Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT แรงดี มีความนุ่ม คุ้มเรื่องความปลอดภัย

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 6 ส.ค. 63
  • 19,151 อ่าน

รถกระบะตระกูล Hilux ไม่ต้องพิสูจน์แล้วว่ามีความนิยมมากขนาดไหนในภูมิภาคนี้ ทำยอดขายเกาะอันดับต้นมาต่อเนื่องทุกปีทั้งในประเทศไทย หรือประเทศอื่นรอบ ๆ แม้กระทั่งฝั่งออสเตรเลียเองก็ยังได้รับความนิยมสูงสุดมาแล้วหลายปี

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ถึงแม้ว่าในยุครถกระบะรุ่นใหม่ Toyota Hilux Revo ที่เปิดตัวโฉมใหม่มาตั้งแต่ปี 2015 จะถูกไล่ตามหรือแซงจากค่ายคู่แข่ง ทั้ง Isuzu หรือแม้กระทั่ง Ford อยู่หลายครา ทำให้โตโยต้าต้องดิ้นรนเพื่อกลับไปอยู่ในจุดสูงสุดอย่างมั่นคงให้ได้ จึงทำให้เกิดรุ่นแต่งพิเศษขึ้นมา นั่นคือ Toyota Hilux Revo Rocco นั่นเอง

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Rocco ถือกำเนินขึ้นมาตั้งแต่ปี 2017 พร้อมกับการ Minor Change ทั้งตระกูล Hilux Revo เวลาผ่านไป 3 ปี รถกระบะตระกูลนี้ก็ได้ปรับเปลี่ยนหน้าตากันใหม่อีกรอบ แน่นอนว่า ต้องรวมไปถึงรุ่นแต่งอย่าง Toyota Hilux Revo Rocco ด้วยเช่นกัน และรอบนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะด้วย ทำให้ทางโตโยต้ามั่นใจหนักหนาว่า งานนี้จะกลับมาทวงบัลลังก์ให้อยู่อย่างต่อเนื่องได้อย่างแน่นอน

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

เพื่อพิสูจน์ว่า การปรับเปลี่ยนครั้งจะดีขึ้นมากขนาดไหน ผมในฐานะทีมงาน AUTODEFT จึงถือโอกาสในการยืมรถทดสอบมาจาก โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เพื่อนำมารีวิวให้ทุกคนได้เห็นกันไปว่า การเปลี่ยนแบบ Big Minor Change รอบนี้ มันดีขึ้นจริงไหม และดีขึ้นมากขนาดไหน โดยนำตัวท็อปสุดอย่าง Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT มาทดลองขับกัน

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ก่อนออกเดินทาง เรามาเริ่มต้นกับการรู้จักตัวรถกันก่อนครับ โดย Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ใช้เครื่องยนต์ใหม่ GD Super Power รหัส 1GD-FTV (High) ขนาดเท่าเดิมคือเครื่องดีเซล 2.8 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo พร้อม Intercooler ระบายความร้อน หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่นแบบคอมมอนเรล (แบบ i-ART) ให้กำลังสูงสุดที่มากขึ้นกว่าเดิมเป็น 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 - 2,800 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4WD ที่เลือกขับเคลื่อนได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L แบบ Shift on the fly มี Differential Lock ที่เฟืองท้าย เปิด-ปิดได้ด้วยการกดปุ่ม

