Hands On : Suzuki V Strom 650 มากกว่าแค่ทัวร์ริ่งไบค์

  • โดย : Autodeft
  • 24 เม.ย. 58
  • 22,850 อ่าน

พบบททดสอบรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งที่หลายคนจับตา suzuki V Strom 650 มันอาจจะแพงกว่าคู่แข่ งแต่ถึงแบบนั้นสมรรถนะของมันก็ดีกว่าอย่างชัดเจน จนคุ้มที่จะจ่าย ถ้าคุณกำลังคิดจะขยับซีซี

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

เคยไหม..ครับ ที่กาลเวลาหนึ่ง เราต้องตัดสินใจบางอย่างเพื่อเลือกสิ่งของบางอย่างโดยหวังว่ามันจะดีที่สุดสำหรับเรา อย่าแปลกใจถ้าคุณเคยผ่านจุดนั้นๆแบบเช่นผมมาแล้ว แต่ในบางครั้งก็มักจะอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราเลือกอีกตัวเลือกหนึ่งนั้นมันจะเป็นอย่างไรกัน

น้อยคนนัก ที่จะมีโอกาสได้ทดสอบ หรือทดลองอีกทางเลือกของตัวเอง ยิ่งถ้ากล่าวว่าเกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ด้วยแล้ว มันค่อนข้างยากที่ใครจะให้คุณยืมรถมาลองขับเป็นการส่วนตัวเพื่อพิสูจน์ว่า คุณตัดสินใจถูกหรือผิด แต่นาทีนี้ผมกำลังก้าวเข้าสู่โชว์รูมของ   Suzuki   ย่านคลองสาม จากนี้ไปอีก 4  วัน ผมมีเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ในการตัดสินใจบางอย่างที่ได้ทำเมื่อปีที่แล้ว

Suzuki V Strom 650

ช่วงเวลานี้เมื่อปีกลาย เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากต่อการตัดสินใจ เมื่อการขี่บิ๊กไบค์ เป็นเส้นทางที่ต้องเลือก แต่ยากกว่าว่าเราจะขับมันได้หรือไม่ เป็นการเลือกคู่หูคู่ใจคันแรกที่จะเข้ามาสู่อ้อมอก ภายใต้งบการเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด นั่นทำให้การตัดสินใจ ระหว่างสองรถในสไตล์ทัวร์ริ่งที่ชอบ   Suzuki V Strom   650  ต้องมาแข่งกับ Honda  CB500X   แม้ว่าท้ายสุดเจ้ารถมอเตอร์ไซค์จากค่ายปีนกจะชนะไปอย่างขาดลอย ในโจทย์เรื่องความลงตัวต่อการใช้งาน และราคาค่างวดที่ถูกกว่ากันเกือบๆ 150,000 บาทเลยทีเดียว แต่ว่าใจหนึ่งที่อดสงสัยมานานและวันนี้มีโอกาสที่จะพิสูจน์ คงไม่พ้นว่า แล้ว  Suzuki  V Strom  650   มันเป็นอย่างไร

น้อยคนจะพูดถึงมัน แต่ในต่างประเทศ รถมอเตอร์ไซค์ร่างยักษ์คันนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมากในเรื่องของความลงตัวในการออกแบบ ที่สามารถมาบรรจบกับสมรรถนะในการขับขี่ตามสไตล์ของ   Suzuki  มุ่งเน้นความเร้าใจเหนืออารมณ์ทุกครั้งที่บิดจัดหนักทุกรอบเร่งในยามขับขี่

ใบหน้าสไตล์สปอร์ด้วยไฟหน้าคู่ ออกแบบให้กลมมล ดูคล้ายกับตัวเล็กค่ายคู่แข่งบางเจ้า เป็นสิ่งแรกที่ทำให้บางคนอาจจะรู้สึกว่า Suzuki V storm 650 ออกแบบมาได้ค่อนข้างเอ้าท์ไปหน่อย ชุดแฟรริ่งถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ตัวโตๆ  ช่วยให้รถแหวกอากาศได้ดีในยามเดินทางไกล และที่วิเศษสุด คงน่าจะต้องชื่นชมการออกแบบ กระจกบังลม ที่มีการเสริมกระจกเป็นแบบสองชั้น ช่วยให้ในยามความเร็วสูง แม้แต่คนตัวสูงก็นั่งขับได้ โดยไม่ต้องหมอบ เว้นแต่คุณต้องการทำความเร็วสูงๆ

