ของ Toyota Veloz แถมผู้เล่นเดิมในตลาดไม่ว่าจะเป็น Suzuki XL7, Toyota Sienta, Mitsubishi Xpander ต่างก็ปรับปรุงใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกันเฉย ทำเอาคนซื้อที่กำลังหารถสไตล์นี้มาใช้งาน ต้องลำบากใจในการเลือกเพิ่มขึ้นอีก

รีวิว Mitsubishi Xpander

ถ้าไม่นับการเปิดตัวใหม่ Mitsubishi Xpander จะเป็นรถอเนกประสงค์ MPV ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดแล้ว รอบนี้จะเรียกว่าเป็น Facelift ก็ได้ หรือจะเรียกว่าเป็น Big Minorchange ก็ไม่ว่ากัน เพราะมีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ทั้งด้านหน้า, ด้านหลัง รวมทั้งภายในด้วย แต่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ค่อยมาว่ากัน

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

รอบนี้ได้รับเชิญจากทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เพื่อร่วมทำการทดสอบรถใหม่ 2022 อย่าง New Mitsubishi Xpander ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงงาน Motor Show 2022 ครั้งที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการประกาศราคาออกมาแต่อย่างใด แต่ผมมาทดสอบในกลุ่มที่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการพอดี เลยทำให้การรีวิวรอบนี้ได้ในส่วนของราคาเพิ่มเติมมาด้วย

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ก่อนการทดสอบนั้น เราก็ต้องมารับรู้เรื่องราวของข้อมูลตัวรถเบื้องต้นกันก่อน โดยการทดลองขับรอบนี้ ได้ขับเป็นตัวท็อปอย่าง New Mitsubishi Xpander GT ที่เปิดราคาขายใหม่เป็น 895,000 บาท เริ่มต้นคงว่ากันเรื่องของใหม่ที่ใส่มาในรอบนี้ก่อน ที่เห็นชัดเจนสุดก็เป็นด้านหน้า ที่เปลี่ยนตัวไฟหน้าใหม่ให้เป็นทรง T-Shape แต่ตัวโคมไฟยังใช้หลอดแบบฮาโลเจนเหมือนเดิม ส่วนในเส้นสายไฟหรี่ (ย้ำว่าไฟหรี่) ยังเป็นเม็ดหลอด LED อยู่ แต่รอบนี้แบ่งเอามาใส่เป็นไฟเลี้ยวไปด้วย แผงตะแกรงด้านหน้าจากเดิมเป็นสีโครเมียม รอบนี้กลับมาเป็นสีดำแล้ว แผงกันกระแทกด้านล่างก็มีการเปลี่ยนใหม่ แต่ยังมีไฟตัดหมอกแบบหลอดฮาโลเจนให้เหมือนเดิม

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ด้านหลังของ New Mitsubishi Xpander GT เปลี่ยนการออกแบบใหม่หมด ไล่มาตั้งแต่ด้านบนตั้งแต่กระจกหลังลงมาจนถึงชายกันชนด้านล่าง ที่รอบนี้ออกแบบมาให้ดูมีเหลี่ยมสันมากขึ้น ลายเส้นชัดเจน และที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือไฟท้ายที่เป็นไฟเบรก จะมาในทรง T-Shape ให้ดูสวยงามมากขึ้น ตามที่ทางมิตซูบิชิเรียกว่า LED-illumination Tube ซึ่งตัวนี้ผมชอบนะ เพราะมันดูสวยงามดีกว่าตัวเดิม ล้อมาด้วยขนาดใหม่ที่ 17 นิ้ว (เดิม 16 นิ้ว) ลายใหม่สี 2 โทน และด้วยตัวนี้นี่เองที่ทำให้ใต้ท้องรถนั้นมี Ground Clearance เพิ่มขึ้นเป็น 220 มม. ได้อีกด้วย