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT มีมิติตัวรถอยู่ที่ 5,325 x 1,900 x 1,815 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อกว้าง 3,085 มม. ใต้ท้องรถสูงจากพื้น 217 มม. ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบ แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแหนบซ้อนก็จริง แต่มีความแตกต่างจากตัวเดิมอย่างมาก เพราะปกติแล้ว ตัวเดิมจะใช้แผ่นแหนบซ้อนกันรวม 5 ชั้น เพื่อรองรับน้ำหนักการบรรทุกที่ดี แต่สำหรับตัวปรับใหม่นี้ จะใช้แผ่นแหนบเพียง 3 ชั้นเท่านั้น แต่เปลี่ยนไปใช้วัสดุชนิดพิเศษที่เรียกว่า High-Tensile Steel ที่ให้ความยืดหยุ่นแต่แข็งแรงมมากกว่าเดิม รวมทั้งการปรับจูนโช๊คด้านหลังใหม่ ให้ความนุ่มนวลอยู่ในระดับเดียวกับรถ SUV หรือ PPV ได้ ทางโตโยต้าเรียกช่วงล่างด้านหลังแบบใหม่นี้ว่า Super Flex Suspension

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

สิ่งที่เพิ่มเติมมาอีกอย่างบน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ก็คือพวงมาลัยแบบ Variable Flow Control หรือ VFC ที่จะปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้ตามความเร็วที่เราขับขี่ เพิ่มความแม่นยำในการควบคุมพวงมาลัยให้มากขึ้นกว่าเดิม ลดความเมื่อยล้าขณะขับได้ ใส่ยาง All-Terrain ขนาด 265/60R18 แบบ White Letters พร้อมล้อแม็กซ์อัลลอยขนาด 18 นิ้วสี 2 โทนลาย 10 ก้าน พิเศษเฉพาะรุ่น Rocco เท่านั้น เบรกด้านหน้าใช้เป็นดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน และด้านหลังเป็นดรัมเบรกเช่นเคย

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ปรับการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ให้ออกเป็นทาง 6 เหลียม เสริมการ์ดสีดำเพิ่มความบึกบึน มีตัดขอบด้วยกรอบโครเมียมเข้าไปบ้างเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความดูดีมีสกุลเข้าไปบ้าง โคมไฟหน้าเป็นแบบ Bi-Beam LED โคมใหม่พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน ปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติตามความสว่างของดวงตะวัน มีระบบเปิดไฟค้าง Follow-me-home กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า (ต้องกดปิดเอง ไม่อัตโนมัติ) พร้อมไฟเลี้ยวบนกรอบ โคมไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ทรงเป็นเลข 3 หรือตัว E (แล้วแต่ว่ามองข้างไหน) ฝากระบะท้ายเพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์ผ่อนแรงยก เบามือตอนปิดดีจริง ๆ (เด็ก 7 ขวบยกได้ พิสูจน์แล้วด้วยลูกสาวผมเอง) มี Sport Bar เพิ่มความหล่อ และพทื้นกระบะมี พื้นปูกระบะ Liner มาให้เรียบร้อย ส่วนไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED ติดอยู่บนฝากระบะ ไม่ใช่กระจกหลัง

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ขยับเข้าไปภายในบ้าง โดย Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT เลือกใช้วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังและหนังสังเคราะห์ผสมกัน เป็นสีดำสลับเทา ตัวเบาะคนนั่งตำแหน่งเดียวที่เป็นปรับแบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนด้านคนนั่งเป็นปรับมือ ส่วนเบาะหลังใช้วัสดุเดียวกัน ตัวพนักพิงไม่สามารถพับได้ แต่จะพับในส่วนของเบาะนั่งได้แบบ 60:40 ใต้เบาะมีช่องเอาไว้เก็บสัมภาระได้ พวกเครื่องมือ และแน่นอนว่าจะต้องมีอุปกรณ์ในการถอดยางมาให้ด้วย ตัวเบาะเองมีสายที่จะเอาไว้ยึดกับตะขอบนพนักพิง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรจุของให้มากขึ้นได้ มีเบาะท้าวแขนที่พับลงมาได้ ในเบาะท้าวแขนมีที่วางแก้วซ่อนอยู่ ดึงออกมาใช้งานได้ แผงคอนโซลด้านหน้า เป็นวัสดุ PP แบบ Hard touch ทั้งหมด ไม่มีส่วนที่เป็น Soft touch เลย จะมีเพียงตรงแผงประตูในส่วนของที่เท้าแขนเท่านั้นที่ใช้การหุ้มหนังสังเคราะห์