Suzuki V Strom 650

เบาะนั่ง  Suzuki V strom 650  ทางค่ายจัดการวาดเว้าที่นั่งคนขับเตี้ยลงเล็กน้อย ทำให้คนขับจะอยู่ต่ำกว่าคนนั่งเสียหน่อย แต่แม้จะดูแปลกตาเมื่อพูดถึงรถสไตล์ทั่วริ่ง ที่เราคุ้นเคยในตลาด การเว้าเบาะนั่งแบบนี้กลับช่วยให้คุณสามารถเท้าเหยียบเต็มพื้นในระหว่างที่ต้องใช้ความเร็วต่ำหรือต้องจอดได้มากกว่า ยิ่งกับชายไทยที่มีความสูงส่วนใหญ่ไม่เกิน   170   ซ.ม. เชื่อเลยว่ามันช่วยให้สบายใจในยามขับขี่ได้ไม่มากก็น้อย

ด้านข้าง การออกแบบ  Suzuki V strom 650 ในมุมนี้ มันดูออกแนวคล้ายสปอร์ตมาดขึ้น ชุดแฟรริ่งทางด้านหน้าถูกปรับให้มีความลงตัวทางด้านข้าง ยิ่งกับช่วงที่นั่งคนขับ ถ้าสังเกตให้ดี เจ้าทัวร์ริ่งคันนี้จะมีการเว้าช่วงวางเข่าท่านั่งเพื่อให้มีการหลบลมในยามขับขี่ด้วยความเร็วสูง

แต่ความน่าสนใจของ  Suzuki V strom 650 จากตัวตนที่เราดูมีความเป็นสปอร์ตในตัวตนของมัน เมื่อมองไปยังช่วงบั้นท้าย คุณจะพบความลงตัวตัวในสไตล์ของความเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบ   Enduro  ด้วยการจัดวางท่อไอเสียขึ้นมาค่อนข้างสูง แม้มันจะใกล้ชิดคนนั่งค่อนข้างมาก แต่ก็มีบังความร้อนมาให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ แต่สำหรับใครที่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนท่อไอเสียให้ดุดัน งานนี้คงต้องมองหาบังท่อไอเสียมาติดเพิ่มเพื่อกันคนนั่งด้วยจะดีกว่า

ตัวรถที่ลงตัวในสไตล์สปอร์ตทัวร์ริ่งกึ่งแอบไปทาง  Adventure  เจ้า Suzuki V strom 650 มีขนาดตัวไม่ได้ใหญ่มากมายนัก มันมีความยาว 2,290  มม. กว้าง 835  มม. และสูง 1,405 มม. นอกจากนี้ยังจัดวางระยะฐานล้อให้เหมาะกับการเดินทางไกลมากกว่า ให้ระยะยาว  1,560 มม.

Suzuki V Strom 650

ขึ้นคร่อม Suzuki V storm 650 เจ้าทัวร์ริ่งสายดุคันนี้ ทักทายเราด้วยท่านั่งที่สบายเกินคาด อันที่จริง การเว้าเบาะที่หลายคนอาจจะมองว่ามันประหลาดกลับมีส่วนช่วยอย่างมาก ด้วยความสูงจากพื้น   835 ม.ม.  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมรถในช่วงความเร็วต่ำ หรือยามจอดสนิทก่อนออกสตาร์ท การที่คุณเหยียบพื้นได้เต็มเท้า ทำให้ได้ท่าทางที่ทะมัดทะแมง ไม่ดูจะล้มแหล่ ไม่ล้มแหล่ ซึ่งไม่เท่ห์เอาเสียเลย