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ภายในปรับใหม่ในส่วนของแผงคอนโซลด้านหน้าทั้งแผง รอบก่อนเป็นลายโค้งสลับไปมา รอบนี้เปลี่ยนให้เป็นแบบ Horizontal Axis นั่นคือการเน้นเส้นให้เป็นแนวนอน ช่วยให้ตัวรถนั้นดูกว้างขึ้นและแข็งแรงขึ้น พวงมาลัยทรงกลมเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด โดยเฉพาะปุ่มกดแตรที่เปลี่ยนเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ถูกใจป๋า ปรับขยับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า EPS บนพวงมาลัยมีปุ่ม Multi-Function เอาไว้ช่วยเปลี่ยนหน้าจอหรือแผงหน้าปัดได้ แอร์เปลี่ยนเป็นหน้าจอระบบดิจิตอล แต่ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ ต้องใช้วิธีในการปรับแรงลมและความเย็นด้วยตัวเอง สิ่งที่ดีหน่อยคือมี Heater ใส่เข้ามาด้วยเผื่อฟลุ๊คได้ใช้ในวันที่หนาวมาก (จะมีให้มั้ย) และมีระบบ Cool Max ให้ใช้งานได้ช่วงที่เพิ่งขึ้นรถแล้วเจอกับอุณหภูมิภายในระดับนรกขุมที่ 108

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

สิ่งที่เปลี่ยนไปภายในอีกอย่างก็คือ วัสดุหุ้มเบาะในแถวที่ 2 และ 3 เป็นหนังสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน ที่ทางมิตซูบิชิเรียกว่า Heat Guard บางคนอาจจะมีคำถามว่า มันเหมือนกับที่ติดลงบน Pajero Sport Elite Edition หรือเปล่า คำตอบคือ วัสดุคนละแบบครับ ของ Pajero Sport Elite Edition จะช่วยทั้งสะท้อนความร้อนและช่วยเก้บความเย็นได้ด้วย แต่ของ Xpander รถยนต์ใหม่ 2022 นั้นจะสะท้อนความร้อนเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วเบาะก็ยังพับได้ในระบบอัตโนมือเหมือนเดิม และสิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างคือระบบหน้าจอ ที่ให้มาเป็นระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รอบนี้รองรับการใช้งาน Apple Carplay และ Android Auto ด้วยนะจ๊ะ

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

การปรับเปลี่ยนรอบนี้ของ New Mitsubishi Xpander GT ไม่ได้มาเฉพาะภาพลักษณ์ แต่ครั้งนี้มีการปรับใหม่ในเรื่องของ Performance ด้วย ของใหญ่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือการเปลี่ยนจากเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ให้มาเป็นเกียร์อัตโนมัติ Eco-dynamic CVT แทน แน่ใจได้เลยว่าเกียร์ชุดนี้จะช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นั้นราบเรียบได้มากกว่าเดิม เครื่องยนต์น่าจะมีการใช้รอบที่ต่ำลงกว่าเดิม และน่าจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้ประมาณหนึ่งเลย ส่วนการขับขี่จะเป็นอย่างไรคงต้องลองขับกันอีกที อีกส่วนที่เปลี่ยนไปคือตัวโช๊คหลัง ที่เปลี่ยนใหม่ให้ตัวกระบอกนั้นใหญ่มากกว่าเดิม ซึ่งทางฝ่ายเทคนิคของมิตซูบิชิได้แจ้งว่า เป็นขนาดเดียวกันกับของ Pajero Sport เลย เพียงแค่ค่าความหนืดไม่เท่ากันนั่นเอง และอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมาแล้วผมนี่ถูกใจสุด ๆ ก็คือการมาของระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold นั่นเอง (เย้ จุดพลุ)

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

เครื่องยนต์ที่เป็นขุมพลังนั้น ยังคงใช้เป็นตัวเดิม กับเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ด้านไอดี MIVEC (Mitsubishi Innovative Value Timing Electronic Control System) รองรับน้ำมันได้สูงสุดที่ E20

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ส่วนระบบความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกที่ใส่มานั้น ก็มีทั้ง

  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • กล้องมองภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็วเกิน 15 กม. / ชม.
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุล ACTIVE STABILITY CONTROL (ASC)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TRACTION CONTROL SYSTEM (TCL)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HILL START ASSIST (HSA)
  • ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM (ABS)
  • ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ELECTRONIC BRAKE FORCE DISTRIBUTION (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรกจะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน BRAKE ASSIST (BA)
  • ระบบไฟนําทางหลังดับเครื่องยนต์ COMING HOME LIGHT
  • ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก WELCOME LIGHT
  • ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ EMERGENCY STOP SIGNAL SYSTEM-ESS
  • ระบบล็อกควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนพวงมาลัย Cruise Control