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ใช้พวงมาลัยทรงกลม ปรับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง บนพวงมาลัยมีปุ่ม Multi-function ด้านซ้ายเอาไว้ควบคุมหน้าจอเครื่องเสียง ส่วนด้านขวาใช้ควบคุมหน้าจอ MID ในส่วนของข้อมูลรถ ที่ดูได้ทั้งอัตราประหยัด, ระยะทางคงเหลืออะไรพวกนี้ และที่เพิ่มเติมมาก็คือ มีการแจ้งการหันล้อว่าอยู่ในมุมไหนได้อีกด้วย สะดวกเวลาเราถอยเข้าหรือจอดเทียบขวางรถคันอื่น เราจะรู้ได้เลยว่าล้อเราหันตรงหรือยัง นอกจากนี้บนพวงมาลัยก็มีก้านควบคุมระบบ Radar Cruise Control ตามสไตล์ของโตโยต้า แต่เอาจริงนะ ผมไม่ชอบก้านแบบนี้เลย รู้สึกว่ามันไม่สะดวก เอามาติดบนพวงมาลัยแทนได้มั้ยอ่ะ น่าจะใช้งานได้สะดวกขึ้น ส่วนการสตาร์ท ใช้เป็นปุ่ม Push Start ที่ใช้งานร่วมกับกุญแจรีโมท การเปิด-ปิดล็อกประตู ใช้การกดจากรีโมท หรือกดปุ่มบนมือจับที่ประตู ไม่มีระบบ Smart Entry ที่เอามือจับแล้วปลดล็อกได้เลย

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

หน้าจอข้อมูลรถยนต์บน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT แบ่งเป็น 3 ช่อง โดยซ้ายสุดเป็นเข็มบอกวัดรอบและความร้อนของเครื่องยนต์ ช่องขวาสุดเป็นเข็มความเร็วและระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนตรงกลางเป็นหน้าจอ MID จอสีแบบ TFT เป็นช่องเดียวที่เป็นแบบดิจิตอล หน้าจอ Infotainment ใช้ขนาด 8 นิ้วระบบสัมผัส รองรับระบบ Apple CarPlay เชื่อมต่อด้วย USB ที่อยู่ข้างใต้หน้าจอ และระบบไร้สาย Bluetooth มีการส่งเสียงผ่านทางลำโพง 6 ตำแหน่ง ตัวหน้าจอรองรับการใช้งานระบบ T-Connect ด้วย ที่ทำได้ทั้ง

  • FIND MY CAR [ค้นหาตำแหน่งรถ] เช็คตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ได้ทุกเวลา หมดปัญหาจำที่จอดไม่ได้หรือหารถไม่เจอ
  • TheftTrack [ติดตามรถหาย] ตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม พร้อมประสานงานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
  • SOS [ช่วยเหลือฉุกเฉิน] ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
  • Geo-Fencing [กำหนดขอบเขตปลอดภัย] แจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนออกจากจุดจอดหรือขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ใส่แอร์แบบอัตโนมัติมาให้ แต่ไม่ได้เป็นแบบแบ่งโซน มีช่องแอร์ด้านหลังเพิ่มความสบายตัวสำหรับผู้โดยสาร ด้านข้างของปุ่มควบคุมแอร์ มีปุ่มหมุนเลือกระบบการขับเคลื่อนให้เป็นแบบ 2H, 4H และ 4L เปลี่ยนการขับเคลื่อนระหว่าง 2H กับ 4H กันได้โดยไม่ต้องหยุดรถ ขยับลงมาอีกนิดมีช่องแบบ 12V ให้ถึง 2 ช่อง กับ USB อีก 1 (เปลี่ยนเป็น USB 2 ช่อง 12V 1 แทนได้มะ) มีปุ่มเปิดการใช้งาน DAC (Downhill Assist Control) หรือเรียกเป็นไทยว่า ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบปิด Traction Control และปุ่ม Diff Lock ขยับลงมาด้านล่างมีช่องวางแก้วน้ำให้ 2 ช่อง ซึ่งตรงนี้แหล่ะที่ผมใช้แล้วเจอปัญหาเล็กน้อย ก็ตอนที่เอาแก้ว Yeti ขนาดใหญ่มาวาง ไม่ใช่ว่าวางไม่ได้นะ วางได้พอดีเลย แต่ตอนวางนี่นิ้วไปโดนปุ่ม Off ของแอร์อยู่เป็นประจำเลย ดังนั้นเวลาวางจึงต้องใช้สติเยอะหน่อย ส่วนเกียร์นั้นใช้การเลื่อนแบบขั้นบันได มีปุ่ม Eco Mode กับ Power Mode ให้กดเลือกรูปแบบการขับได้ ส่วนในช่องเก็บของตรงกลางด้านข้างคนขับ มีปลั๊กไฟบ้านแบบ 220V แอบซ่อนอยู่ จ่ายไฟได้ขนาด 100W เรียกได้ว่าเสียบสายชาร์จโน๊ตบุ๊คได้อย่างสบาย  