ตรงหนเคนขับ  Suzuki V storm 650 ทักทายด้วยมาตรวัดออกแบบผสมผสานระหว่างความเป็นอนาล็อกที่วัดรอบเครื่องยนต์ จัดหนักให้ใช้รอบเครื่องยนต์ได้สูงสุด  10,000 รอบต่อนาที ส่วนฝั่งมาตรวัดดิจิตอล ก็ครบครัน ด้วยฟังชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะตัวบอกตำแหน่งเกียร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ระดับความร้อนหม้อน้ำ ,ระดับน้ำมันในถัง , รวมถึงระยะทางที่ขับขี่ หรือจะปรับดู ระยะทางของรถที่ผ่านการใช้งานมา แต่ทีเด็ดกว่าอยู่ตรงการบอกค่าความร้อนอุณหภูมิภายนอกตัวรถ  ทว่าจะท้ายสุด สิ่งเรารู้สึกว่าน่าจะมี และเป็นทุกครั้งที่ต้องมองหาในยามเร่งรีบ คือนาฬิกาบอกเวลา แม้จะไม่สำคัญเท่ากับ หลายสิ่งที่ทาง  Suzuki  จัดมาให้ แต่ยามที่คุณเดินทางอย่างเร่งรีบไปถึงที่นัดหมาย เวลาบนหน้าปัด ซึ่งคุณแถบจะไม่มีเวลาหมุนข้อมือดู เป็นอะไรที่สำคัญพอสมควร

ได้เวลาบิดกุญแจสตาร์ท Suzuki V storm 650 ต้อนรับด้วยเครื่องยนต์ที่พิเศษกว่า รถมอเตอร์ไซค์สไตล์ทัวร์ริ่งรุ่นอื่นๆในกลุ่มพิกัดขนาดกลางที่วางจำหน่ายในตลาด ด้วยการแนะนำขุมพลังแบบ V Twin  90  องศา เข้ามาประจำการ ในปริมาตรความจุจริง   645 ซีซี ซึ่งจัดการออกแบบเครื่องยนต์ให้เน้นรอบเร่งในการขับขี่ขี่เร้าใจ ด้วยขนาดกระบอกสูบ 81 มม.  มาพร้อมช่วงชัดยาว  62.6  มม.  ค่อนข้างออกแนวไปในทางความสปอร์ตทางด้านวิศวกรรม และให้คุณขับมันส์ๆ กับชุดเกียร์ธรรมดา 6  สปีด

Suzuki V Strom 650

สัมผัสแรกที่สตาร์ทเครื่องยนต์ Suzuki V storm 650 ขึ้นมา เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้ส่วนตัวอยู่แล้วอย่าง   Honda CB500X  ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์ของ  V Storm  ค่อนข้างนิ่งกว่ามาก แรงสันสะเทือนที่ส่งสะท้านถึงผู้ขับขี่ น้อยกว่าค่อนข้างชัดเจน และเมื่อคุณลองบิดเบิ้ลคันเร่งฟังเสียงแห่งความเร้าใจ มันก็ตอบด้วยความดุดันมากกว่าเครื่องสองสูบเรียงที่เราคุ้นเคย

ออกเดินทางช่วงแรกภารกิจชีวิตธรรมดา ก็คงหนีไม่พ้นการเดินทางเข้าเมืองไปทำงาน แม้ว่ามันจะเป็นช่วงสายๆ ของเช้าวันจันทร์ แต่นาทีไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการจราจรในกรุงเทพมหานครนั้น เยอะตลอดเวลา

การเดินทางเข้าเมืองจากย่านรังสิตในวันนี้คงไม่มีอะไรตอบได้ดีกว่าการวิ่งถนนวิภาวดีรังสิตยิงยาวเข้าไปยังแถวดินแดง นาทีนี้ถนนข้างหน้าโล่งไม่มีใครนอกจากเรา และ  Suzuki V strom 650 เราบิดคันเร่ง ตบเท้าเข้าเกียร์ 5  เจ้าทัวร์ริ่งคันนี้พาเราคึกคักในโลกของความเร็ว ด้วยเข็มวัดรอบที่วิ่งอย่างเร็วจี๋หลังจากขับแช่ความเร็วๆ  100  ก.ม./ช.ม. ซึ่งมันใช้รอบเครื่องยนต์อยู่ราวๆ  4,400 รอบต่อนาที

เข้มวัดรอบเร่งอย่างรวดเร็วรถพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วมากพอที่คุณจะรู้สึกได้ถึงความท้าทาย และไม่น่าแปลกใจที่หลังจากเพียงไม่กี่อึดใจเราสามารถมายืนพื้นที่ได้ที่ความเร็ว  150  ก.ม./ช.ม.   ซึ่งในเมืองคุณขับด้วยความเร็วขนาดนี้ ก็ถือว่าอันตรายมากพอตัวแล้วล่ะ