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

เอาล่ะ เรื่องของข้อมูลน่าจะพอละ เรามาเริ่มกันเรื่องการขับขี่กันเลยดีกว่า ซึ่งการขับขี่ New Mitsubishi Xpander GT นั้น อย่าให้ถึงกับเทียบกับรุ่นก่อนเลย จำแทบไม่ได้แล้วเพราะว่าไม่ได้จับรถรุ่นนี้ไม่น่าต่ำกว่า 3 ปีแล้ว จำได้พอคร่าว ๆ สุด แต่ที่พอจำได้คือเรื่องของขนาดตัวรถ ที่ถือว่าโอ่โถงพอตัวเมื่อเทียบกับเรื่องของราคา ที่นั่ง 3 แถวของเขาก็ไม่ได้แคบอะไรเลย เรื่องความเย็นนั้นทั่วถึงจริง โดยเฉพาะแอร์แถว 2 ที่ไม่ได้มีเฉพาะ Blower ที่เอาลมเย็นจากด้านหน้ามาเป่าให้เย็นทั่วถึงเท่านั้น แต่ในตู้มีคอยล์เย็นเพิ่มอีก 1 แผง เสริมความเย็นเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้เรื่องความเย็นที่อาจจะไม่ถึงแถว 3 นั้นลืมไปได้เลย เย็นฉ่ำทั้งคันแน่นอน ลองแล้ว

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ตัวเบาะนั่งนั้น มันอยู่ในตำแหน่งที่ผมสูง 172 ซม.สามารถหย่อนก้นแล้วลงถึงเบาะได้พอดี ดังนั้นการเข้าออกตัวรถจึงทำได้อย่างสะดวก สัมผัสของตัวเบาะดีขึ้นจริง อาจไม่ได้ดีเท่าเบาะของรถ PPV ร่วมค่ายอย่าง Pajero Sport Elite Edition แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงเลย พวงมาลัยกระชับมือกว่าเดิม เพราะก้านที่อยู่ในจุด 3 และ 9 นาฬิกามันใหญ่ขึ้น ผมเลยรู้สึกว่ากระชับกับมือใหญ่ ๆ บวม ๆ ของผมได้ดีขึ้น สัมผัสของวัสดุก็ดีขึ้น อันนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นจริง ๆ

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

เครื่องยนต์นั้น New Mitsubishi Xpander GT ยังคงใช้เป็นเครื่องยนต์ตัวเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือการเปลี่ยนมาใช้เป็นเกียร์ CVT แทน ซึ่งมันน่าจะเปลี่ยนความรู้สึกในการขับขี่ได้พอประมาณ แต่เอาเข้าจริง อัตราเร่งช่วงแรกก็ยังคล้ายกับตัวเก่า คือต้นยังช้า กลางค่อย ๆ มา ปลายเริ่มเหี่ยว ไม่ได้มีความกระชุ่มกระชวยแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความราบเรียบในการเปลี่ยนเกียร์ แน่นอนว่าจากเดิมที่อัตราทดมีแค่ 4 ช่วง มาตัวนี้ไม่มีรอยต่อ ไหลต่อเนื่องได้เลย และมีการใช้รอบเครื่องยนต์ที่ลดลง ครั้งนี้แอบลองดูรอบเครื่องในช่วงความเร็วระดับ 140 กม./ชม ยังอยู่ที่ระดับ 2,500 รอบ/นาทีเท่านั้นเอง แต่ถ้าถามว่าอัตราเร่งถึงกับใช้คำว่าทันใจได้ไหม คำตอบคือ ไม่เลยครับ ตามสไตล์เครื่องยนต์ 1,500 CC. ที่แบกน้ำหนักระดับนี้ จะเอาคำว่าทันใจมาจากไหน เอาเป็นว่าการขับเป็นแบบใจเย็น ค่อย ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ พอแรงจนแซงได้ แต่ไม่ได้รวดเร็วอะไร

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ที่ดีงามสุดในรอบนี้ คือช่วงล่างที่รู้สึกได้เลยว่า “โคตรดี” รอบก่อนว่าดีแล้ว รอบนี้ดียิ่งกว่า รู้สึกได้ถึงความแน่นที่มีมาให้ วิ่งช้าหรือเร็ว ยังคงไว้ซึ่งความ “นิ่ง” ตลอดเส้นทาง แถมยังได้ความนุ่มนวลสบายในยามขับขี่ ช่วงการเข้าโค้งที่พอสัมผัสได้ช่วงเส้นทางการเดินทางจาก กทม. ไปยังปราณบุรี ก็ถือว่าดีพอตัว แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องเข้าโค้งเท่าไหร่ เพราะเส้นนี้ไม่ได้มีโค้งที่เข้ายากแต่อย่างใด รู้แต่ว่านิ่งดีช่วงที่แอบมุดบ้างตอนรถเยอะก็นิ่งดี พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี ให้ความแม่นยำค่อนข้างดี ไม่ถึงกับดีมากแต่ก็ดีกว่าค่าเฉลี่ยของพวงมาลัยทั่วไป ถ้าได้เครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ไวกว่านี้ คงจะขับสนุกมากกว่านี้