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ขยับมาที่ระบบความปลอดภัยบ้าง โดย Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ใส่มาให้ดังนี้ครับ

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงแบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
  • ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ข้อมูลน่าจะครบแล้ว เดี๋ยวเรามาเริ่มขับรถทดสอบกันเลยดีกว่าครับ ก้าวแรกที่เข้าไปนั่งบนรถกระบะ Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ก็คล้ายแบบเดิมครับ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนมาก ที่นั่งยังคงกว้างขวางนั่งสบาย มุมมองในการขับขี่ก็เห็นได้ชัดเจนทุกมุมมอง เสียดายอย่างเดียวตรงที่ว่าา กระจกมองหลังดันใส่แบบติดแสงปรับมือ ถ้าใส่แบบที่เป็นตัดแสงอัตโนมัติจะแจ่มมากกว่านี้ หน้าจอ 8 นิ้วคือความดีงานในการใช้รถกระบะ เพราะมันเชื่อมต่อใช้งาน Apple CarPlay ได้ คนใช้งาน iPhone อย่างผมเลยสบายใจ เสียบปั๊บ แผนที่ขึ้นปุ๊บ เปิดเพลงได้เป๊ะ สุดจะเพอร์เฟค

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

เริ่มต้นขยับเข้าสู่เกียร์ D แล้วออกเดินทางกันเลย โดยช่วงแรกจะใช้งาน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ในโหมด Normal กันก่อน การเลือกก็ไม่ยากครับ ถ้าที่หน้าจอ MID ไม่ได้แจ้งว่าใช้งานโหมดไหนอยู่ ก็นั่นแหล่ะ โหมดปกติ แต่ถ้ากดปุ่ม ECO Mode หน้าจอก็ะขึ้นแจ้ง นั่นคือขับแบบประหยัด จะกลับมาโหมดปกติก็กดซ้ำไปอีกที หรืออยากแรงก็กด Power Mode ก็จะเปลี่ยนการขับขี่ได้เลย (เอาจริงมาปุ่มเดียวก็ได้นะ ให้มันหมุนวน) แต่สิ่งแรกที่เจอก่อนเลย ก็คือเรื่องของพวงมาลัย Variable Flow Control หรือ VFC นี่แหล่ะ ที่ผมว่าช่วงใช้งานตอนจอดหรือความเร็วต่ำ มันออกไปทาง “หนัก” มากเกินไปหน่อย เข้าใจนะว่ามันคือรถกระบะ แต่การตั้งค่าช่วงใช้ความเร็วต่ำนั้น ใช้ประโยชน์จากระบบใหม่ได้ไม่มากพอ มว่ามันต้องเบากว่านี้อีกระดับหนึ่งเลยนะ ไม่อย่างนั้นคุณผู้หญิงที่ขึ้นมาขับ อาจมีบ่นได้เลย แต่ในช่วงความเร็วเริ่มสูงขึ้น ผมว่าน้ำหนักดีเลย ไม่เบาจนเกินไป ใช้งานได้ง่าย หมุนได้คม ควบคุมดี ไม่แน่ใจว่ามันสามารถตั้งใหม่ได้หรือเปล่านะ