ไม่นานนักการเข้าสู่เมืองชั้นใน Suzuki V strom 650 เริ่มโชว์ศักยภาพในการเดินทางความเร็วต่ำ ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีเกินคาดกว่าที่คิด

จะว่าไปแล้ว ถ้าคุณดูหน้ายางของ  Suzuki V strom 650 จากรายละเอียดทางเทคนิค จะพบว่า เมื่อเทียบกับรถจากคู่แข่ง มันค่อนข้างจะให้หน้ายางที่เล็กกว่าแถมยังออกแบบให้มีความสูงกว่าด้วย โดยทางด้านหน้า มันให้ขนาดมาเพียง  110-80 R19   และด้านหลังให้ขนาด  150-70R17  ซึ่งมากพอที่คุณจะสังเกตมันได้จากสายตาในยามที่รถจอดนิ่ง แต่ในขณะเดียวกันขนาดหน้ายางที่เล็กทางด้านหน้า กลับกลายเป็นข้อดีในการมุดยามรถติด ซึ่งรถจะหักแฮนด์บาร์ได้ง่ายกว่า เสริมความคล่องตัวในยามต้องมุดฝ่าการจราจรที่ติดขัดตามสไตล์ชีวิตคนเมือง

Suzuki V Strom 650

การใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งในเมืองเพียงอย่างเดียวงานนี้ ดูท่าเราจะใจร้ายไปสักนิด ... งานนี้เลยขอลาป่าคอนกรีตหนึ่งวันเดินทางไกลเพื่อลองของ Suzuki V strom 650 กันดูสักหน่อย

แน่นอนว่าความคล่องตัวในเมือง อาจจะฟังแล้วเป็นเรื่องที่ดีในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบโจทย์เรื่องของความคล่องตัวที่ดีเกินคาด และกระจกมองข้างที่ไม่ใหญ่เทอะทะ ทำให้คุณไม่ต้องไปทะเลาะกับหูช้างกระจกรถยนต์ จนถูกกร่นด่าตามหลัง

แต่ความจริงเมื่อมันดี ย่อมมีข้อเสีย และถ้าคุณใช้ในเมืองบ่อยออาจจะมองว่ากระจกขนาดเล็กระทัดรัดทรงสี่เหลี่ยมคางหมูนี่ออกแบบมาลงตัวดีจัง แต่ความจริงแล้วมันอาจจะไม่ดีย่างที่คิด เมื่อเดินทางไกล

เชื่อไหมว่า ผมขับไปปรับกระจกมองข้างไปอยู่นานเอาการ เมื่อออกทริปเดินทางไปชะอำ โดยอาศัยเส้นทางถนนกาญจนาภิเษกแล้วไปต่อยังถนนพระราม 2  ขับลงไปยังเพชรเกษม

กระจกมองข้างขนาดเล็กที่ดีในเมืองกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ จนกว่าคุณจะชินกับมัน เพราะกระจกที่มีความยาวสั้นนั้น ทำให้ คุณจะมองเห็นรถเลนข้างๆ ไม่มากมาย นัก ถามเราก็ถือว่าค่อนข้างอันตรายอยู่สมควร ยิ่งใครที่เป็นสิงห์นักมุดแห่งท้องถนน ตรงนี้ต้องระวังเอาไว้ให้ดีเลย แต่ถ้าขับนิ่งๆ เปลี่ยนเลนแบบชิวๆ กระจกมองข้างก็จะไม่ใช่ปัญหา

Suzuki V Strom 650

ยามขับนอกเมืองแบบนี้ Suzuki V strom 650  ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดี ด้วยความนุ่มนวลของการทำงานจากเครื่องยนต์  V Twin ช่วยให้ได้ความสบายในระหว่างการเดินทาง บนเส้นทางเดียวกันนี้หากเทียบกับ   Honda CB500X  ที่เคยเดินทางมาบนเส้นทางเดียวกัน ต้องยอมรับว่าเจ้า  V Strom  ให้ความสบายในการเดินทางมากกว่า มันไม่รู้สึกเหนื่อยในการเดินทางมากมาย