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

สิ่งที่ดีอีกอย่างคือเรื่องการเก็บเสียง ที่ดีเอาเรื่อง ลมกว่าจะเข้าจนกวนหูในระดับน่ารำคาญ ก็ต้องความเร็วระดับ 140 กม./ชม.ไปแล้ว ซึ่งการขับรถในเครื่องยนต์กับขนาดตัวรถนี้ ขับ 120 กม./ชม.กันแบบยาว ๆ อยู่แล้ว ยากนักที่จะยืนระยะที่เร็วกว่านี้ อานิสงส์นี้มาจากกระจกหน้าที่เป็น Acoustic Glass และการบุด้านล่างใหม่ให้เก็บเสียงได้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานเป็นรถสำหรับครอบครัวจริง ๆ 

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

ที่นั่งแถว 2 กับ 3 สารภาพเลยว่ารอบนี้ไม่ได้ลองอย่างจริงจัง ติดขัดเรื่องเวลาที่มีอย่างจำกัด เลยทำให้ยังขาดข้อมูลในส่วนตรงนี้ไป รวมถึงเรื่องอัตราประหยัดและเรื่องของอัตราเร่ง 0-100 ที่ขาดหายไป เอาเป็นว่าตอนนี้กำลังติดต่อขอรถเพื่อมาเพื่อรีวิวเดี่ยว ข้อมูลส่วนนี้ผมเลยขอติดเอาไว้ก่อนนะครับ

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

หลังจากการได้ขับในระยะเวลาหนึ่งแล้วพอประมาณ พอบอกได้ว่าสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือเรื่องของช่วงล่าง ที่ดีขึ้นกว่าเดิมพอตัวเลย พวงมาลัยดีใช้ได้ แม่นพอตัว ห้องโดยสารกว้างขวางดี คุ้มค่าราคา อุปกรณ์ที่ให้มาเพิ่มพวกหน้าจอ 9 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold คือความดีงามที่ได้มา การเก็บเสียงก็ดีเยี่ยม แต่ถ้าถามว่ายังขาดอะไรไป แน่นอนครับว่ายังขาดพวกอุปกรณ์ความปลอดภัยที่คู่แข่งเขามี พวกเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ, เตือนมุมบอดด้านข้างอะไรประมาณสัก 2-3 อย่างก็ได้ ให้รู้สึกได้ว่า ราคาอัพมาขนาดนี้แล้ว ก็น่าจะมีอะไรที่พอสู้กับคู่แข่งที่เข้าตลาดมาใหม่อย่าง Toyota Veloz ได้หน่อย

รีวิว Mitsubishi Xpander

รีวิว Mitsubishi Xpander

การประกาศราคาใหม่ออกมาทั้ง 2 รุ่น เริ่มจากตัวเริ่มต้น New Mitsubishi Xpander GLS-Limited ราคา 799,000 บาท เพิ่มจากเดิมมา 10,000 บาท ส่วนในตัวที่เราทดสอบกันรอบนี้อย่าง New Mitsubishi Xpander GT ราคา 895,000 บาท เพิ่มจากเดิมมา 32,000 บาท ถามว่าคุ้มค่าไหมในราคานี้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ก็ถือว่าคุ้มนะ ได้เพิ่มมาทั้งแม็กซ์ 17 นิ้ว, ช่วงล่างใหม่, เกียร์ใหม่, เบรกมือไฟฟ้า + Auto Hold เบาะสะท้อนความร้อน เพิ่มเงินสามหมื่นกว่าเท่านี้ก็คุ้มแล้ว แต่บังเอิญว่าคู่แข่งที่ออกมาใหม่ดันใส่ออพชั่นมาเพียบในราคาที่ถูกกว่า ก็ต้องยอมรับแล้วล่ะว่า รอบนี้ทางมิตซูบิชิก็ต้องเหนื่อยมากหน่อยเพื่อให้ปั้นยอดขายให้อยู่ในระดับเดิมได้

รีวิว Mitsubishi Xpander

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