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

กำลังเครื่องยนต์ GD Super Power บน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT นั้น เหลือเฟือสำหรับการใช้งานอย่างมากครับ เอาจริง ๆ นะ เครื่องยนต์ของโตโยต้าในแบบเดิมมันก็ขับสนุกอยู่แล้ว  รอบนี้มีการเพิ่มทั้งแรงม้าและแรงบิด ให้อยู่ในระดับ 204 แรง้มา แรงบิด 500 นิวตันเมตร มันก็เลยมีความสนุกที่สากขึ้น จัดจ้านตั้งแต่เริ่มต้นไปสุดปลาย เรียกได้ว่าขนาดใช้งานแค่โหมด Normal ก็สนุกได้แล้ว แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการความกระโชกโฮกฮาก ก็สามารถเลือกใช้งานในโหมด ECO ได้เลย ผมว่ามันจะช่วยให้การขับขี่นั้นนุ่มนวลมากขึ้นนะ กดคันเร่งแล้วรถค่อย ๆ ไหลออกไปแบบเรียบร้อย ต่อเนื่องยาวไปจนความเร็วสูงได้แบบไม่ต้องรีบร้อน แต่บางจังหวะที่เราต้องการความแรงสูงเช่นช่วงเร่งแซง กดแรง ๆ ให้เครื่องรู้สึกตัวสักไม่เกิน 1 วินาที รถก็ดึงเอาพละกำลังมาจ่ายส่งลงล้อได้อย่างเต็มที่เช่นกัน ซึ่งผมชอบโหมดนี้ที่สุดนะ ไม่ใช่เรื่องของความประหยัด แต่เป็นเรื่องของความเรียบร้อย สมูท ไม่กระโชกโฮกฮาก เหมาะกับชายวัย 40 กว่ามีครอบครัวแล้วแบบผมอย่างมากเลย แต่เมื่อไหร่ที่มีรถมาเร่งเครื่องใส่ ก็จัดให้ด้วยการกด Power Mode ซัดกับคันอื่นได้ทันที เครื่องจะเร่งรอบรอเอาไว้ และเมื่อเรากดคันเร่ง ล้อก็พร้อมหมุนไปด้วยพละกำลังอันมหาศาลได้ทันที กดเร่งไปแล้วปล่อยคันเร่ง เครื่องก็ยังคงประคองรอบสูงรอให้เท้าเรากดคันเร่งเพิ่มไปได้ทันที เอาเป็นว่าต้องการขับขี่สไตล์ไหน รถกระบะคันนี้พร้อมตอบสนองให้ได้ทุกรูปแบบเลย เสียอยู่อย่างหนึ่งคือเรื่องของเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ยังมีจังหวะรอยต่อระหว่างเกียร์ให้เห็นเยอะไปนิดหนึ่ง ไม่เรียบเนียนเหมือนกับบางยี่ห้อที่ทำงานได้ต่อเนื่องและเรียบมากกว่า แต่มันเยอะถึงกับสร้างความรำคาญไหม ก็ต้องบอกว่าไม่นะ อยู่ในจุดที่รับได้ แต่ถ้าเรียบเนียนกว่านี้ก็คงดีไม่น้อย