น่าแปลกที่ความรู้สึกเดียวกันนี้ผมเคยสามารถสัมผัสได้จากรถมอเตอร์ไซค์ประเภท ครุยเซอร์ ซึ่งอาจจะเพรามันใช้เครื่องยนต์ที่มีลักษณะเดียวกัน การกระแทกกระทั้นน้อยกว่า ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ว่าแล้วก็อาจจะเป็นไปได้ ยิ่งนาทีนี้เรากำลังพูดถึงการยืนพื้นที่ความเร็ว   140  ก.ม./ช.ม.  และสามารถรู้สึกเป็นสุขได้กับการเดินทางก็นับว่าเป็นอะไรที่น่าทึ่ง

ถนนโล่งอีกแล้ว แล้วได้เวลาลองความเร็วสูงสุด คุณคิดว่า  Suzuki V Strom  650  จะทำความเร็วกันได้สักเท่าไร ..นาทีนี้เราขับที่ความเร็ว   140  ก.ม./ช.ม.  ก่อนตบเกียร์เข้าสู่ความเร็วสูงสุด รอบเครื่องฟาดขึ้นช่วงความเร็วสูง เราบิดกันจาก  6200 รอบต่อนาที ไต่ไปยัง 9,000 รอบต่อนาที และสูงสุดที่จะไปได้ที่  10,000 รอบต่อนาที ที่รอบเครื่องสูงเช่นนี้แรงกระแทกจากการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ได้มากมายอย่างที่คิด

แต่ตอนนี้ผมและ  Suzuki V strom 650 เร่งมาถึง   180  ก.ม.ช.ม. เรายังทำความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ  500 เมตร ข้างหน้า มีสะพานข้ามคลอง เราต้องเบรกก่อนเพื่อให้ความเร็วเหมาะสมในระยะ 200  เมตร ผมยังบิดต่อ..ความเร็วไต่ขึ้นไป  ใกล้ 190  ก.ม./ช.ม เรายังพอมีเวลา และความเร็วยำทำได้ นาทีนี้  190 …191  และ   192  ก.ม./ช.ม.   เราถึงจุดที่ต้องผ่อนความเร็ว และนั่นเป็นความเร็วสูงสุดที่ทำได้ใน  Suzuki   V Strom  650   ภายในช่วงอึดใจราวๆ  2  กิโลเมตรจะได้

ความดีความชอบอีกประการของ  Suzuki  V Strom  คงต้องยกให้ในยามเข้าโค้งระหว่างการเดนิทาง การใช้เครื่องยนต์แบบ   V Twin  ทำให้คุณคุมรถง่ายกว่าที่คิด อย่าแปลกใจที่การเอนตัวนิดหน่อย หรือแทงไหล่ลงไป นิดเดียว จะทำให้รถเอนตัวเข้าโค้งได้ย่างง่ายดาย โดยที่คุณแทบไม่ต้องใช้รอบเร่งเข้าช่วย

ด้วยส่วนสำคัญจากเครื่องยนต์  v Twin  ซึ่งหนึ่งสูบจะอยู่เยื้องไปทางด้านหน้า อีกสูบจะอยู่ใต้เบาะพอดีนั้นช่วยให้รถมีสมดุลในการขับขี่ที่ดีกว่ายามเข้าโค้ง มันดีพอที่จะทำให้คุณเหนื่อยน้องลงในการขับขี่ ไม่ต้องมาคอยพะวงคิดมากยามเข้าโค้งว่าควรจะเป็นอย่างไร หรือจะต้องเอี้ยวตัวหรือแบนมากแค่ไหนกัน  

และท้ายสุด การขับในเมืองมาจวบจนการขับด้วยความเร็วพอประมาณที่ 140  ก.ม./ช.ม.   มายังปลายทางที่ชะอำ   เรายังเหลือน้ำมันในช่วงขากลับ ไปได้จนถึงสมุทรสาคร  และก่อนเติมน้ำมันกลับคืนถัง เราได้อัตราประหยัดบนหน้าปัด 22.6 ก.ม./ลิตร

 

สรุป..Suzuki V Strom  แพงกว่าดีกว่า ...แต่ต้องยอมจ่าย

 