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

สำหรับช่วงล่าง Super Flex Suspension บน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ก็ต้องบอกเลยว่าคือจุดเปลี่ยนในการขับขี่รถกระบะตระกูลโตโยต้าจริง ๆ การคิดใหม่ทำใหม่ ด้วยการลดแหนบจากปกติที่ 5 ชั้นเหลือ 3 ชั้น และเปลี่ยนวัสดุผลิตแหนบใหม่ให้กลายเป็น High-Tensile Steel และ Setting ส่วนของโช๊คใหม่ ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มนวลของการใช้งานที่ต่างจากตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัด แถมการทรงตัวก็ทำได้ดีมากขึ้นอย่างชัดเจนเช่นกัน ไม่ว่าจะเข้าโค้งด้วยความเร็ว, วิ่งมุดตามช่องจราจรภายในเมือง ก็ทรงตัวได้อย่างดี อาการท้ายโยนเมื่อวิ่งตัวเปล่านั้นมีให้เห็นน้อยลงอย่างมาก แต่ถ้าถามผมว่า ความนุ่มนวลถึงระดับรถ PPV ในสายเลือกอย่าง Toyota Fortuner หรือยัง ก็ต้องบอกว่ายังครับ เพราะเอาจริงมันก็ยังคงความกระด้างบ้างเล็กน้อยอยู่ ก็ต้องเข้าใจว่า มันก็ยังคงเป็นรถกระบะอยู่ดี ต้องรองรับการบรรทุกได้เสมอ จะให้มานุ่มนวลสไตล์รถครอบครัวได้อย่างไรกันเนอะ

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ความดีงามอีกอย่างบน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT คันนี้ก็คือ ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ที่รอบนี้ทำงานได้อย่างเนียนกริ๊บ รอบนี้ผมเอารถวิ่งไปยังชุมพร ก็มีโอกาสได้ใช้งานระบบนี้หลายครั้งมาก ส่วนใหญ่ผมจะตั้งเอาไว้ที่ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วปล่อยให้รถวิ่งไปเองเพื่อพักผ่อนขาหน่อย มันก็วิ่งไปตามความเร็วที่เราตั้งเอาไว้ และเมื่อไหร่ที่รถคันหน้าเร็วต่ำกว่านี้ รถจะเบรกให้อย่างเนียน ๆ ไม่มีการเบรกแรงเหมือนกับบางรุ่นในยี่ห้ออื่นที่เบรกแรงเกินที่คนทั่วไปเบรกกัน และเมื่อรถมีการวิ่งออกไปจากข้างหน้าของเรา รถก็ไม่ได้มีอาการเร่งประดุจกระทืบคันเร่งเพื่อให้ถึงความเร็วที่ตั้งให้เร็วที่สุด แต่จะค่อย ๆ เพิ่มความเร็วประดุจเป็นคนขับจริง ๆ ไต่จนไปถึงความเร็วที่ตั้งไว้อย่างนุ่มนวล และที่ชอบที่สุดคือ เวลาที่มีรถเข้าช่องมาแทรกกลางระหว่าง 2 เรา เอ้ย 2 คัน ถ้าเป็นรุ่นอื่น แบรนด์อื่น รถจะมีอาการเบรกหัวทิ่ม แต่กับรถกระบะรุ่นใหม่คันนี้ไม่เลยครับ เพราะมันจะเริ่มด้วยการถอนคันเร่งก่อน แล้วปล่อยรถให้ไหลเพื่อดูสถานการณ์ ถ้ารถยังคงวิ่งเข้าหาคันหน้า คราวนี้จะค่อยเริ่มเบรกตามน้ำหนักที่เหมาะสม แต่ถ้ารถเริ่มขยับห่างออกไป รถจะค่อยเพิ่มคันเร่งเพื่อวิ่งตามไปให้ทัน แบบนุ่มนวลนั่งสบาย นี่แหล่ะคือระบบ Cruise Control ที่ผมไฝ่ฝันหา แต่มันไม่ทำงานจรถรถหยุดนะ พอความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตร / ชั่วโมง ระบบก็จะตัดการทำงาน พร้อมร้องดัง ปิ๊บ ๆ เตือนให้เรารู้ว่า “เฮ้ย ดูแลเบรกเองได้แล้ว”

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ขยับมาอีกระบบที่อยากจะพูดถึงก็คือ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA บน Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ที่มันจะคอยเตือนเมื่อเราเริ่มขับรถเหยียบเส้นจราจร พร้อมกันนั้นจะทำการดึงพวงมาลัยกลับมาให้อยู่ในเส้นทางอีกครั้ง จากการใช้งานแล้ว ขอบอกเลยว่านี่คือ 1 ในรุ่นที่มีการดึงพวงมาลัยแรงที่สุดแล้ว ดึงแบบรู้สึกได้เลย ซึ่งมันก็ดีนะถ้าขับในความเร็วไม่เกินสัก 80 กม./ชม. แต่รอบนี้ด้วยความที่ต้องขับรถทางไกล เลยต้องมีหวดไปในระดับ 120 กม./ชม. และบางครั้งก็ไปถึง 140 บ้างในบางครั้งคราว สิ่งที่เจอคือ มันดึงแรงมาก แรงจนตกใจ ยิ่งเวลาเราขับเข้าโค้งด้วยความเร็วมากหน่อย (เข้าโค้งเส้นลงใต้ มันก็กว้างอยู่) แน่นอนแหล่ะว่าการขับรถให้อยู่ในเลนมันคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่มันก็ต้องมีบ้างแหล่ะที่เข้าโค้งแล้วรถจะเผลอวิ่งไปเหยียบเส้นจราจรบ้าง สิ่งที่เจอคือมันดึงวูบเลยครับ ความรู้สึกเหมือนรถวิ่งลงหลุมในโค้งประมาณนั้นเลย ตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางอยู่เสมอเมื่อเจอมันดึงพวงมาลัยกลับ สุดท้ายยอมแพ้ ต้องปิดระบบทิ้งไป เอาไว้ใช้ตอนอยู่ในเมืองน่าจะดีกว่า ไม่ได้บอกว่าระบบน้ไม่ดีนะครับ มันดีมากเมื่อขับด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองมาก แต่ถ้าวิ่งเร็ว สำหรับผมไม่เหมาะเลย ดึงแรงเกินไป ถ้าปรับให้ดึงน้อยลงกว่านี้ เอาแค่เตือนเบา ๆ น่าจะดีไม่น้อย

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

รอบนี้ไม่ลืมที่จะทำการทดสอบ 0-100 เพื่อหาอัตราเร่งของ Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT กันเช่นเคย ย้ำอีกรอบว่าใช้การจับเวลาผ่านแอพ iBolid 0-100 บน iPhone 11 รอบนี้ทดสอบทั้งหมด 2 โหมด โดยเป็น Normal 3 รอบและ Power อีก 3 รอบ บนเส้นทางเดียวกันในแต่ละโหมด ผลที่ได้ออกมาดังนี้ครับ

Normal Mode

  • รอบที่ 1 : 9.72 วินาที
  • รอบที่ 2 : 11.30 วินาที
  • รอบที่ 3 : 10.66 วินาที
  • เฉลี่ย : 10.56 วินาที

Power Mode

  • รอบที่ 1 : 9.10 วินาที
  • รอบที่ 2 : 10.62 วินาที
  • รอบที่ 3 : 10.95 วินาที
  • เฉลี่ย : 10.22 วินาที

ถือเป็นอัตราที่ดีมากเลยนะครับ โดยเฉพาะกับการเป็นรถกระบะตัวใหญ่ ยังสามารถทำได้ในอัตราแตะเลข 10 วินาทีได้ โดยโหมด Power สามารถทำได้ดีกว่าเล็กน้อย มาจากการที่รถตอบสนองคันเร่งในตอนออกตัวได้ดีกว่า แต่เมื่อติดแล้วก็วิ่งยาวได้เลยอย่างต่อเนื่อง เห็นตัวเลขนี้แล้วถือว่าเครื่องยนต์ตัวใหม่ทำได้ดีมากขึ้นจริง ๆ