นาทีนี้ผมกำลังนำเจ้า  Suzuki V strom 650  กลับไปส่ง   Suzuki  ใจก็นึกว่าเสียดายที่เราไม่ได้คบกันมันเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทั้งที่ทีแรกก็คิดว่าจะตัดสินใจ คบหาดูใจ ด้วยงบการเงินที่จะว่าไปไม่ห่างไกลจากรถคู่ใจข้างกาย  Honda CB500X  มากมายนัก

Suzuki V Strom 650

ข้อดีหลักๆที่ทำให้   Suzuki V strom 650 น่าสนใจมากๆ คือการจับเอาส่วนผสมของข้อดีจากรถหลายๆประเภท มารวมเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันเดียวไม่ว่าจะ การเอาข้อดีทางด้านความนุ่มนวลของ  Cruiser   เข้ามาตอบโจทย์ ด้วยเครื่องยนต์แบบ   V Twin , การเอาข้อดีของ   Naked   มาใช้ ในการตอบโจทย์ การขับขี่ในเมือง หรือการออกแบบสไตล์ให้มีความสปอร์ตผสมกับความเป็นเอนดูโร่ ซึ่งจะว่าไปเป็นส่วนผสมที่แปลกดี แต่ก็ลงตัวในการขับขี่และสไตล์ แม้จะขาดเจ้าปากนกตามยุคสมัยไปบ้างแต่มันก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นมากนัก

เช่นเดียวกันการออกแบบเรื่องท่านั่งที่ลงตัวแม้กับคนตัวใหญ่ไซส์ฝรั่ง เป็นอีกจุดที่ดีเกินคาดและต้องขอชมเชย แต่ความลงตัวในการขับขี่เจ้า  Suzuki   V Strom  650  ยังมีดีมากกว่าที่คาด โดยเฉพาะหน้าบัดที่มีมาให้ครบครัน ยิ่งคู่แข่งบางรายขาดเรื่องของไฟบอกตำแหน่งเกียร์ที่ใช้ แม้จะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็สำคัญในยามที่คุณเดินทางเพลิดเพลินใจ

ถ้าถามว่า   Suzuki V strom 650 น่าซื้อหรือไม่ ต้องตอบว่ามันน่าคบหาอย่างมากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความดีความชอบจากเครื่องยนต์   V Twin  ที่จะทำให้คุณลืมรถที่มีซีซีสูงกว่าในระดับ  800  ซีซีไปเลย ด้วยมั่นใจด้วยการควบคุมที่ง่าย และกำลังเครื่องยนต์ที่เหลือเฟือ แต่แน่นอนว่า ด้วยการเป็นรถนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น ทำให้ราคาของมันกระโดดไปมากพอสมควร เมื่อเทียบกับพิกัดในกลุ่มซีซีเดียวกัน ..ทว่าเชื่อเถอะมันคุ้มที่จะจ่าย

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)

รถทดสอบ  Suzuki V storm 650

ราคาจำหน่าย  350,000 บาท

 

สิ่งที่ชอบ >> ความนุ่มนวลจากการใช้เครื่องยนต์  V Twin  ทำให้คุณได้อารมณ์ของความเป็นรถครุยเซอร์ ไม่ว่าจะความนิ่มนวล การควบคุมที่ง่ายดาย และอีกประการท่านั่งของมันดีมากจนคุณไม่เมื่อยล้า รวมถึงหน้าปัดยังมีของจำเป็นต่อการใช้งานในยามขับขี่

 

สิ่งที่ไม่ขอบ >>>  กระจกมองข้างค่อนข้างเล็กไปหน่อย แม้จะมีดียามขี่ในเมือง แต่นอกเมือง ทัศนวิสัยของมันกลับไม่ดีเท่าที่คิดจนอาจจะเป็นอันตรายได้

 

สิ่งที่อยากให้มี >>> การปรับปรุงหน้าตาให้ทันสมัยมากขึ้นกว่านี้ แต่กระนั้น ต้องยอมรับก่อนว่า รถคันนี้มองเผินๆ คุณจะดูเป็นโปลิศแมนเลยล่ะ

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>>  อาจจะจ่ายแพงกว่าหน่อย แต่เชื่อเถอะว่า การควบคุมที่ดี ความนิ่มนวลในการขับขี่ จะทำให้คุณหลงใหลรถคันนี้ โดยปริยาย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY1336]

5 เรื่องน่าสนใจ