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ผมว่าก็ยังเหมือนเดิมแหล่ะ แต่ที่สัมผัสได้ว่าทำได้ดีขึ้นคือเรื่อของหน้าจอขนาด 8 นิ้วระบบสัมผัส ที่ทำการตอบสนองได้ดีขึ้นกว่าเดิม วิ่งตามนิ้วที่เราปัดไปได้รวดเร็วขึ้น ถือว่ามีการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดี เกือบเทียบเท่ากับโทรศัพท์รุ่นเรือธงของแต่ละค่ายได้แล้วนะ

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

มาถึงอัตราประหยัดน้ำมันกันบ้าง รอบนี้ผมกดแบ่งการใช้งานเป็น 3 รูปแบบคือ เดินทางต่างจังหวัดแบบเร่งรีบ (กดเร่งบ่อยครั้ง ความเร็วยืนแถว 100 -130 กิโลเมตร-ชั่วโมง) ผสมรถติดในช่วง 40 กิโลเมตรแรก ระยะทางที่ใช้ประมาณ 600 กิโลเมตร ได้อัตราที่หน้าจอออกมาที่ 12.0 กิโลเมตร/ลิตร ต่อมาในตอนขากลับจากชุมพรกลับกรุงเทพ ไม่รีบร้อนอะไร ค่อยเร่ง ค่อยเบรก ความเร็วยืนระดับ 90-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทาง 563 กิโลเมตร ได้ออกมาที่ 12.6 กิโลเมตร/ลิตร สุดท้ายกับการใช้งานในเมืองแบบรถติดปานกลาง วิ่งยาวได้บ้างสลับกันไป ได้ออกมาอยู่ที่ 10.6 กิโลเมตร/ลิตร (รูปหาย ขออภัยอย่างสูง #ทุบหัวตัวเอง) เอาจริง ๆ ผมว่าวิ่งทางไกลได้น้อยไปนิด แต่ในเมืองนี่โอเคเลย

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

สรุปรวมความรอบนี้กว่าพันกิโลเมตรกับ Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ได้สิ่งที่ชอบและไม่ชอบประมาณนี้ครับ

ชอบ

  • ช่วงล่างด้านหลังแบบ Super Flex Suspension คือความดีงามที่เด่นชัด นุ่มและหนึบกว่าเดิมมากมาย
  • เครื่องยนต์จากที่ดีอยู่แล้ว ดีขึ้นไปอีก แรงสั่งได้
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติคือขั้นเทพ หาแบบนี้มานานมากแล้ว

ไม่ชอบ

  • พวงมาลัยช่วงวิ่งความเร็วต่ำและจอด หนักมาก หนักเกินไป ผู้ชายอย่างผมยังบ่น ผู้หญิงคงไม่เหลือ
  • ระบบหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA ไม่เวิร์คเมื่อใช้งานในความเร็วสูง ดึงแรงมากไปหน่อย ตกใจ

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT

 Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT ถ้ามองว่ามันเป็นรถกระบะเอาไว้ใช้งานขนของ มันก็ใช่ แต่ผมเชื่อว่าทางโตโยต้าไม่ได้มองว่ารถคันนี้เน้นเพื่อเอาไว้ใช้บรรทุก แต่มันเป็นรถที่ทำมาเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันแบบ Everyday Life แต่ผลพลอยได้คือบรรทุกได้มากกว่ารถเก๋งหรือ SUV ในราคา 1,239,000 บาท (ราคานี้รวมอุปกรณ์ตกแต่งแล้ว) ผมว่าเหมาะกับคนที่ต้องการรถที่ใช้งานได้ทุกวัน แต่บางครั้งอาจจะต้องขนของเพื่อไปขายของตลาดนัด หรือขนส่งของ ที่ทั้งแรงแต่เลือกใช้งานแบบสบายก็ได้ แถมยังหล่อบึกบึนอีกต่างหาก

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